ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
20 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
8 ข้อคิด พ่อแม่และผู้ใช้รถโปรดนึกถึงเด็ก

8 ข้อคิด พ่อแม่และผู้ใช้รถโปรดนึกถึงเด็ก/สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน



ข่าวคราวเรื่องเด็กเป็นเหยื่อของผู้ขับขี่รถยนต์สร้างความสะเทือนใจทุกครา และหงุดหงิดทุกครั้ง เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยเหลือเกิน ล่าสุดรถบรรทุกก็เพิ่งทับเด็กอายุ 4 ปี เสียชีวิต และก็อดคิดไม่ได้ว่าเด็กที่ต้องประสบอุบัติเหตุทั้งบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ต้องโทษว่าเป็นความผิดของผู้ใหญ่ล้วน ๆ เลยทีเดียว ผิดทั้งผู้ขับขี่ ผิดทั้งผู้ใหญ่ที่ปล่อยให้เด็กเล็กอยู่ตามลำพัง

จริงอยู่ว่า ปัญหาเรื่องการใช้รถใช้ถนนบ้านเราเป็นปัญหาใหญ่ที่ผู้คนไร้ระเบียบวินัย ไม่เคารพกฎจราจร และเห็นแก่ตัวกันมากขึ้นทุกขณะ แต่เมื่อผนวกความประมาทเข้าไปอีก ยิ่งกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งมากขึ้น และเด็กมักตกเป็นเหยื่ออยู่เสมอ

ฉะนั้น พ่อแม่และผู้ใช้รถทั้งหลายโปรดนึกถึงเด็กและระมัดระวังให้มาก โดยเฉพาะเด็กเล็กทั้งหลายที่ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

ประการแรก ห้ามปล่อยให้ลูกเล็กคลาดสายตาเป็นอันขาด

แม้ว่าจะเป็นสถานที่คุ้นเคย เช่น บ้านของเรา บ้านของญาติ หรือสถานที่ที่ไปบ่อยๆ ก็ต้องไม่วางใจเด็ดขาด เพราะเด็กเล็กๆ ชอบวิ่งเล่น และมักจะวิ่งพรวดพราด โดยไม่ได้สนใจสิ่งที่เป็นอันตราย

ประการที่สอง ต้องย้ำเรื่องพื้นที่ต้องห้าม
ต้องบอกซ้ำๆย้ำๆ และเคร่งครัดกับลูกเสมอว่าบริเวณไหนคือบริเวณที่ไม่ปลอดภัย ไม่ควรไปวิ่งเล่น ไม่ว่าจะเป็นถนนในซอยหรือถนนใหญ่ ต้องเป็นสถานที่ต้องห้าม เพราะต้องยอมรับว่าแม้ถนนตรอกซอกซอยก็ประสบอุบัติเหตุได้เหมือนกัน

ประการที่สาม ปลูกฝังวิธีที่ถูกต้องตั้งแต่เล็ก

พ่อแม่ควรปลูกฝังเรื่องการใช้รถใช้ถนนที่ถูกวิธีเป็นอย่างไร ทำอย่างไรเราจึงปลอดภัย เวลาจะข้ามถนนนอกจากต้องข้ามสะพานลอย ทางม้าลาย หรือดูสัญญาณไฟให้เป็น ก็ต้องย้ำด้วยว่าต้องดูรถยนต์ที่วิ่งอยู่ไปมาด้วย เพราะมีผู้ใช้รถที่เคารพกฎจราจร แต่ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ที่ขับขี่แบบมักง่าย และไม่เคารพกฎจราจรด้วย เพื่อให้ลูกเกิดการตระหนักว่าแม้เราเป็นผู้ใช้ถนนก็ต้องมองซ้ายมองขวา ซ้ำไปมาจนมั่นใจว่าปลอดภัยเสียก่อน

ประการที่สี่ ต้องกะระยะของรถให้เป็น

สอนให้ลูกดูว่ารถที่ใช้ความเร็วแต่ละคันไม่เท่ากันต้องดูว่าถ้าคนไหนใช้ความเร็วมากๆ เมื่อต้องเบรกกะทันหันก็ต้องใช้ระยะในการเบรกมากกว่า และรถที่ใช้ความเร็ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุ จะเป็นอันตรายและรุนแรงมากกว่าด้วย

ประการที่ห้า จุดอันตรายต้องบอกให้ชัด

ทุกครั้งที่ผู้ใหญ่ใช้รถต้องคุยกับลูกไม่ให้อยู่บริเวณที่จอดรถเด็ดขาด ไม่ว่าที่บ้านหรือนอกบ้านก็ตาม เพราะบริเวณที่จอดรถเป็นจุดอันตราย เนื่องจากต้องมีรถเลี้ยวเข้าออกอยู่เสมอ เมื่อเห็นพ่อแม่กลับบ้าน ลูกอาจดีใจวิ่งไปหา แต่พ่อแม่อาจมองไม่เห็นเพราะเด็กตัวเล็ก และเด็กมักวิ่งพรวดพราดทันที มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายและบ่อยด้วย และก็ต้องให้ลูกทำเป็นนิสัยไม่ว่าจะเป็นที่จอดรถที่ไหนก็ตาม ห้ามออกไปยืนเด็ดขาด แล้วควรอธิบายด้วยว่าเพราะอะไร มิเช่นนั้น เขาก็อาจยังไม่ตระหนัก

ประการที่หก ถอยหลังทุกครั้งต้องหันไปดู

ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีรถจำนวนมากที่มีจอไฮเทคสามารถดูท้ายรถได้ว่ามีสิ่งกีดขวางใดๆ อยู่หรือไม่ แต่ก็ไม่ควรวางใจฝากไว้กับจอดังกล่าวอย่างเดียว เพราะจอสามารถดูได้เฉพาะท้ายรถ แต่ผู้ขับรถควรดูกระจกซ้ายขวาด้านข้างรถ และหันไปดูรอบข้างให้แน่ใจเสียก่อน จากนั้นค่อยๆ ถอยรถช้าๆ อย่าใช้ความเร็วขณะถอยรถเด็ดขาด

ประการที่เจ็ด รถสูงต้องใช้ตัวช่วย

รถสูงเป็นที่นิยมอย่างมากในยุคนี้ และมีแนวโน้มนิยมมากขึ้นหลังจากที่เกิดปัญหาอุทกภัย ฉะนั้น ผู้ขับขี่รถสูงๆ ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นด้วย เพราะรถสูงบางคันไม่มีกระจกหรือกล้องส่องดูท้ายรถ ควรมีคนช่วยดูท้ายรถทุกครั้งที่ถอยรถ เพราะผู้ขับขี่จะไม่สามารถเห็นท้ายรถได้ ยิ่งถ้าเป็นเด็กมีโอกาสมองไม่เห็น และกลายเป็นข่าวโศกนาฏกรรมบ่อยครั้งเหลือเกิน

ประการที่แปด ฝึกให้ลูกคาดคะเนเป็น

"อาจจะ" คือการคาดคะเนล่วงหน้าว่าอาจเกิดอันตรายได้ อุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนใหญ่เกิดจากการที่ผู้ขับขี่ ขาดการคาดคะเนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา จึงก่อให้เกิดอุบัติเหตุมากมาย ยกตัวอย่าง การขับรถผ่านรถเมล์ซึ่งกำลังจอดรับผู้โดยสารอยู่ข้างหน้า ถ้าผู้ขับขี่คาดคะเนว่า "อาจจะ"มีคนกำลังจะข้ามถนนโดยที่รถเมล์บังอยู่ก็ได้ อุบัติเหตุก็จะไม่เกิดขึ้น ในทางตรงกันข้าม เราก็ควรสอนให้ลูกคาดคะเนด้วยว่าถ้าจะข้ามถนน ก็อาจต้องคาดคะเนว่า “อาจจะ” มีรถออกมาจากซอย หรือเมื่อข้ามถนนหน้ารถเมล์ ก็ควรคิดว่า “อาจจะ” มีรถคันอื่นวิ่งแซงขึ้นมาได้ ก็จะทำให้มีสติ และไม่ประมาทมากขึ้น

ทั้งแปดข้อดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ แต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุกับเด็กจำนวนมาก ถ้าทั้งพ่อแม่และผู้ใช้รถต่างตระหนักถึงเรื่องความปลอดภัยของเด็กอย่างจริงจัง และคิดเสมอว่าโอกาสเกิดอุบติเหตุมีขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเกิดจากตัวเราเองหรือผู้อื่น เชื่อว่าไม่มีใครอยากขับรถแล้วต้องกลายเป็นฆาตกรอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกับเด็ก เป็นเรื่องที่ผู้ใช้รถต้องเพิ่มความระมัดระวังอย่างมาก เพราะเด็กตกเป็นเหยื่ออยู่เสมอ

ลองคิดว่าถ้าอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นกับลูกหลานของเรา เพราะความประมาทของผู้ขับขี่ เราจะรู้สึกอย่างไร ?

….จะเป็นการดีถ้าเราใช้สติและระมัดระวังทุกครั้งที่ขับรถ ที่สำคัญถ้าเราคิดว่าเด็กๆ คือลูกหลานของเรา ก็จะทำให้เราขับรถอย่างมีเมตตามากขึ้น…!!!


ที่มา
//www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000161132


Create Date : 20 ธันวาคม 2554
Last Update : 20 ธันวาคม 2554 23:49:40 น. 0 comments
Counter : 731 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.