|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
เด็ก...ปัญหาชนกับอนาคตของชาติ
เด็ก...ปัญหาชนกับอนาคตของชาติ
เริ่มตั้งแต่รัฐบาลให้มีการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อให้ทันสมัยมากขึ้นและให้ทันต่ออารยประเทศ โดยการเพิ่มเนื้อหาวิชาให้นักเรียนเรียนมากขึ้น โดยมุ่ง
หวังว่าจะทำให้เด็กนักเรียนไทยมีความรู้ความสามารถที่เท่าเทียมกับประเทศเพื่อนบ้านหรืออาจจะนำประเทเพื่อนบ้านถ้าเป็นไปได้ แต่คงลืมนึกถึงความเป็นจริงในสังคมว่า
เด็กนักเรียนของไทยไม่ได้เรียนที่เมืองหลวงหรือเมืองใหญ่เท่านั้นแต่เด็กเกือบทั้งประเทศอยู่ตามชนบทห่างไกลความเจริญ การจะพัฒนาการศึกษาก็ควรจะมองให้ลึกซึ้งกว่านี้ ผลการทดสอบความรู้ความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ประเทศไทยได้อันดับเกือบท้ายๆ แพ้ประเทศเพื่อนบ้านที่เราเคยดูถูกเขาอย่างประเทศเวียดนาม
ทำให้หลายฝ่ายโดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับมาถกความคิดหาทางแก้ไข และสั่งการให้ครูจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ โดยเน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางจนทำให้
ครูอาจารย์หลายท่านสับสนว่าการที่เขาจัดการเรียนการสอนมาตลอดชีวิตการทำงานมันผิดหรืออย่างไรจึงต้องมาเปลี่ยนระบบ และทำให้หลายท่านเข้าใจความหมายของการ
เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางผิดไป และเกิดการจัดระบบแบบที่ทำให้นักเรียนเรียนแย่ลงไปมากกว่าเดิมจนกระทั่งมีนักเรียนออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเป็นระบบ ควายเซ็น
เตอร์ จนเดือดร้อนให้มีการเปลี่ยนแปลงจากนักเรียนเป็นศูนย์กลางไปเป็นเน้นนักเรียนเป็นสำคัญอย่างในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงเป็นไปแบบรวดเร็ว ทำให้ความมั่นคงเกิดขึ้นได้ยาก การศึกษาไทยก็เลยล้มลุกคลุกคลานมาตลอดจนกระทั่งปัจจุบัน เราได้แต่เฝ้ามองดูด้วยความสงสาร
ประเทศที่ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไรดี จะกลับไปเริ่มต้นใหม่ก็ไม่ได้เหมือนลงเรือมาแล้วต้องหาทางพาให้เรือไปถึงฝั่ง ซึ่งกว่าจะถึงฝั่งจะมีคนกระโดดหนีไปเท่าไรก็ไม่ทราบ หลาย
คนหมดแรงต่อสู้ขอนั่งดูอยู่ห่างๆ หลายคนก็ขอลงฝั่งที่ใกล้ก่อน แต่ภาระหนักก็ตกเป็นของคนที่อยู่บนเรือที่ต้องต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ที่จะตามมาในอนาคตข้างหน้าซึ่งยังไม่
รู้จะดีร้ายอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ทำให้ครูไทยเริ่มท้อกับการทำงานก็คือความเครียดที่เกิดจากความคาดหวังของสังคม รัฐบาลอยากให้ครูจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ แต่นักเรียน
หลายคนยังอ่านไม่ออก ครูต้องจัดการเรียนการสอนตามสภาพของเด็ก นักเรียนชอบฟังมากกว่าคิด แต่ต้องพยายามสร้างกระบวนการคิดให้เกิดขึ้นกับนักเรียน ซึ่งเป็นสิ่งที่
ยากมากเพราะการเปลี่ยนความคิดของนักเรียนทำได้ยากต้องใช้เวลานาน แต่เขาอยากเห็นผลลัพธ์เร็วๆ สุดท้ายก็ต้องสร้างผลลัพธ์ตามที่เขาอยากเห็นให้ดู นี่เป็นการพัฒนา
จริงหรือ เรากำลังหลอกตัวเองหรือไม่ ห้ามให้ครูลงโทษโดยการตีเด็ก สมัยก่อนตั้งแต่ปู่ย่าตายายครูลงโทษโดยการตีทั้งนั้น นักเรียนในสมัยนั้นจำสิ่งที่เรียนได้มาจนตลอดชีวิตของเขา และไม่มีใครคิดจะต่อว่าครูที่
ตีกลับสรรเสริญด้วยซ้ำและยังให้สัญลักษณ์ว่าครูต้องคู่กับไม้เรียวจนมีคำกล่าวว่า ไม้เรียวสร้างชาติ แต่ในปัจจุบันมีกฏระเบียบว่าห้ามครูใช้ไม้เรียวตีนักเรียน ให้ลงโทษโดย
วิธีอื่น คนไทยไม่ใช่คนที่มีระเบียบวินัยในตนเอง การพูดคุยหรือตักเตือนได้ผลน้อยและเฉพาะกับบางคนเท่านั้น ส่วนใหญ่ยังชอบความสบาย การลงโทษโดยการหักคะแนน
นักเรียนไม่สนใจเพราะมีกฎระเบียบรองรับให้นักเรียนผ่านช่วงชั้นให้ได้ ครูคนไหนบ้างที่อยากยุ่งยากกับการประเมินแบบนี้จึงมักจะให้นักเรียนผ่านโดยจำใจเพราะถ้าไม่ทำก็
ต้องถูกต่อว่าว่าจัดการเรียนการสอนไม่มีประสิทธิภาพ ฉะนั้นหลายคนก็เลยขาดความเป็นครูเพราะทำดีไปไม่มีคนชอบ ในขณะที่ครูที่ปล่อยเกรดนักเรียนได้รับคำชมว่าสอน
นักเรียนดีจนกระทั่งได้เกรดดีแต่ผลสอบระดับชาติออกมาตก ครูส่วนใหญ่ก็เลยจัดการเรียนการสอนแบบไม่เต็มที่หมายความว่าจัดไปตามแบบที่ผู้ใหญ่ต้องการ อาจจะฝืนตนเองอยู่แต่เพื่อความอยู่รอดของโรงเรียนก็ต้องทำ เหมือนกับ
รักษาหน้าตาโรงเรียน ตกแต่งใบหน้าให้สวยงามพยายามกลบหรือปกปิดริ้วรอยความจริงเอาไว้ ซึ่งหากเวลาผ่านไป ริ้วรอยเหล่านั้นก็จะปรากฏและชื่อของโรงเรียนก็จะ
ถูกลบเลือนไปจนไม่มีความน่าเชื่อถือต่อไป ถ้าเป็นแบบนั้นเราจะรับได้หรือ จะดีกว่าไหมถ้าหากเรายึดความจริงที่เกิดกับตัวนักเรียน เขาอ่านไม่ออกก็ต้องยอมให้ซ้ำชั้นเพื่อให้เขาอ่านออกเสียก่อน อย่าใจร้อนส่งเขาไปชั้นสูงขึ้นเพราะมันเป็นหลีกเลี่ยง
ปัญหาส่งผลเสียให้กับตัวนักเรียน นักเรียนจบมัธยมแต่อ่านหนังสือไม่ได้แบบนี้เสียชื่อโรงเรียน จะดีกว่าไหมหากไม่ใช้เกรดในการคาดหวังให้ครูทำยอดเพื่อให้ได้จำนวนนัก
เรียนที่ทำเกรดได้ตามเป้าหมาย การสร้างคนไม่ใช่การขายสินค้า เพราะถ้าสินค้าไม่ดีความน่าเชื่อถือก็ไม่มี แล้วจะบอกว่าผู้ปกครองส่งลูกเข้ามาเรียนน้อยลงไม่ได้ เพราะ
สินค้าหรือผลผลิตเราไม่มีคุณภาพใครล่ะจะไว้ใจ สุดท้ายปัญหาของการศึกษาในขณะนี้เราไม่ได้โทษใคร แต่อยากให้มองความจริงที่ตัวนักเรียนจริงๆ ไม่อยากให้เอาแค่ตัวเลขมาอวดอ้างกันเพื่อสร้างความภูมิใจปลอมๆ ว่า
โรงเรียนฉันดีมีเด็กนักเรียนเก่ง(เกรดดี)มาก แต่เข้าเรียนต่อระดับสูงขึ้นไม่ได้ เพราะความรู้ที่ตกผลึกในตัวนักเรียนนั้นแทบจะไม่มี เราอยากให้นักเรียนเป็นปัญญาชนเพื่อที่
จะพัฒนาประเทศชาติต่อไปแทนรุ่งเราที่กำลังใกล้ฝั่งมากขึ้น และเราก็ไม่อยากให้เขาเป็น "ปัญหาชน" ที่จะไปทำลายชาติด้วยความไม่รู้ของพวกเรา มาร่วมแก้ไขปัญหาอย่าง
จริงจังเสียเถอะ ขอวอนทุกท่านที่เกี่ยวข้องด้วยหัวใจจริงๆ
Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 28 มิถุนายน 2553 14:10:46 น. |
|
0 comments
|
Counter : 527 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]
|
แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
|
|
|
|
|
|
|
|