ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
14 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
มะเร็งพ่าย 2552 (อาหารต้านมะเร็ง)

มะเร็งพ่าย 2552 (อาหารต้านมะเร็ง)

ตัวช่วยที่สำคัญมากอีกกลุ่ม คือ หลินจือ

หนังสือหลิงจือกับข้าพเจ้า เป็นข้อมูลประสบการณ์ส่วนตัว ของแพทย์ผู้รักษาโดยใช้หลินจือ รักษาโรค โดยเฉพาะมะเร็ง… ส่วนของนพ.สุรพล เป็นตำราที่อธิบาย กลไกการต่อสู้มะเร็งด้วยหลินจือ ในภาษาที่ชาวบ้านอ่านได้

สาระเกี่ยวกับหลินจือ มีสารออกฤทธิ์มากมายหลายกลุ่ม ที่สำคัญคือ กลุ่มโพลีแซคคาไรด์ ซึ่งเป็นคาร์โบฮัยเดรทโมเลกุลเชิงซ้อน ซึ่งต่างจากโมเลกุลเดี่ยว อันหมายถึง กลูโคสเล็กสุด ถัดมาคือ พวกโมเลกุลคู่ ได้แก่มอลโตส ซูโครส แลคโตส ซึ่งทั้งเดี่ยวและคู่เป็นน้ำตาลที่ย่อยแล้ว พร้อมดูดซึมตั้งแต่ในปากถึงกระเพาะ การบริโภคครั้งละมากจึงดูดซึมเร็วทำให้มีปริมาณสูงในเลือด นอกจากอินซูลินต้องหลั่งออกมามากแล้ว ยังไปขัดขวางการปฏิบัติการของเซลล์เม็ดเลือดขาว (อาจเพราะเลือดที่หนืดข้นขึ้น)

แต่ Polysaccharide หมายถึง น้ำตาลเชิงซ้อนสายโซ่ยาว ไม่ถูกย่อยง่ายๆ ในกระเพาะ มักผ่านสู่ลำไส้ ซึ่งที่ลำไส้มีเซลล์เม็ดเลือดขาว แมคโครฟากส์รออยู่จำนวนมาก Polysaccharide จะไปกระตุ้นหรือบำรุงเซลล์ Mo ให้แข็งแรง ประสิทธิภาพเต็มร้อย ทำให้กลืนกินเชื้อโรคหรือเซลล์มะเร็งได้ดี

พบว่าหลินจือมี Polysaccharide มากมายกว่า 50 ชนิด ที่สำคัญ คือ เบตากลูแคน หรือเบตา 1, 3 กลูแคน เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญนี้

โดยองค์การอนามัยโลกยอมรับ / ยกย่องให้หลินจือเป็นกลุ่มสารธรรมชาติดัดแปลงเพื่อการตอบสนองภูมิคุ้มกัน (Biological response modifier – BRM)

นอกเหนือจากฤทธิ์กระตุ้น บำรุงเม็ดเลือดขาวให้ต้านมะเร็งแล้ว Polysaccharide หรือเบต้ากลูแคน หรือ beta 1, 3 glucan หรือกลูแคน ยังถูกยกย่องเป็นสารมหัศจรรย์ในด้านความงามอีกด้วย และกว่า 1,000 ชิ้นงานวิจัย พบว่า กลูแคนในหลินจือมีฤทธิ์แรงกว่าสารสกัดว่านหางจรเข้มาก

เหนือกว่านั้นกลูแคนยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระต้านรังสี UV คือ คุ้มครองเซลล์แลงเกอร์ฮาน และเนื้อเยื่อรอบบริเวณให้พ้นจากพิษรังสียูวี

นอกจากนั้นในหลินจือยังมีกลุ่มสารออกฤทธิ์ไตรเตอร์ พีนอยด์ (triterpenoid) ไปกระตุ้นกระบวนการเกิด Oxidation Reduction Potential (Redox) ภายในเซลล์ ทำให้เซลล์มะเร็งถึงกาลเผาไหม้ภายใน ตายไปเอง อันเป็นภาวะการณ์ที่รู้จักกันในชื่อ Apoptosis (เหมือนฤทธิ์ของขมิ้นชัน) นอกจากนั้น Triterpenoid ยังช่วยลดอักเสบได้ถึงเกือบ 50% อันเป็นประสิทธิภาพเทียบเท่าสารสเตอรอยด์ ไฮโดรคอร์ติโซน ขนาด 5 มก. ส่งผลให้เกิดการลดบวม ลดปวดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อจากมะเร็ง หรือผลเสียจากการฉายรังสีและคีโม

อีกกลุ่มสารสำคัญในหลินจือ คือ ออร์แกนิค เยอร์มาเนียม เป็นตัวปรับศักย์ไฟฟ้า ทำให้เซลล์รับ O2 ได้เพิ่มขึ้น เม็ดเลือดแดงรับ O2 ได้เป็น 1.5 เท่า มีผลต่อการประหยัดออกซิเจน ทำให้เซลล์ปกติมีพลังเชื้อเพลิงมาก ในขณะที่เซลล์มะเร็งไม่ชอบออกซิเจน…มีการทดสอบพิษเยอร์มาเนียม ให้หนูได้รับขนาดความเข้มข้น 1000 เท่าของที่มีในเห็ดหลินจือ ผลนอกจากไม่พบพิษแล้ว ยังช่วยพาโลหะพิษ เช่น แคดเมียม ปรอท และสารก่อมะเร็งอื่นๆ ออกไปพร้อมกัน

วิธีกำจัดเซลล์มะเร็งของเยอร์มาเนียม คือ เข้าไปจับคู่กับอิเลคตรอนจากผนังเซลล์ในระยะแบ่งตัว ทำให้เซลล์แบ่งตัวต่อไม่ได้

สำหรับสารเยอร์มาเนียม ซึ่งช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งนั้น ยังพบได้ในกระเทียม ว่านหางจรเข้ โสม ส่วนในเห็ดหอมชิตาเกะก็น่าจะมีด้วย โดยพบว่าหลินจือมีความเข้มข้นของสารนี้สูงสุด

ทฤษฎีประหยัดออกซิเจนที่ได้จากหลินจือ ช่วยให้อาการป่วยบนที่สูงบรรเทาหรือป้องกันได้ เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เนื่องจากมี O2 เพิ่มขึ้น รวมไปถึงอาการมือสั่น เดินส่าย (พาร์กินสัน) แม้กระทั่งอาการกัดปากตัวเองบ่อยๆ ก็มี ผู้สังเกตว่าอาการดีขึ้น

สารในหลินจือยังช่วยลดอาการตับแข็ง และจับตัวเป็น ไขมัน

ที่มีประโยชน์มากคือ แผลมะเร็ง แผลจากรังสี เม็ดเลือดขาวต่ำ ท้องเสียจากรังสีหรือคีโม พบว่าสารสำคัญในหลินจือ ช่วยลดอักเสบ บวม ปวด

สารสำคัญอีกตัวในบทบาทต้านมะเร็ง คือ น้ำมันปลา ทั้งที่เป็นกรดไขมัน ในขณะที่เราห้ามกินไขมันเพราะไปส่งเสริมสภาวะกรดที่มะเร็งชอบ และเป็นปัจจัยก่อสร้างผนังเซลล์ และผนังไมโตคอนเดรีย แต่น้ำมันปลากลับเป็นสิ่งตรงข้าม

ในการประชุมของสถาบันวิจัยมะเร็งของอเมริกา ครั้งสำคัญล่าสุดในปี 2006 มีการเสนองานวิจัยมากมายที่ค้นพบว่า n3 ชะลอการแบ่งตัวจนหยุดการโตของเซลล์มะเร็งตับ ในหลอดทดลอง รวมไปถึงมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด ลำไส้ใหญ่ ต่อมลูกหมาก

ในขณะที่ n6 หรือน้ำมันพืชถูกตราว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริง…

อธิบายกลไกว่า n3 เป็นตัวต้านอักเสบ และไปแย่งกระบวนการผลิตเอนไซม์ (COx) ที่เป็นตัวสนับสนุนการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง และการสร้างอักเสบร่วมกับ n6 โดย n3 เป็นตัวควบคุมให้เซลล์โตตามธรรมชาติไม่ผิดเพี้ยน หรือทำลายรหัสพันธุกรรมที่ผิดเพี้ยนของเซลล์ที่ผิดปกติ (Apoptosis)

พบว่า n3 ระงับการสร้างเส้นเลือดใหม่ในก้อนมะเร็ง และระงับการกระจายตัวของมะเร็งไปยังที่ต่างๆ

อีกทั้ง ยับยั้งการเกิดไนโตรเจนออกไซด์ (NO) ซึ่งเกิดระหว่างมีการอักเสบเรื้อรัง เป็นการป้องกัน DNA ได้รับความเสียหายจาก NO นี้

รายละเอียดอ่านได้ในโอเมก้า 3 ศ.นพ.สมศักดิ์ วรคามิน

ขมิ้นชัน นอกจากมีบทบาทในเรื่องโรคอ้วน เบาหวาน แก้โรคกระเพาะ ขับลมท้องอืดเฟ้อ บำรุงผิวพรรณแล้ว ยังพบสารสำคัญที่เรียก เคอร์คูมิน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราและไวรัส…รวมถึงฤทธิ์ที่ทำให้เซลล์มะเร็งตายแบบ Apoptosis จึงเป็นความหวังอย่างแรงของชาวไทย ในการวิจัยหาวิธีใช้ขมิ้นชันช่วยต้านมะเร็ง

ที่เหลือเชื่อ คือ น้ำต้านมะเร็ง หรือน้ำ ORP ลบ

น้ำ ORP ลบ คือ น้ำกรองสะอาด ที่โมเลกุลแตกตัวจากพลังงานภายนอก พลังงานนั้นอาจเป็นกระแสไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก หรือคลื่นความถี่ ทำให้น้ำแตกตัวเป็น H+ กับ OH- ในสภาวะที่มีแร่ธาตุ Ca, Mg หรือ K ร่วมอยู่ด้วย

H+-ion นั่นเป็นภาวะชั่ววูบ จะรีบเข้าจับตัวกับน้ำ กลายเป็น H3 O+ ที่เรียกไฮโดรเนียมไอออน

ส่วน OH– ion นั้น อาจรวมกันเองเป็นน้ำกับออกซิเจน หรือรวมกับไอออนของแคลเซียม แมกนีเซียม หรือโปแตสเซียมได้เป็นคาร์บอเนต คาร์บอเนตนี้จะมีฤทธิ์เป็นด่าง

ในขณะที่ไฮดรอกไซด์ไอออนนั้นก็แสดงประจุลบ
ความเป็นกรด-ด่างของน้ำยังขึ้นกับปริมาณหรือพลังของไฮโดรเนียมไอออนกับไฮดรอกไซด์ไอออนอีกส่วนหนึ่ง

กรณีของน้ำ ORPลบ คือ ผลลัพธ์รวมหลังจากน้ำได้รับพลังงานจากภายนอก แตกตัวในที่ที่มีแร่ธาตุแคลเซียม แมกนีเซียม หรือโปแตสเซียม ได้ผลลัพธ์สุทธิเป็นด่าง มีประจุ หรือ ORP เป็นลบ

น้ำ ORPลบ หมายความว่ามีพลังอิเลคตรอนเกินมา มากน้อยเพียงไรก็แล้วแต่ต้นกำเนิด หรือวิธีการที่ได้มา

น้ำ ORPลบ เป็น ideal antioxidant เนื่องจาก e ส่วนเกินนั้น เป็น e ที่หลุดกระเด็นออกมาพร้อม Hydro gen atom ซึ่งปกติ H- atom มี 1p + 1e ครั้นมี e เกิน คือ 1p + 2e เมื่อให้ e แก่สิ่งอื่นไป ตัวมันเองก็อยู่ในสภาวะเสถียร (โดย…He + He Õ H2 + 2e) ไม่เกิดการดึง e จาก cell รอบข้างให้ล้มแบบโดมิโนเหมือนสารต้านอนุมูลอิสระทั่วไป

นอกจากเป็น ideal antox แล้ว น้ำ ORP ลบ ยังมีสภาวะเป็นด่าง

สภาวะด่างต้านมะเร็ง หรือ Mg ร่วมต้านมะเร็งเช่นเดียวกับ K มีงานวิจัยที่ยิ่งใหญ่ ที่พบว่าผลของ Mg ทำให้น้ำอยู่ในสภาวะด่าง และสภาวะด่างเป็นบ่อเกิดออกซิเจน ในขณะที่เซลล์มะเร็งชอบ pH กรด และเกลียด O2 ทำให้งานวิจัยเรื่องมะเร็งไม่ชอบออกซิเจนของ ดร.ออตโต วาร์เบิก ได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้งซ้อน

รายละเอียดศึกษาได้จากหนังสือ Water for Life

สรุปหนทางต้านมะเร็งคือ

1. งดโปรตีน + ไขมัน เค็ม หวาน คงเหลือ แป้ง อาหารพวกคาร์โบฮัยเดรทเชิงซ้อนเป็นมื้อหนัก

2. เพิ่มผักผลไม้มากๆ แต่ต้องเลี่ยงสารพิษในผักผลไม้ด้วย

3. ระลึกถึงสุดยอดผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง กากใยมาก แต่หวานน้อย ได้แก่ ฝรั่ง ส้มโอ มะละกอ สับปะรด และแอปเปิ้ล

4.น้ำมันปลาคงเป็นไขมันเดียวที่แนะนำให้ใช้ รวมถึงหลินจือ ขมิ้นชัน น้ำ ORPลบ

5. หากหา Mg ยาก คงต้องอาศัยน้ำแร่ เพื่อสร้างสภาวะด่างแก่ร่างกายให้ได้หรือผลิตน้ำแร่เทียมขึ้นมาเอง

6. ใช้น้ำต้มผักปรุงอาหาร เพื่อเน้นให้ Kผลักดัน Na

7. ใช้เมนูอาหารต้านมะเร็ง ช่วยสลับความซ้ำซาก

8. ออกกำลังกายพอเหมาะ

9. เข้านอนก่อน 4 ทุ่ม - ฝึกสมาธิคลายเครียด

10. อย่าลืม สารเสริมต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน เอ ซี อี เซลีเนียม สังกะสี OPC โคคิวเทน กลูตาไธโอนฯ หากคาดว่าในผักผลไม้มีให้ไม่เพียงพอ

ที่มา
//www.mmc.co.th/mmcj/index.php?option=com_content&view=article&id=135:-2552-&catid=41:2009-05-16-00-58-16&Itemid=18


Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2553 17:34:47 น. 0 comments
Counter : 924 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.