BlogGang.com : : scimovie : อึ้ง! ผลวิจัย ย้ำ ผ่านไป 10 ปี IQ เด็กไทยก็ยังต่ำเท่าเดิม

อึ้ง! ผลวิจัย ย้ำ ผ่านไป 10 ปี IQ เด็กไทยก็ยังต่ำเท่าเดิม

สธ. อึ้ง! ผลวิจัยชี้ 10 ปี ผ่านไป IQ เด็กไทยต่ำเท่าเดิม ชี้ โภชนาการ ครอบครัว และสิ่งแวดล้อม เป็นปัจจัยสำคัญต่อระดับสติปัญญา แนะรัฐบาลเน้นเป็นวาระเร่งด่วน

วานนี้ (12 ตุลาคม) นพ.อนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ ส.ว.สุรินทร์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข หรือ กมธ. ได้กล่าวในงาน "สุขภาวะของเด็กไทย : การพัฒนาทางสติปัญญาเพื่อก้าวไปสู่โลกแห่งการแข่งขัน" ว่า ขณะนี้เด็กทั่วโลกมีพัฒนาการที่ดีขึ้น แต่ไอคิวเด็กไทยกลับด้อยกว่าปกติ ทั้ง ๆ ที่รุ่นหลังน่าจะเก่งกว่า อีกทั้งในภาพรวมยังมีผลสำรวจออกมาว่า ไอคิวต่ำกว่ามาตรฐานสากล โดยการจัดเสวนาในวันนี้ ก็เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตระหนักในเรื่องนี้มากขึ้น

ขณะที่ พญ.พรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ ประธานคณะอนุ กมธ. เผยว่า จากผลสำรวจระดับสติปัญญาเด็กไทย (ไอคิว) ปี 2554 ของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระหว่างอายุ 6-15 ปี ในโรงเรียนทั่วประเทศ ทุกสังกัดหน่วยงานพบว่า นักเรียนหลายหมื่นคนไอคิวเฉลี่ยไม่ถึง 100 คะแนน ซึ่งถือว่าเป็นไอคิวที่ต่ำว่า เพราะปกติแล้วไอคิวจะต้องเกิน 100 คะแนนขึ้นไป

พญ.พรพันธุ์ กล่าวต่อว่า ถ้าหากเปรียบเทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อน ระดับไอคิวของเด็กไทยนั้นไม่ได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา และหากเที่ยบกับต่างชาติ อาทิ สิงคโปร์, มาเลเซีย นั้น เฉลี่ยสูงกว่าเด็กไทยมาก นอกจากนี้ การวัดความฉลาดทางอารมณ์ (อีคิว) ของเด็กไทยก็มีแนวโน้มที่ต่ำลงเช่นกัน ทั้งเรื่องของจริยธรรม การปรับตัว และการเข้าใจคนอื่น

ส่วนทางด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผอ.สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต ระบุว่า การสำรวจสถานการณ์ระดับสติปัญญาของเด็กนักเรียนไทย ในปี 2554 นั้น ได้สุ่มสำรวจนักเรียนจำนวน 72,780 คน พบว่ามีเด็กที่ไอคิวต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ คือ ไอคิวต่ำกว่า 90 คะแนน ประมาณร้อยละ 28.4 คิดเป็น 1 ใน 4 ของเด็กไทย ซึ่งถือไม่เป็นที่พึงประสงค์ และส่งผลต่อการแข่งขันของเด็กไทยเป็นอย่างมาก

ผอ.สถาบันสุขภาพจิตเด็กฯ กล่าวต่อว่า หากแบ่งเป็นระดับจังหวัดจะพบว่า เด็กที่มีไอคิวสูงที่สุดคือ จ.นนทบุรี ระดับไอคิวอยู่ที่ 108.91 อันดับสองจังหวัดระยอง ระดับไอคิวที่ 107.52 อันดับสาม จังหวัดลำปาง ระดับไอคิวที่ 106.62 อันดับสี่คือ กทม. ระดับไอคิวที่ 104.50

ส่วน จังหวัดที่มีเด็กมีไอคิวต่ำกว่า 100 มีถึง 38 จังหวัดด้วยกัน ส่วนมากอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ปัตตานี และต่ำที่สุดคือ จ.นราธิวาส

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับสติปัญญาของเด็กมี 3 ส่วนด้วยกัน คือ ภาวะโภชนาการ ตัวเด็กและครอบครัว การเลี้ยงดูและสิ่งแวดล้อม เช่น หากพ่อแม่มีการศึกษาสูงก็มีแนวโน้มว่าลูกจะมีไอคิวสูงกว่าพ่อแม่ที่มีระดับ การศึกษาน้อย เด็กยากจนจะมีคะแนนเฉลี่ยไอคิวประมาณ 100 คะแนน ส่วนเด็กที่อยู่ในสถานะทางสังคมสูงสุดจะมีไอคิวสูงกว่า 100 คะแนนขึ้นไป ระดับคะแนนเฉลี่ยไอคิวประมาณ 119 คะแนน

นอกจากนี้ ยังพบว่า ระบบการศึกษาของไทยนั้น ยังมีนักเรียนที่ขาดความบกพร่องของระดับสติปัญญาหรือมีไอคิวต่ำกว่า 70 คะแนน อยู่ร้อยละ 6.5 ซึ่งตามมาตรฐานสากลกำหนดไว้ว่าไม่ควรเกินร้อยละ 2 และที่น่าตกใจคือ พบว่าเด็กในจังหวัดนราธิวาสไอคิวเพียง 22 คะแนน ซึ่งถือว่าป่วยและบกพร่องทางปัญญากกว่าเด็กไทยที่เกิดก่อนช่วง 10 ปีเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ดี นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ทางรัฐบาลต้องให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว รวมถึงพ่อแม่ต้องมีความใกล้ชิดกับเด็กเพื่อพัฒนาเด็กให้เกิดความฉลาด เช่น หากมีการอ่านหนังสือหรือเปิดเพลงให้เด็กฟังตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จะพบว่าเด็กที่ออกมาจะเกิดความฉลาดมากกว่าเด็กที่ไม่ได้รับการปฏิบัติดัง กล่าว และนอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องส่งเสริมและให้ความสำคัญเรื่องนี้ตั้งแต่เด็กอยู่ในวัยเรียน โดยเฉพาะเรื่องโภชนาการ ในการเสริมธาตุเหล็ก, ไอโอดีน, โฟเลต ที่ต้องได้รับคู่กันไป เพื่อให้เกิดพัฒนาการของสมอง

ที่มา
//education.kapook.com/view48953.html

Create Date : 13 ตุลาคม 2555

Last Update : 13 ตุลาคม 2555 10:37:01 น.

0 comments

Counter : 1452 Pageviews.