BlogGang.com : : scimovie : ใครชอบเบนซ์...รุ่นใหม่ล่าสุดมาแล้ว(เมืองนอก)...Mercedes-Benz CL63AMG

ใครชอบเบนซ์...รุ่นใหม่ล่าสุดมาแล้ว(เมืองนอก)...Mercedes-Benz CL63AMG

แม้ว่าจะไม่อาจเอื้อม แต่ขอทราบข่าวก็ยังดี อิๆ

Mercedes-Benz CL63AMG : หัวใจใหม่เพื่อเวอร์ชันแรง

ทิ้งระยะจากการเปิดตัวการปรับโฉมของรุ่นปกติของสปอร์ตร่างยักษ์สายพันธุ์ CL-Class ได้ไม่นาน ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์จัดการนำเวอร์ชันสุดแรงของไลน์ผลิตอย่าง AMG ในรหัส CL63AMG มาเปิดโฉมแล้ว เพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับลูกค้าที่มีเท้าขวาหนักเป็นพิเศษ และมีความต้องการสปอร์ตที่ตอบโจทย์ได้ทั้งความหรูและความแรง

ประเด็นหลักของตัวรถรุ่นนี้ไม่ได้อยู่ที่หน้าตาที่ได้รับการไมเนอร์เชนจ์ให้ดูสดใหม่จากรุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวขายมาตั้งแต่ปี 2007 เท่านั้น แต่อยู่ที่ความเปลี่ยนแปลงใต้ฝากระโปรงหน้า เพราะตามปกติแล้ว เรารู้จักกันรหัส CL63AMG ด้วยเครื่องยนต์วี8 6,208 ซีซีแบบหายใจเองที่ทาง AMG ร่วมพัฒนาขึ้นมา แต่สำหรับรุ่นนี้ แม้จะใช้รหัสเหมือนเดิม แต่ขุมพลังที่อยู่ด้านหน้าก็แทนที่ด้วยของใหม่แกะกล่อง

นั่นเป็นเพราะมีการถอดเครื่องยนต์วี8 NA ออกไป และแทนด้วยเครื่องยนต์วี8 ทวินแคม 32 วาล์ว 5,500 ซีซี เทอร์โบคู่ พร้อมโบล์ว ออฟ วาล์ว และอินเตอร์คูลเลอร์ รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทาง AMG พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบรับกับความต้องการของยุคสมัยนี้ คือ กินน้ำมันให้น้อยลง แต่มีพละกำลังมากขึ้น ซึ่งทางออกคือ การลดความจุของกระบอกสูบ และใช้ระบบอัดอากาศให้เป็นประโยชน์มากขึ้น

แม้จะมีจำนวนกระบอกสูบเท่ากัน แต่ความจุของเครื่องยนต์ถูกลดลงจาก 6,208 มาเป็น 5,461 ซีซี หรือน้อยลง 747 ซีซี ส่วนเรื่องเรี่ยวแรงและการกินน้ำมันไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเครื่องยนต์รุ่นใหม่มีการปรับปรุงในส่วนนี้ด้วยการติดตั้งระบบไดเร็กต์อิเจ็กชั่น หรือการจ่ายน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง ตามด้วยเทอร์โบคู่ ซึ่งสามารถหมุนได้สูงสุดถึง 185,000 รอบต่อนาที
ขณะที่ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์มีการออกแบบและผลิตด้วยวัสดุที่มีความทนทานต่อภายใต้การใช้งานแบบขีดสุด ฝาสูบผลิตจากอะลูมิเนียม ทำให้มีน้ำหนักเบา พร้อมเพลาข้อเหวี่ยงผลิตด้วยกรรมวิธี Forged และลดอาการ Pumping Loss และแรงเสียดทานของชิ้นส่วนต่างๆในขณะทำงานซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการสร้างจำนวนม้าในคอก และอัตราความสิ้นเปลืองน้ำมัน พร้อมกันนั้นยังมีการติดตั้งแคตาไลติก คอนเวอร์เตอร์ใกล้กับท่อร่วมไอเสีย ทำให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น ในการขจัดก๊าซพิษในไอเสีย

ผลที่ได้คือ กำลังสูงสุดในระดับ 536 แรงม้า จากเดิมอยู่ที่ 525 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 81.4 กก.-ม. และเมื่อติดตั้งชุด AMG Performance Package เข้าไป ซึ่งจะมีการปรับบูสต์เทอร์โบให้มีการทำงานแบบสูงสุด จำนวนม้าในคอกก็จะขยับขึ้นมาเป็น 563 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 91.6 กก.-ม. ส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ

ส่วนสมรรถนะของตัวรถยอดเยี่ยมทั้งตีนต้นและตีนปลาย ในเวอร์ชั่นเดิมๆ จากโรงงาน ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.4 วินาที และจะลดลงมาอยู่ที่ 4.3 วินาทีเมื่อติดตั้งชุด AMG Performance Package ส่วนความเร็วปลายโดนล็อกด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เอาไว้ที่ 155 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นชุด AMG ก็จะขยับตัวเลขขึ้นเป็น 186 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง

อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะมีระดับการคายไอเสียลดลงจากเครื่องยนต์วี8 6,208 ซีซี และผ่านมาตรฐานควบคุมไอเสียในระดับ EURO 5 ในยุโรป หรือได้รับการจัดคลาสให้อยู่ในกลุ่ม LEV-II ในตลาดสหรัฐอเมริกา พร้อมกับประหยัดน้ำมันจากเครื่องยนต์รุ่นเดิมอีก 27%
ในด้านรูปลักษณ์ภายนอกมีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวขายในปี 2007 ซึ่งเป็นเจนเนอเรชันที่ 3 ของสายพันธุ์ CL-Class อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าทรงสปอร์ตที่เน้นโค้งเว้ามากขึ้น กระจังหน้าลายใหม่ หรือกันชนหน้าทรงสปอร์ตพร้อมกับสปอตไลต์แถบยาวที่ใช้หลอด LED ซึ่งมีความทนทานและประสิทธิภาพในการส่องสว่างมากขึ้น ขณะที่ด้านท้ายเปลี่ยนไฟท้ายใหม่ พร้อมกับย้ายไฟถอยไปวางประกบซ้าย-ขวาของช่องป้ายทะเบียน

รุกตลาดยุโรปเป็นแห่งแรกในปลายปีนี้ ส่วนราคายังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าจะแพงกว่ารุ่นเดิมไม่มากนัก ซึ่งรุ่นเดิมที่ขายในเยอรมนี ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ตั้งเอาไว้ที่ 160,769 ยูโร หรือ 7.32 ล้านบาท

ที่มา
ผู้จัดการออนไลน์

Create Date : 12 สิงหาคม 2553

Last Update : 12 สิงหาคม 2553 18:03:59 น.

0 comments

Counter : 650 Pageviews.