วัดกุฎีพระฤาษีทรงธรรม อุตรดิตถ์
วัดกุฎีพระฤาษีทรงธรรม
wat in uttaradit
ที่ตั้ง วัดกุฎีพระฤาษีทรงธรรมอยู่ในเขตชุมชนบ้านตาล ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ พื้นที่ 3 ไร่ 98 ตารางวา โฉนดเลขที่ 5037
สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ ร่องรอยซากโบราณสถานเก่าแก่สร้างด้วยศิลาแลงปัจจุบันเป็นสถานที่เคารพเชื่อถือของชาวบ้านเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวดับฤาษี มีรูปฤาษีโกลนด้วยศิลาแลง ซึ่งเดิมอาจเป็นพระพุทธรูปอยู่ในอาคารที่สร้างขึ้นใหม่ ครอบทับโบราณสถานเดิม นอกจากนี้ที่วัดยังมีการต้มยาสมุนไพรด้วยการแพทย์พื้นบ้านรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อีกด้วย บริเวณโดยรอบวัดมีสภาพสะอาดร่มรื่นเหมาะแก่การมาเยี่ยมเยียน
wat in uttaradit
ตำนานตาฤาษีชุบคน มีเรื่องเล่าว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในป่าแห่งหนึ่งซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นบริเวณบ้านตาลแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 4 ซึ่งเป็นที่ตั้งวัดในปัจจุบัน มีฤาษี 5 ตนเป็นพี่น้องกัน ชื่อว่า ฤาษีนารอด ฤาษีนารายณ์ ฤาษีตาวัว ฤาษีตาไฟ และฤาษีมาลัยโปรด ทั้ง 5 ตนนี้ บำเพ็ญเพียรจนมตบะแก่กล้า ได้วิชาอาคมต่างๆ สามารถชุบคนหนุ่มให้เป็นคนแก่ ชุบคนแก่ให้เป็นคนหนุ่มได้หรือชุบให้กลายร่างเป็นอะไรก็ได แม้แต่คนตายก็ทำให้ฟื้นขึ้นมาได้
wat in uttaradit
อยู่มาวันหนึ่งเด็กเลี้ยงควายพาควายมาเลี้ยงในป่า ผ่านมาบริวณที่ฤาษีอาศัยอยู่ จึงเกิดความสงสัยว่าใช่ตาฤาษีที่เขาเล่าลือกันหรือไม่ ด้วยความสงสัยเด็กเลี้ยงความจึงเข้าไปถามว่า ตนเองเคยได้ยินเขาเล่าลือกันมาว่า ตาฤาษีที่อยู่บริเวณนี้มีอิทธิฤทธิ์มากมาย สามารถชุคนได้ใช่หรือไม่ ตาฤาษีก็ตอบว่าใช่ เด็กเลี้ยงความก็ไม่ยอมลงไป ตาฤาษีจึงบอกว่าถ้าไม่เชื่อจะลงให้ดู แล้วสั่งกำชับเด็กเลี้ยงควายว่า ถ้าตาฤาษีลงไปในกระทะน้ำร้อนแล้ว ให้เทยาที่อยู่ในซองที่ตาฤาษีเตรียมไว้ลงไปในกระทะที่ตาฤาษีลงไป เด็กเลี้ยงความยรับคำแล้วตาฤาษีก็ค่อยๆ กลายร่างเป็นพญาเสือโคร่งตัวใหญ่ เด็กเลี้ยงความเห็นตาฤาษีชักดิ้นชักงอและมีเสือตัวใหญ่โผล่ขึ้นาจากระทะดังนั้น ก็ตกใจกลัว ก็วิ่งหนึตาฤาษีไป บังเอิญมีอีกาคัวหนึ่งบินผ่านมาเห็นเหตุการณ์ จึงรีบบินไปคาบซองยาที่วางอยู่เทลงไปในกระทะ จนตาฤาษีกลับฟื้นกลายร่างเป็นคนดังเดิม ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ก็ไม่มีใครเคยเห็นตาฤาษีชุบคนอีกเลย เห็นแต่ฤาษีนั่งสมาธิบำเพ็ญเพียรภาวนานานวันเข้าร่างนั้นก็กลายเป็นหินรูปร่างคล้ายตาฤาษี ดังที่เห็นในปัจจุบัน
เหตุแห่งยาสมุนไพรหลวงพ่อฤาษี (ลุงสุข เณรแย้ม บ้านตาล ตำบลทุ่งยั้ง)
แต่เดิมนานมาแล้วประมาณไม่ได้ว่ากี่ร้อยปี ผู้เฒ่าผู้ใหญ่ของหมู่บ้านตาลจะพูดว่าตั้งแต่เกิดมาก็รู้ว่ามีองค์ฤาษีอยู่ในอาศรมเล็กๆ ทำด้วยศิลาแลง มีประตูทางเข้าทางเดียว ด้านบนทางด้านตะวันออกมีช่องจั่วเล็ก ๆ หนึ่งช่องอาศรมศิลาแลงนี้อยู่ท่ามกลางป่าไผ่ที่รกรุงรังไม่มีใครเคลื่อนย้ายองค์หลวงพ่อได้ แม้แต่ศิลาแลงที่อยู่รอบๆอาศรม ถ้าใครขนออกไปจะทำให้ตาเกิดเจ็บแดงขึ้นมา ต้องนำลกับมาคืนที่เม ต่อมากรมศิลปากรจะย้ายองค์หลวงพ่อไป ตอนนั้นบ้านตาลังไม่มีถนนเข้าทำให้เคลื่อนย้ายไปไม่ได้ จึงให้อนุรักษ์ไว้ในสถานที่เดิมห้ามผู้ใดเข้าทำลาย แต่บางคนก็จะอธิษฐานขอขุดพระรอบฐานไปไว้บูชา
พ.ศ. 2522 นางศรี มั่นเจ๊ก ขณะนั้นอายุ 25 ปี ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 48/1 หมู่ 4 บ้านตาล ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ป่วยมาก ผอมไม่มีแรง รักษาที่ไหนก็ไม่หาย จึงได้มาหาลุงสุขซึ่งอยู่ติดกับวัด นางศรีบอกกับลุงสุขว่าตนฝันเห็นฤาษีให้เอาคนไปวัด 5 คน เก็บยาคนละชนิด ชนิดละกำมือ เอาไปใส่หม้อต้มเป็นยาดื่ม นางศรีฝันอย่างเดียวกันถึงสองครั้ง เมื่อฟังแล้วลุงสุขและทุกคนจึงนำหม้อดินมาตั้งบนเตาที่ประกอบด้วยก้อนศิลาแลง 3 ก้อนใหญ่ ทรงสี่เหลี่ยม และเก็บสมุนไพรแถวอาศรมใส่หม้อ ต่อด้ายสายสิญน์จากองค์หลวงพ่อมาที่หม้อต้ม นางศรีดื่มยาแล้วอาการดีขึ้น สบายหายเป็นปกติขึ้น จึงต้มยาดื่มกันเรื่อยมา มีคนรู้เรื่องมากขึ้น มาดื่มยามากขึ้น ทำให้ต้องเปลี่ยนหม้อดินเป็นกระทะใบบัว (สมัยแรกนั้นต้องหิวน้ำกันมาเอง) เมื่อมีคนมากขึ้นเงินทำบุญก็มากขึ้น แรกๆลุงสุขดูแลเก็บเงินคนเดียว ต่อมาตั้งเป็นคณะกรรมการและนำเงินมาสร้างศาลาเล็กๆและสร้างอาศรมหลวงพ่อฤาษี รวมถึงเสนาสนะอีกหลายแห่งปัจจุบัน นักเรียน นักศึกษา ครุอาจารย์และบุคคลทั่วไปมาศึกษาสมุนไพรที่วัดกฏีพระฤาษีทรงธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะวันศุกร์ นอกจากได้ศึกษาสมุนไพรแล้ว ยังได้เรียนรู้การทำบายศรีและพิธีลงยาอีกด้วย เป็นการสืบทอดภูมิปัญญาของท้องถิ่นขาวบ้านตาลให้คงรักษาอยู่สืบไป
วัดกุฎีพระฤาษีทรงธรรม มีต้นมะกอกต้นหนึ่งซึ่งเชื่อว่า มีความศักดิ์สิทธำ ต้นปัจจุบันนี้เป็นต้น(ต้นแม่ได้ตายไปแล้ว) ความพิเศษของมะกอกฤาษี คือ ลูกมะกอกมี ปุ่ม 5 ปุ่ม ไม่เหมือนกับมะกอกทั่วไปความหมายของ 5 ปุ่ม เกี่ยวข้องกับฤาษี ทั่ง 5 ตน คือ
1)ฤาษีนารอด
2)ฤาษีนารายณ์
3)ฤาษีตาวัว
4)ฤาษีตาไฟ
5)ฤาษีมาลัยโปรด
ตัวยาสมุนไ พร 51 ชนิดที่ใช้ในการต้มรักษาโรค
1. กาสาม ปีก(เกล็ดปลาช่อน) 27.ผักเสี้ยนผี
2. ขนุน 28.ฝาง
3. ขอบชะนาง 29.พิกุล
4. ข่อย 30.เพชรสังฆาต
5.ข้าวเย็นเหนือ , ข้าวเย็นใต้ 31.ฟ้าทะลายโจร
6. ขิง 32.มะกอก
7. ขี้เหล็ก 33.มะกา
8.จามจุรี 34.มะกรูด
9.จำปี 35.มะขาม
10.จำปา 36.มะเดื่อชุมพร
11.ชะลูดแดง 37.มะตูม
12.ชุมเห็ดเทศ 38.มะนาว
13.ชุดเห็ดไทย 39.มะพร้าว
14.ดาวเรือง 40.มะยม
15.โด่ไม่รู้ล้ม 41.ไมยราบ
16.ตะคร้ำ 42.ยอบ้าน
17.ตะไคร้ 43.คูน
18.ตาลโตนด 44.สังกรณี
19.ตานดำ 45. สับปะรด
20.เถาวัลย์เปรียง 46.สารภี
21.ทองพันชั่ง 47.สาบเสือ
22.บานไม่รู้โรย 48.หญ้าดอกขาว
23.บุนนาค 49.หญ้าเจ้าชู้
24.บอระเพ็ด 50.อโศกพวง
25.บัวหลวง 51.ฮ่อสะพายควาย
26.ไผ่รวก
wat in uttaradit
| Create Date : 06 สิงหาคม 2552 |
| Last Update : 6 สิงหาคม 2552 13:11:57 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 1830 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [