พรีวิวคู่ เยอรมัน vs สเปน !!! เปรียบเทียบจุดแข็ง จุดอ่อน
พรีวิวคู่ เยอรมัน vs สเปน !!! เปรียบเทียบจุดแข็ง จุดอ่อน
ถือเป็นเส้นทางที่ยากลำบากสำหรับทีมชาติเยอรมัน ไล่ตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้ายจนถึงรอบรองชนะเลิศ
การจะเข้าชิงได้และไปถึงเส้นทางแชมป์นั้นต้องผ่านทีมชั้นนำระดับโลกมากมาย ทีมที่ดีที่สุดก็สมควรเป็นผู้ที่เหมาะสำหรับคำว่าแชมป์
สำหรับการพบกับสเปน ผมมองว่ามันจะไม่เหมือนกับอังกฤษ และอาร์เจนติน่า คิดว่าน่าจะเป็นงานที่ยากกว่า เพราะสเปน ถือเป็นทีมที่มีความสมดุลมากทีมหนึ่งในทัวร์นาเม้น
การชนะถล่มทลายของเยอรมันในแมตช์กับทีมชาติอังกฤษ กับอาร์เจนติน่า ไม่มีความหมายใดๆ กับการพบกับสเปน เพราะไม่มีการสะสมแต้มใดๆ หากแต่เป็นการช่วยสร้างเสริมขวัญกำลังใจเท่านั้น
และยิ่งไม่มีความหมายใดๆ เลยหากแมตช์ที่เหลือของทีมชาติเยอรมันจะจบลงด้วยความผิดหวัง แม้จะเคยโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดหรูในแมตช์ที่ผ่านๆ มา
ทีมที่ชนะในแมตช์ที่เหลือเท่าไหร่ ไม่ว่าจะในรูปแบบใด จะถูกจดจำในฐานะแชมป์ทีมหนึ่งเท่านั้น นี่คือกฎ
ส่วนสถิติที่หยิบยกและนำมาเทียบกันให้ดูนี้ พอดูจบแล้ววิเคราะห์ตามไปด้วยว่าคู่ต่อสู้ในแมตช์ที่ผ่านมาของทั้งสองทีมเป็นใคร ความยากง่ายต่างกันหรือไม่ อย่าดูที่สกอร์เพียงอย่างเดียว เพราะแทคติค และรูปแบบการเล่นนั้นก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ กับทีมที่พบเจอ
เทียบสถิติของทั้งสองทีมตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2010 (ก่อนนัดแรกรอบ 4 ทีม)
ประสิทธิภาพการผ่านบอล สเปนเหนือกว่าเยอรมันพอสมควร
สเปน (อัตราความสำเร็จ 80%)
เยอรมัน (อัตราความสำเร็จ 76%)
ประสิทธิภาพการเปิดบอลจากริมเส้นเข้ากลางไม่ค่อยเด่นทั้งคู่ แต่เยอรมันเฉือนไปเล็กน้อย
เยอรมัน (อัตราความสำเร็จ 27%)
สเปน (อัตราความสำเร็จ 26%)
ประสิทธิภาพการผ่านบอลสั้นๆ เท้าสู่เท้า สเปนทำได้เหนือกว่าเยอรมัน และเป็นอันดับหนึ่งในทัวร์นาเม้นขณะนี้
สเปน (อัตราความสำเร็จ 81%)
เยอรมัน (อัตราความสำเร็จ 69%)
ประสิทธิภาพการผ่านบอลระยะกลาง สเปนก็เหนือกว่าเยอรมันเช่นกัน
สเปน (อัตราความสำเร็จ 84%)
เยอรมัน (อัตราความสำเร็จ 79%)
ทีมที่ผ่านบอลระยะยาวได้ดีที่สุด สเปนเหนือกว่าเยอรมัน
สเปนติดอันดับ 2
เยอรมัน ติดอันดับ 6
ทีมที่ยิงเข้ากรอบมากที่สุด สเปนเหนือกว่าเยอรมันนิดหน่อย
สเปน (35 ครั้ง)
เยอรมัน (33 ครั้ง)
ทีมที่พยายามเล่นเกมส์รุกมากที่สุด สเปนอันดับหนึ่งของทัวร์นาเม้น
สเปนติดอันดับ 1
เยอรมันติดอันดับ 4
ทีมที่ขึ้นเกมส์รุกตรงกลางมากที่สุด สเปนขึ้นเกมส์รุกตรงกลางบ่อยกว่าเยอรมันเยอะ
สเปนติดอันดับ 1
เยอรมันติดอันดับ 9
ทีมที่ขึ้นเกมส์รุกทางฝั่งซ้ายมากที่สุด สเปนเป็นทีมที่ขึ้นเกมส์รุกทางซ้ายมากเป็นอันดับหนึ่งเช่นกัน
สเปนติดอันดับ 1
เยอรมันติดอันดับ 4
ทีมที่ขึ้นเกมส์รุกทางฝั่งขวามากที่สุด เป็นความภาคภูมิใจของชาวเยอรมันที่เกมส์รุกทางขวาคืออันดับหนึ่งในทัวร์นาเม้น แต่สเปนก็ตามมาติดๆ
เยอรมันติดอันดับ 1
สเปนติดอันดับ 3
ทีมที่มีการจ่ายบอลประสานให้เพื่อนทำประตูได้มากที่สุด เยอรมันทำได้ดีที่สุดในทัวร์นาเม้น
เยอรมัน (12 ครั้ง)
สเปน (6 ครั้ง)
ทีมที่มีสถิติการเลี้ยงบอลขึ้นไปทำเกมส์รุกมากที่สุด สเปนมาเป็นอันดับหนึ่ง
สเปนติดอันดับ 1
เยอรมันติดอันดับ 3
ทีมที่วิ่งเป็นระยะทางมากที่สุด เยอรมันวิ่งเยอะมากในทัวร์นาเม้นนี้ แต่สเปนก็ตามมาไม่ห่างเช่นกัน
เยอรมัน (รวมระยะทาง 539.17 กิโลเมตร)
สเปน (รวมระยะทาง 521.70 กิโลเมตร)
ทีมที่ทำประตูรวมได้สูงที่สุด เยอรมันขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่หนึ่งแล้ว
เยอรมัน (จำนวน 13 ประตู)
สเปน (จำนวน 6 ประตู)
------------------------------------------------------------
เทียบสถิติตัวผู้เล่นของทั้งสองทีมตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2010 (ก่อนนัดแรกรอบ 4 ทีม)
การมีส่วนร่วมในเกมส์รุก 20 อันดับแรกเยอรมันกับสเปนติดอย่างล่ะ 4 คนเท่ากัน แต่รามอสเติมกระจายมากๆ
อันดับ 1.รามอส
อันดับ 2.โพลโดลส์กี้
อันดับ 5.บีย่า
อันดับ 8.มุลเลอร์
อันดับ 10.อิเนียสต้า
อันดับ 12.ชาบี เอร์นานเดซ
อันดับ 16.ลาห์ม
อันดับ 18.ชไวสไตเกอร์
ผ่านบอลได้มากที่สุด 20 อันดับแรกสเปนเรียงคิวติดตามกัน
อันดับ 1.เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ (ความสำเร็จ 88%)
อันดับ 2.เคราร์ด ปิเก้ (ความสำเร็จ 86%)
อันดับ 3.ซาบี่ อลอนโซ่ (ความสำเร็จ 82%)
อันดับ 4.แคบเดบีล่า (ความสำเร็จ 81%)
อันดับ 5.รามอส (ความสำเร็จ 80%)
อันดับ 5.ซาบี่ แอร์นันเดส(ความสำเร็จ 80%)
อันดับ 5.ลาห์ม (ความสำเร็จ 80%)
อันดับ 6.ชไวสไตเกอร์ (ความสำเร็จ 77%)
ผู้เล่นที่มีระยะทางในการเคลื่อนที่มากที่สุด 20 อันดับแรก เยอรมันและสเปนติดเข้ามา 3 คนเท่ากัน
อันดับ 3.ซามี่ เคดิร่า (56.69 กิโลเมตร)
อันดับ 5.บาสเตียน ชไวสไตเกอร์ (56.43 กิโลเมตร)
อันดับ 12.ซาบี่ แอร์นันเดส (52.90 กิโลเมตร)
อันดับ 14.ซาบี่ อลอนโซ่ (52.34 กิโลเมตร)
อันดับ 17.ฟิลลิปป์ ลาห์ม (51.36 กิโลเมตร)
อันดับ 20.โจน แคบเดบีล่า (49.06 กิโลเมตร)
อันดับดาวซัลโว บีย่า ยิงนำ มุลเลอร์จากเยอรมันหนึ่งลูก คราวที่แล้วอิกัวอินยิงนำมุลเลอร์ คราวนี้สลับมาเป็น บีย่ายิงนำมุลเลอร์หนึ่งลูกบ้าง แต่ก็มีโคลเซ่ร่วมแจมมาทาบสถิติ
บีย่า (5 ประตู)
มุลเลอร์ (4 ประตู)
โคลเซ่ (4 ประตู)
โพลโดลสกี้ (2 ประตู)
โอซิล (1 ประตู)
คาเคา (1 ประตู)
อิเนียสต้า (1 ประตู)
การป้องกันไม่ให้ทีมเสียประตู นอยเออร์ทำได้มากกว่า คาซิยาส
นอยเออร์ (ป้องกันไม่ให้ทีมเสียประตู 18 ครั้ง)
คาซิยาส (ป้องกันไม่ให้ทีมเสียประตู 10 ครั้ง)
------------------------------------------------------------
ผู้เล่นที่คาดว่าจะใช้ลงสนามของทั้งสองทีม
เยอรมัน :
นอยเออร์ (1) - ลาห์ม (16), แมร์แตซัคเคอร์ (17), ฟรีดริส (3), บัวเต็ง (20) - เคดิร่า (6), ชไวสไตเกอร์ (7) - ทอร์ซอฟกี้ (15), โอซิล (8), โพลโดลสกี้ (10) - โคลเซ่ (11)
รูปแบบการเล่น : 4-2-3-1
สเปน :
คาซิยาส (1) - รามอส (15), ปิเก้ (3), ปูโยล (5), แคปเดวิล่า (11) - บุตส์เกส (16) - อลอนโซ่ (14) - ซาบี่ (8), อิเนียสต้า (6) - ตอเรส (9), บีย่า (7)
รูปแบบการเล่น : 4-3-1-2
วิเคราะห์รูปแบบการเล่นของทั้งสองทีม
เยอรมัน :
เกมส์รุกของทีม คือการประสานงานและทีมเวิร์คของผู้เล่นภายในทีม เกมส์รุกเน้นการรุกแบบมีแพทเทิ่ล เน้นการประสานงานที่ตัวนักเตะในการเข้าทำ การสร้างโอกาสในเกมส์รุกเกิดขึ้นจากการประสานงานของนักเตะมากกว่า 1 คน เปิดเกมส์รุกโจมตีคู่แข่งด้วยการผ่านบอลสั้นสลับยาว และแทงทะลุช่อง นักเตะที่มีส่วนร่วมกับเกมส์รุกจะวิ่งทำทางหาพื้นที่เล่นกันตลอด การขึ้นเกมส์รุกโดยการอ้อมตัดหลังแบคทางฝั่งขวาถือเป็นจุดเด่นที่เยอรมันใช้โจมตีคู่แข่ง มาโดยตลอดตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย เช่นเดียวกับเกมส์รุกโต้กลับเร็วของเยอรมันที่เป็นอาวุธเด็ดที่คู่ต่อสู้ประมาทไม่ได้ อันเป็นผลมาจากทีมเวิร์คและการฝึกซ้อมที่ยอดเยี่ยม
เกมส์รับของทีม ยังไม่มั่นคงเท่าไหร่ และพอเห็นช่องเล่นงานในบางจุด ปราการหลังคู่กลางยังไม่ค่อยแน่นอนเท่าไหร่ การยืนระยะห่างและการเช็คไลน์สวนกับกองหน้าคู่แข่งยังมีปัญหา แมร์เตซัคเคอร์ ฟอร์มยังไม่ดีเท่าที่ควร และแบคซ้ายอีกจุดนึง ถือเป็นจุดอ่อนเนื่องจากใช้นักเตะที ประสบการณ์ในทีมชาติน้อย และไม่ค่อยมีความคล่องตัวเท่าไหร่ ส่วนแบคขวาลาห์มมักพบปัญหาเมื่อเจอโยนยาวไปยังจุดที่ลาห์มต้องเล่นลูกกลางอากาศ
ปัญหา การขาดหายไปของ มุลเลอร์ ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อเกมส์รุกทางฝั่งขวาของเยอรมัน ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในทัวร์นาเม้น ความไหลลื่นของการขึ้นเกมส์ทางขวา ประสิทธิภาพจะลดลงไปเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น ซึ่งจะเกิดปัญหาความเข้าใจกันน้อยกว่านักเตะเดิม
สเปน :
เกมส์รุกของทีม สเปนได้ขยับขึ้นมาเป็นทีมที่พยายามเปิดเกมส์รุกเข้ากดดันคู่แข่งได้มากที่สุดเป็น อันดับหนึ่งแล้ว การผ่านบอลของสเปนถือเป็นจุดเด่นมาก แดนกลางผ่านบอลเท้าสู่เท้าได้แม่นยำ สามารถเปิดเกมส์รุกได้ตลอดแนว ซ้าย,ขวา,กลาง ถือเป็นทีมที่มีความสมดุลในการเปิดเกมส์รุกมากที่สุดทีมนึง สเปนถือเป็นทีมที่ผ่านบอลได้ทุกระยะอย่างแม่นยำเนื่องจากมีแผงมิดฟิลด์ ที่ผ่านบอลและวางบอลได้อย่างแม่นยำหลายคน จุดแข็งของสเปนจึงอยู่ที่การผ่านบอลจากผู้เล่นในแดนกลาง ซึ่งหลายครั้งมักจะเป็นปัจจัยที่พาให้สเปนผ่านคู่แข่งมาได้ เนื่องจากหากแดนกลางสามาถใช้เวลาครองบอลและกดดันคู่แข่งได้อย่างต่อเนื่อง และนานที่สุด ก็เท่ากับเป็นการตัดโอกาสการรุกกลับ ของคู่แข่งที่จะใช้เล่นงานกองหลังสเปนได้อีกทางหนึ่งด้วย ส่วนความอันตรายอีกทางหนึ่งของสเปนนอกจากแดนกลางแล้ว ยังอยู่ที่กองหน้าที่หาโอกาสจบสกอร์ได้ดีอย่าง บีย่า อันตรายทุกฝีเก้า การที่ได้ลงเล่นกับเพื่อนนักเตะสเปน ถือว่าน่ากลัวกว่า การประกบเมสซี่ของอาร์เจนติน่า เนื่องจากสเปนเป็นทีมที่ผ่านบอล และนักเตะเคลื่อนที่หาพื้นที่ตลอด ไม่เหมือนกับเมสซี่ ที่เพื่อนร่วมทีมไม่ค่อยช่วยมากนัก และต่างคนต่างเล่นกันเองมากเกินไป ทำให้สเปนเกมส์รุกจึงดูอันตรายกว่าอาร์เจนติน่าเยอะ
เกมส์รับของทีม เท่าที่ได้ดูมาเกมส์รับของสเปน มักจะเกิดข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ให้เห็นกันอยู่บ้างโดยเฉพาะเมื่อเจอเกมส์โต้กลับเร็ว อย่างเช่นในตำแหน่งแบคของสเปน มักมีการดันสูง อย่างแบคขวา รามอส หากเติมสูงมากเกินไปก็อาจจะเปิดโอกาสให้คู่แข่งได้สวนกลับตรงตำแหน่งแบคขวาได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับลูกกลางอากาศดูๆ ไปแล้วสเปนยังมาร์คตำแหน่งประกบตัวในการ เข้าสกัดลูกกลางอากาศได้ไม่ดีเท่าไหร่ หากเจอคู่ต่อสู้เน้นครอสซิ่งด้านข้างเข้ากลางให้กองหน้าที่เล่นลูกกลางอากาศดีๆ แย่งโหม่งก็อาจจะมีปัญหาได้ แต่โชคดีหน่อยที่สเปนเจอกับเยอรมันชุดที่ไม่เน้นเกมส์
ครอสซิ่งจากด้านข้างเท่าไหร่ จึงน่าจะรับมือง่ายขึ้นในระดับนึง แต่ก็ไม่ควรประมาทหากเยอรมันเน้นซอมในจังหวะเซ็ตพีทหรือเตะมุมให้มากขึ้น สเปนก็มีโอกาสโดนเผด็จศึกจากจุดนี้เช่นกัน
ปัญหา : จากฟอร์มที่ไม่เข้าที่ของคู่หูในแดนหน้าอย่าง ตอเรส ทำให้ความอันตรายในเกมส์รุกของสเปนในจังหวะจบสกอร์ถือว่าลดลงไปมาก เนื่องจากปัจจุบันเกมส์รุกของสเปนจะพึ่งพา บีย่า เป็นหลัก มากจนเกินไป ถ้าหากบีย่าถูกประกบติดจนเล่นยาก และคู่หูอย่าง ตอเรส ยังฟอร์มแย่หรือสภาพร่างกายไม่ค่อยพร้อม ก็อาจจะเป็นปัญหาอย่างที่เคยประสบมากับหลายๆ เกมส์ของทีมชาติสเปน ที่แม้จะทำเกมส์รุกขึ้นไปสร้างสรรค์โอกาสได้ดี แต่ตัวความหวังในการจบสกอร์ยังมีประสิทธิภาพน้อยเกินไป
เพลย์เมคเกอร์ประจำทีม
ดาวิด บีย่า (สเปน) ถือเป็นหัวใจในแนวรุกของสเปน การยิง 5 ใน 6 ลูกของทัวร์นาเม้นสำหรับทีมชาติสเปนเกิดขึ้นจากบีย่า ซึ่งเขาเป็นนักเตะที่สามารถสร้างสรรค์โอกาสในการจบสกอร์ ด้วยตัวเองได้ และเป็นนักเตะที่วิ่งหาพื้นที่ได้ดี เป็นนักเตะที่ขยันคนหนึ่งในแนวรุกของทีมชาติสเปน ฟอร์มการยิงประตูกำลังมั่นใจ ถือเป็นคนที่ประมาทไม่ได้ในกรอบเขตโทษทุกเสี้ยววินาที
บาสเตียน ชไวสไตเกอร์ (เยอรมัน) ถือเป็นคนหนึ่งที่ผลงานดีมากกับทีมชาติเยอรมันในช่วงที่ผ่านมา เกมส์นี้ต้องพบกับบททดสอบครั้งสำคัญแมตช์หนึ่งในชีวิต กับการดวลกับแผงมิดฟิลด์ที่มีความคล่องตัวของสเปน และถือว่าเป็นทีมที่มีการผ่านบอลได้อย่างดีเยี่ยม จากสถิติที่ผ่านมาชไวสไตเกอร์ ถือเป็นนักเตะคนนึงที่เก็บบอลและจ่ายบอลได้ดีมากที่สุดคนนึง ในทัวร์นาเม้น ถือเป็นนักเตะหัวใจสำคัญคนนึงของทีมชาติเยอรมัน ที่ต้องพิสูจน์หัวใจและมันสมองของชไวสไตเกอร์ ว่าจากสถิติและฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของเขาที่ผ่านมา จะช่วยแดนกลางเยอรมันได้มากน้อยเพียงใด
ที่มา
//www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S9440537/S9440537.html
| Create Date : 06 กรกฎาคม 2553 |
| Last Update : 28 เมษายน 2554 16:34:23 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 1126 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [