WELCOME! WELCOME! and WELCOME!
 
S.E.R.F สมมติฐานรัก รีวิว

ผู้แต่ง: สืออู่

แปล: เมิงเหวิน

สำนักพิมพ์: Rose


 
มาสังเกตดูดีๆ เรารีวิวนิยายของ Rose เยอะเหมือนกันนะคะเนี่ย แต่จะว่าไปนิยายที่ Rose เลือกมา ก็อ่านสนุกหลายเรื่อง ไม่น่าแปลกใจหรอกค่ะ ถ้าเราอ่านแล้วจะชอบมากจนถึงขนาดต้องเอามาเขียนถึงบ่อยๆ แบบนี้ หนนี้ก็เลยถึงคราวหยิบนิยายความยาวขนาดหนึ่งเล่มจบมาเขียนถึงเสียหน่อย เรื่องนี้เพิ่งอ่านจบไปแบบสดๆ ร้อนๆ น่ะค่ะ ก็เลยได้จังหวะพอดี


 
นิยายเรื่องนี้พูดถึงตัวละครหลักที่เป็นชายหนุ่มที่ชื่อ หลันมู่เอิน ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นลูกครึ่งที่มีเชื้อสายจีนอยู่ในตัว แต่ก็เกิดและโตอยู่ที่อเมริกานั่นแหละค่ะ หลันมู่เอินนี่ อย่าเห็นว่ามีหน้าที่การงานเป็นถึง FBI แล้วจะไม่มีปัญหาชีวิตเหมือนคนอื่นทั่วไปนะคะ อันที่จริงชีวิตในวัยเด็กของหลันมู่เอินนั้น น่าสะเทือนใจอย่างยิ่งเชียวล่ะค่ะ เพราะเกิดจากแม่ที่เรียกได้ว่ามีปัญหาขนาดหนัก ติดเหล้า ไม่สนใจลูก และเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเสียด้วย ยังดีที่ยังมีซานที่เป็นเหมือนเพื่อนของครอบครัว ที่จริงเราไม่ค่อยแน่ใจในความสัมพันธ์ของซานที่มีต่อสองแม่ลูกคู่นี้เท่าไหร่ แต่เอาเป็นว่า ถ้าไม่ได้ซานมาคอยช่วยเหลือดูแลสองแม่ลูกคู่นี้ มั่นใจได้ค่อนข้างร้อยเปอร์เซ็นต์เลยค่ะว่า หลันมู่เอินอาจจะมีอันเป็นไปตั้งแต่เด็ก ไม่อาจจะเติบโตเป็นผู้เป็นคนได้แบบนี้แน่ๆ
 
ขออนุญาตไม่เล่ารายละเอียดชีวิตในวัยเด็กของหลันมู่เอิน แม่ของเขา และซานแบบลงลึกนะคะ เพราะว่าในนิยายอธิบายบอกเอาไว้หมดแล้ว มาสปอยล์กันซะตรงนี้เดี๋ยวจะอ่านไม่สนุกกันไปเสียก่อน แต่ถึงอย่างนั้นที่สามารถบอกได้ก็คือว่า แม่ของหลันมู่เอินและซานนี่แหละคือปมใหญ่ในใจของเจ้าตัวจริงๆ คือหลักใหญ่ใจความสำคัญที่ทำให้นายเอกของเราเติบโตมาเป็นแบบนี้ และจะต้องก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเราก็ต้องมาลุ้นกันนะคะว่า ผลสุดท้ายจะออกมาเป็นยังไง
 
ก็นับว่า เด็กชายหลันมู่เอินยังโชคดีค่ะ ที่ภายหลังได้มาอยู่กับครอบครัวนายตำรวจที่เคยช่วยเขาไว้ในวันที่ชีวิตเข้าขั้นวิกฤติ เควินน่าจะเวทนาหลันมู่เอินมาก ก็เลยตกลงกับแมรี่ ภรรยาของเขาว่าจะรับเด็กชายคนนี้มาเลี้ยง เด็กชายก็เลยเติบโตขึ้นมาอย่างปกติกับเขาบ้าง จนกระทั่งก็เลือกเส้นทางการเป็นตำรวจเหมือนกับเควิน พ่อเลี้ยงของเขานั่นเอง แล้วหลันมู่เอินมาเป็น FBI ได้ยังไง ปรากฏว่าในวันที่เจ้าหน้าที่ FBI เล็กซ์ ไฮเออร์ ได้มาพบกับหลันมู่เอินที่สถานีตำรวจที่เขามาติดต่อเรื่องงานโดยบังเอิญ เขาก็รู้สึกบางอย่างกับชายหนุ่มคนนี้ และเห็นแววจนอยากจะดึงตัวให้เข้ามาร่วมทีมทำงานกับเขาในฐานะเจ้าหน้าที่ FBI และหลันมู่เอินก็ตอบรับในที่สุด สองคนนี้ก็เลยได้ทำงานเป็นคู่หูกันค่ะ
 
ถึงอย่างนั้น เพราะชีวิตในวัยเด็กของหลันมู่เอินนั่นล่ะ ทำให้เมื่อเข้ามาทำงานในองค์กรแบบนี้ เขาจึงต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพจิตอยู่ทุกเดือน ก่อนหน้านั้นก็เป็นคุณหมออาวุโสที่ชื่อฮิวจ์ ที่คอยดูแลในเรื่องสภาพจิตของเขามาโดยตลอด จนกระทั่งหมอฮิวจ์เสียไป เคสของหลันมู่เอินจึงถูกส่งต่อให้กับ เอียน ที่เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนของเขา โดยเจ้าตัวไม่รู้สึกเต็มใจเลยสักนิด คือ ไอ้เราก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าการทำงานภายในขององค์กรอย่าง FBI นั้น มันละเอียดซับซ้อนแค่ไหน ก็ช่างมันไปก่อน แต่ต้องเข้าใจว่ากรณีของหลันมู่เอินนั้น เนื่องจากมีแบ็กกราวน์ชีวิตที่หนักหนา แถมยังเคยจะฆ่าตัวตาย ซึ่งไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นเขาอยากตายจริงๆ หรือแค่อยากรู้ว่าทำไมแม่ชอบทำร้ายตัวเองนัก ซึ่งมันย่อมส่งผลให้กับสภาพจิตใจของเขาไม่มากก็น้อย แม้จะเติบโตขึ้นมาแล้วก็ตาม
 
หลันมู่เอินย่อมไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเหมือนต้องพูดซ้ำๆ ให้หมอฟังทุกเดือนว่าผมปกติดี ผมไม่เป็นไร ผมไม่ได้อยากตาย ซึ่งยังกับจะทำให้จิตแพทย์ยอมเชื่อนักนี่ เจ้าตัวก็เลยต่อต้านจิตแพทย์เป็นอย่างยิ่ง ดีที่ว่าหมอเอียนนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่หมอ แต่ยังเป็นเพื่อนสนิท ก็เลยยังพอจะตักเตือนดูแลกันได้ แล้วสิ่งนึงที่ทั้งหมอเอียนและเพื่อนร่วมงานของหลันมู่เอินคอยเตือนเขาอยู่เสมอก็คือ อย่าได้ไปตกหลุมรัก เล็กซ์ ไฮเออร์ เชียวนะ อย่าได้ใจอ่อนยอมเขา แต่... หารู้ไม่ว่าแท้จริง หลันมู่เอิน ตกหลุมรักไฮเออร์มาตั้งแต่ตอนที่ได้เจอกันครั้งแรก เพราะตัวหลันมู่เอินเป็นเกย์ ที่เจ๋งคือ ไฮเออร์ก็รู้ว่าเขาเป็นเกย์แล้วยังรู้ด้วยว่า ชายหนุ่มชอบเขาอีกต่างหาก
 
ก็เลยแอบเป็นความทึ่งว่า หลันมู่เอินชอบไฮเอร์ ไฮเออร์เองก็รู้แต่ก็ยังเลือกเขามาเป็นคู่หู และยังทำงานร่วมกันนานเป็นเดือนเป็นปีเนี่ยนะ ซับซ้อนกว่าซับซ้อนไปอีกนะคะ ตัวไฮเออร์เอง แม้จะเป็นถึงหัวหน้า เป็นคนทำงานเก่ง แต่ก็มุทะลุดุดัน แต่เจ้าตัวเองก็มีเบื้องลึกเบื้องหลังที่น่าเศร้าและสะเทือนใจไม่น้อย นิยายความยาวไม่กี่หน้านี้ ช่างใส่รายละเอียดความดราม่าในชีวิตของผู้ชายสองคนได้มากมายเหลือเกินค่ะ ก็เอาเป็นว่าไฮเออร์ เคยแต่งงานและมีภรรยา เขารักภรรยาของเขามาก แต่สุดท้ายเขาก็ต้องเสียภรรยาไปก็เพราะงานที่เขาทำนั่นละค่ะ
 
ผลสุดท้ายคู่นี้ก็ตกล่องปล่องชิ้นกันไปแหละนะคะ ซึ่งที่จริงไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เพราะมันเหมือนแค่รอเวลาเท่านั้นเลยจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังไม่ชัดเจนเสียทีว่า เอ๊ะ เราจะยังไงต่อนะ คุณเป็นหัวหน้า ผมเป็นลูกน้อง เราเป็นคู่หูกัน แต่เราก็นอนด้วยกัน เราเป็นอะไรกันหรือยัง ในขณะที่เรื่องราวความสัมพันธ์ของพระเอกนายเอกก็คลุมเครืออย่างนั้น ก็เกิดเหตุการณ์และคดีหลายๆ อย่างขึ้นพร้อมๆ กันและดูเหมือนจะเกี่ยวเนื่องกันไปหมด ทั้งตำรวจและ FBI จึงต้องร่วมมือกันทำงาน เพื่อคลี่คลายคดีเหล่านี้อย่างเต็มที่ เนื้อหาของนิยายในเรื่องนี้จึงเข้มข้นมากค่ะ ลุ้นกันไปตลอดทั้งเล่ม ไหนจะคอยลุ้นความสัมพันธ์ของตัวละคร ไหนจะลุ้นเรื่องการไขคดีที่จบคดีนี้ยังเชื่อมต่อไปอีกคดี และก็เกี่ยวกันไปอีกคดี ที่เข้มข้นชนิดแทบจะเอาชีวิตไปทิ้งกันอยู่แล้ว
 
อันที่จริงนะคะ จำได้ว่าประเด็นนี้ก็เขียนถึงไปบ้างแล้วในการรีวิวนิยายเรื่องก่อน แต่พออ่านนิยายเรื่องนี้จบก็นะ แหม... ไอ้เรื่องการสื่อการกันเนี่ย ที่จริงมันเป็นเรื่องที่สำคัญนะ แต่ทำไมถึงได้ชอบอมพะนำ เก็บเงียบกันเสียจนทำให้เข้าใจผิดกันไปอย่างไม่ควรจะเป็น ซึ่งนี่มันนิยายน่ะนะคะ ก็เข้าใจได้ว่ามันต้องสร้างปม ผูกเรื่องอะไรต่อมิอะไรขึ้นมา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าคนเรามีอะไรแล้วพูดกันมากขึ้นหน่อย อะไรๆ ก็คงจะง่ายขึ้นมากเชียว ดังนั้น จงอย่าลืมให้ความสำคัญกับการสื่อสารระหว่างกันและกันให้มากๆ เข้าไว้เถอะค่ะ อย่าได้มองข้ามไปเชียว
 
แต่เราว่าคนเขียนก็เก่งนะคะ ที่สร้างปมใหญ่ให้กับตัวละครหลักทั้งสองตัวได้อย่างค่อนข้างน่าเชื่อถือ เวลาที่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น หรือเวลาที่ตัวละครในเรื่องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง เราก็รู้สึกว่าเข้าใจได้และพอจะยอมรับได้ แม้อาจจะไม่ตรงใจเราก็ตาม จนกระทั่งทุกอย่างก็คลี่คลายได้ในที่สุดค่ะ เรื่องนี้อยากจะบอกว่า คดีคลี่คลายยังไม่เท่ากับปมในใจที่คลี่คลาย เพราะเล่นเอารู้สึกอึดอัดอึมครึมอยู่นานเชียวว่าตกลงจะเอายังไงกันเนี่ย เราชอบบทสรุปในตอนท้ายเรื่องเป็นอย่างมากค่ะ เพราะมันช่วยทำให้เข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของพระเอกนายเอกของเราได้อย่างชัดเจนขึ้นมากเลย
 
อ่านสนุกค่ะเรื่องนี้ แนะนำให้ไปลองหาอ่านกันดู อย่าเพิ่งเห็นว่าเป็นเรืองราวสืบสวนสอบสวนแล้วจะอ่านยาก ถ้าเทียบกับนิยายฝรั่งที่เราอ่านมานักต่อนัก เรื่องนี้ไม่ถือว่าอ่านยากเลยสักนิด หนักไปทางลุ้นเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครมากกว่าด้วยซ้ำ แถมยังอ่านได้เพลินๆ สนุกดีด้วย เล่มเดียวอ่านวันเดียวก็จบ (หลายวันก็ได้ค่ะ ไม่ว่ากัน) ปัจฉิมลิขิตของผู้แต่งในตอนท้ายเล่มก็ตลกดีค่ะ เราชอบนะเวลาที่ได้รู้ว่านักเขียนได้ไอเดียการแต่งนิยายมากจากไหนแล้วต้องรับมือกับอะไรบ้างแบบนี้
 
หามาอ่านแล้วก็หวังว่าจะชอบกันนะคะ พบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ
 


Create Date : 18 กันยายน 2563
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2563 9:41:17 น. 2 comments
Counter : 2294 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณออโอ

 
 
 
 
เล็ง ๆ อยู่ค่ะเรื่องนี้
 
 

โดย: ออโอ วันที่: 24 กันยายน 2563 เวลา:13:10:14 น.  

 
 
 
จัดเลยค่ะ ถือว่าเป็นนิยายที่อ่านสนุกเรื่องนึงเลยล่ะ
 
 

โดย: fingers-crossed วันที่: 24 กันยายน 2563 เวลา:16:08:45 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

fingers-crossed
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หวังว่าจะได้รับความบันเทิงจากการเข้าเยี่ยมชม Blog กันถ้วนหน้าจ้ะ
[Add fingers-crossed's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com