ห้องสมุดแบบฟินแลนด์....ห้องสมุด..ที่เป็นมากกว่า..ห้องสมุด
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปเที่ยวเฮลซิงกิมาค่ะ ( บ้านนอกเข้ากรุงอีกแล้ว) ได้ข่าวว่ามีห้องสมุดเปิดใหม่ เลยแวะไปชมสักหน่อย
ไปมาแล้ว รู้สึกชอบมากๆค่ะ (จนอดที่จะเล่าต่อไม่ได้) ไม่แปลกใจเลย ทำไมคนฟินน์ ถึงเป็นชาติที่รักการอ่านมากๆ
จากห้องสมุดนี้ ทำให้ได้เรียนรู้ อะไรหลายๆอย่างเลยค่ะ ได้รู้จัก ความเป็นฟินแลนด์ มากขึ้น ทำให้ได้เห็น วิถีชีวิต วัฒนธรรม และศิลปะแบบฟินแลนด์ที่ชัดขึ้น
ใครมาเที่ยวเฮลซิงกิ ถ้ามีเวลา แนะนำว่าควรแวะที่นี่ด้วยค่ะ
ห้องสมุดนี้มีชื่อว่า Oodi แปลว่า บทกวี ( ถ้าผิดขอภัยด้วยนะคะ)
เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ธันวาคม ปี 2018 ที่ผ่านมาค่ะ คนฟินน์เขาบอกว่า ห้องสมุดแห่งนี้ เปรียบเมือน " ห้องนั่งเล่นแห่งกรุงเฮลซิงกิ "
พอไปถึง สิ่งแรกที่สะดุดตาเลยคือ โครงสร้างของตัวอาคาร ที่ถูกออกแบบโดยการผสมผสาน
ระหว่าง ความทันสมัย และสถาปัตยกรรมการก่อสร้าง แบบดั้งเดิม ของฟินแลนด์
ตัวอาคารประกอบด้วย โครงสร้างเหล็ก กระจก และไม้
ภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Library_Oodi_2019.jpg?uselang=fi
Oodi คือห้องสมุด ที่เป็นมากกว่าห้องสมุด เวลาพูดถึงห้องสมุด เราต้องนึกถึงหนังสือใช่มั้ยคะ แต่ Oodi มีมากกว่านั้นค่ะ ว่าแต่....อยากทำอะไรล่ะ... Oodi เป็นจุดนัดพบเพื่อนฝูง, นั่งเล่น, อ่านหนังสือ, ดื่มกาแฟ, จิบไวน์สักแก้ว, ทำงาน, เล่นเกม, ดูหนัง, ฟังเพลง, ซ้อมดนตรี, อัดเพลง
เรียนหนังสือ, ประชุมงาน, พาลูกไปเล่นของเล่น, หรือจะจัดงานวันเกิดให้ลูก, ถ่ายรูป, แต่งภาพ, ตัดต่อวิดีโอ
ทำโปสเตอร์โฆษนา, ทำนามบัตร, ปริ้นงาน
ฝึกงานฝีมือ, แวะไปตัดขากางเกง, เย็บผ้าม่าน, หรือจะแวะพักผ่อนหลังเลิกงาน และ...อื่นๆ อีกมากมาย
ที่เราสามารถทำได้ ที่ห้องสมุดแห่งนี้ค่ะ ตัวอาคาร มีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน ชั้นแรก จะมีจุดให้บริการ เช่น บริการยืม - คืนหนังสือ และบริการทั่วไป มีห้องโถงสำหรับ การจัดงาน หรือจัดอบรม สัมนาวิชาการ จุดแสดงข้อมูลข่าวสาร ของ EU
บริการโรงภาพยนตร์ ที่จุผู้ชมได้ 250 ที่นั่ง เปิดฉายภาพยนตร์นานาชาติ ที่มุ่งเน้น เผยแพร่ งานด้าน ศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ค่ะ
จุดหนึ่งที่น่าสนใจ ถ้าไปแล้วต้องแวะคือ จุดที่เรียกว่า Brygga เป็นจุดแสดงนิทรรศการ ข้อมูลข่าวสารของเฮลซิงกิ เช่น ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ การวางแผน ที่อยู่อาศัย การจราจร และการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ในเฮลซิงกิ เป็นต้นค่ะ ถัดจากทางเข้ามานิดนึง จะเป็นพื้นที่โล่งๆ มีกำแพงกระจกใสเป็นส่วนที่เรียกว่า Leikkipiste เป็นพื้นที่สำหรับใคร ที่อยากจะมานั่งเล่นชิลๆ หรือจะนำอาหาร ไปนั่งปิคนิค ก็ตามสะดวกเลยค่ะ
ตรงจุดนี้สามารถมองเห็น รัฐสภาฟินแลนด์ด้วยค่ะ ชั้น 2 เป็นส่วนที่เน้นให้บริการ เกี่ยวกับการทำงานโดยเฉาะ มีห้องทำงาน มีคอมพิวเตอร์ เครื่องปริ้นส์ 3D และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการทำงานอย่างครบครัน และทันสมัยค่ะ
ชั้น 2 จะตกแต่งด้วยโทนสีดำ แสดงออกถึงการทำงาน อย่างจริงจังของคนฟินน์ อันนี้คิดเอง เออเองนะคะ ฮ่าๆๆ เพราะคนฟินน์เวลาทำงาน เขาจริงจังมาก เกือบทุกอย่างที่นี่ จะเป็นบริการแบบ Itse palvelu แปลเป็นไทยคือ การบริการแบบ บริการตนเองค่ะ
อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ จะมีคำอธิบายขั้นตอนและ วิธีการใช้งาน ไว้อย่างละเอียด
สมาชิกของห้องสมุด สามารถเข้าใช้ บริการได้ฟรี
มีเพียงบางอย่างเท่านั้น ที่มีค่าธรรมเนียมนิดหน่อยค่ะ มีห้อง Studio สำหรับผู้ที่ต้องการ อัดเพลง หรือจะซ้อมดนตรี
ตัดต่อภาพยนตร์ เป็นห้องเก็บเสียงค่ะ ด้านในมีอุปกรณ์ ให้ครบค่ะ มีโซนที่งดใช้เสียงด้วยค่ะ บริเวณรอบๆ จะตกแต่งด้วยการจัดสวนเล็กๆ
มีเสียงนกร้องเบาๆ ตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียว บรรยากาศดีมากค่ะ
วันที่ไป ยังเดินไม่ทั่วเลยค่ะ ใหญ่มาก ตรงชั้น 2 ยังเปิดไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ดี มีบางส่วนที่ยังตกแต่งไม่เสร็จ
โซนที่เรียกว่า Pienryhmätilat เหมาะสำหรับผู้ที่มาเป็นหมู่คณะ จะจัดประชุมงาน หรือจัดงานวันเกิด ก็สะดวกเลยค่ะ
โซน Työhuoneet หรือโซนห้องทำงาน สำหรับบุคคลทั่วไป นักเรียน นักศึกษา หรือโรงเรียน ที่ต้องการจัดกิจกรรม ทำโปรเจกต์ ทำงานกลุ่ม จะนำอุปกรณ์ หรือคอมฯส่วนตัวเข้าไปด้วยก็ได้ค่ะ สามารถเข้าใช้บริการได้ โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า หากหน้าห้องขึ้นป้ายว่าห้องว่าง ก็เข้าได้เลยค่ะ
จุดที่ จขบ ชอบที่สุด คือจุดนี้ค่ะ จุดบริการ งานฝีมือ
ใครจะคิดว่า เราสามารถมาเย็บผ้าที่ห้องสมุดได้ด้วย มีบริการ จักรเย็บผ้า อ่านไม่ผิดแน่นอนค่ะ จักรเย็บผ้า
งง ล่ะซิ ห้องสมุดฟินแลนด์ มีจักรเย็บผ้าด้วย ฮ่าๆ
จริงๆไม่ใช่แค่ที่นี่ค่ะ ห้องสมุดประจำจังหวัด หลายที่ก็มีบริการ งานฝีมือแบบนี้เช่นกัน
ใครที่ชอบงานฝีมือ เชิญเลยค่ะ ที่สำคัญคือ ฟรีค่ะ
เจ้าเครื่องที่อยูในภาพด้านล่างนี้ วันที่ไป คนมุงเยอะมากค่ะ ตอนนี้ มุลก็ยังไม่ทราบว่ามันคือเครื่องอะไร ฮ่าๆ ใครทราบมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะคะ
มาดูชั้น 3 กันบ้าง ชั้น 3 เป็นส่วนที่ให้บริการ หนังสือ สื่อการเรียน ต่างๆ
เหมาะสำหรับ การพักผ่อน สบายๆ นั่งอ่านหนังสือเงียบๆ จิบกาแฟชิลๆ
มีมุมที่จัดไว้ สำหรับผู้อ่าน ทุกเพศทุกวัย อย่างเหมาะสม
มีจุดให้ เซลส์ฟี่ด้วยค่ะ สำหรับคนที่ต้องการถ่ายรูป
เดี๋ยวขอเล่านิดนึง ตอนแรก งง มาก เขาบอกไปเซลส์ฟี่ตรงโน้นนะ ฝั่งที่เขาจัดแสดงคอนเสริต์ ทางขวามือ จะมีทางเดินขึ้นไป ข้างบนมีซอกเล็กๆ ให้ถ่ายรูป ตอนแรกคิดว่า ตรงนั้น มันมีกระจก หรือมีภาพมิติ อะไรพิเศษรึป่าว
เพราะตอนถ่าย ต้องยืนหันหลังเข้ากำแพง มารู้ตอนหลัง อ๋อ เขาจัดไว้สำหรับเซลส์ฟี่ เวลาถ่ายภาพจะได้ไม่ติดคนอื่น ฮ่าๆๆ
มุมสำหรับเด็ก และครอบครัว
มีพื้นที่ ให้เด็กๆได้วิ่งเล่นสนุกสนาน
นอกจากจะเข้ามาอ่านหนังสือเเล้ว ที่นี่ยังเป็นเสมือนสถานที่ สำหรับพักผ่อน หย่อนใจ
หลีกหนีความวุ่นวายในเมือง ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน
เป็นห้องเรียน ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น เป็นสนามเด็กเล่น ของเด็กๆ
เป็นที่ ที่มาได้ทั้งครอบครัว มาได้ทุกวัย วันหยุดไม่รู้จะไปไหน ก็มาเดินเล่นห้องสมุด
เหนื่อยก็พัก หิวก็หาอะไรกิน ง่วงก็หามุมงีบ เป็นห้องสมุด ที่มากกว่าห้องสมุดจริงๆค่ะ
ไม่ใช่แค่คนฟินน์เท่านั้นค่ะ ห้องสมุดนี้ ได้ความสนใจจากต่างชาติจำนวนมาก
ในแต่ละวัน มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย ที่แวะเวียนไปเยี่ยมชม ห้องสมุด เรียกว่าเป็น อีกหนึ่งจุดหมายปลายทาง เมื่อมาเยือนเฮลซิงกิเลยค่ะ
ที่เขียนในบล็อกนี้ เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้นค่ะ ใครอยากชมเต็มๆ อย่าลืมแวะไปนะคะ
เจอกันใหม่บล็อกหน้าค่ะ
Create Date : 26 เมษายน 2562 |
Last Update : 28 เมษายน 2562 3:24:22 น. |
|
10 comments
|
Counter : 2089 Pageviews. |
|
|
ขอบคุณที่เปิดโลกทัศน์นำรูปมาฝากกันชมค่ะ