ทีนี้ เมื่อทุน 1.8 ล้านบาท เปรียบเทียบกับทุน 1 ล้านบาท เวลาไปต่อยอดทบต้นไปเรื่อย ปลายทางจะต่างกันมากขึ้นเรื่อย ๆ

มาถึงสถานการณ์ SET ในปัจจุบัน มีหุ้นถูก ๆ หลายตัว ราคานิ่ง และรอแค่สัญญานซื้อ แต่พบว่าส่วนใหญ่รายย่อย ไม่กล้าซื้อ เพราะส่วนใหญ่ติดดอย พอร์ตแดง ไม่อยากเสี่ยงเพิ่ม ดังนั้น ณ จุดต่ำสุด ก็จะมีแต่รายใหญ่เท่านั้น ที่จะเริ่มดัน SET กลับได้ รายย่อยก็รอจนตัวเองกลับมาเท่าทุน จึงเริ่มเล่นรอบใหม่

ดังนั้น การ Cutloss ไม่ใช่เป็นการยอมรับความพ่ายแพ้ แต่เป็นการถอยมาตั้งรับ เพื่อที่จะรุกกลับอย่างชาญฉลาด

เท่าที่เห็น ปัญหาคือ
1. ไม่ได้วางแผนการเทรด คือไม่ได้กำหนดจุด Stop Loss โดยการเขียนออกมาเป็นตัวเลขให้ชัดเจน
2. เล่นหุ้นหลายตัวเกินไป ดูไม่ทัน หุ้นบางตัวลงเร็วมาก ถ้าไม่เฝ้า ทำอะไรไม่ถูก กว่าจะเคาะขาย ราคาก็ลงไปมากแล้ว เลยเปลี่ยนใจ พอมันลงอีก ก็ตัดใจขายละ ก็ไม่ทันอีกลงไปอีก สุดท้ายมันนิ่งละ ตอนนี้เคาะได้สำเร็จ มันก็ได้เวลาเด้งละ
3. ชอบไล่ราคาหุ้นในที่สูง ทำให้เสียเปรียบ ราคามักจะย่อตัวลงมาจนเกินจุด Stop Loss บ่อย ๆ

หากเราวางแผนการซื้อในจุดที่เหมาะสม เช่นปลาย Wave 2 โดยกำหนดจุด Stop Loss เมื่อทำ Lower Low หรือต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของ Wave 1 นั่นหมายความว่าหากหลุด มันมักจะเปลี่ยน Trend เป็นขาลงไปเลย แต่หากเราไปไล่ซื้อตรง Wave B แล้วตั้งจุด Stop Loss ตรง Low ของ Wave A ซึ่งมันมักจะลงมาเพื่อทำ Wave C เราก็มักจะต้อง Stop Loss บ่อย ๆ แล้ว พอ Stop Loss เสร็จที่ปลาย Wave C ราคามันก็เด้งเป็นขาขึ้นรอบใหม่ มันก็จะทำให้เราไม่เชื่อในการ Stop Loss อีกในครั้งต่อไป

/ จากRangVI