space
space
space
 
พฤศจิกายน 2558
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
space
space
2 พฤศจิกายน 2558
space
space
space

DESTINY OF SOUL # 1 : Beast Armor
....ค่ำคืนหนาวเหน็บบริเวณตะเข็บชายแดนทางตอนเหนือของทวีปบารายองก้า บอลลูนสีชมพูลอยเคว้งคว้างท่ามกลางค่ำคืนที่เงียบสงัด แสงไฟเล็กๆส่องสว่างไม่มากจากตะเกียงเก่าๆสีแดงที่แขวนไว้อยู่บนบอลลูนคอยส่องนำวิถี ขณะที่ลอยถลาลมแล่นในอากาศ ท่ามกลางความวิเวกวังเวง บอลลูนได้ลอยผ่านหมู่บ้าน เล็กๆแห่งหนึ่ง มีแสงไฟส่องสว่างไม่มากจากด้านล่างที่เล็ดลอดออกมาจากช่องหน้าต่างตามบ้านเรือน บ้านไม้หลังกะทัดรัดตั้งห่างกันออกไปไม่กี่สิบเมตร ติดกันเป็นแถวๆ กองหิมะสีขาวโพลนที่ปกคลุมอยู่บนหลังคาบ้านแต่ละหลัง ราวกับบอลลูนลำนี้ยังคงลอยอยู่เหนือกลุ่มก้อนเมฆน้อยๆ ไม่นานนักบอลลูนเจ้ากรรมเริ่มลดระดับความสูง ตัวมันเองเริ่มเพิ่มความเร็วถลาพุ่งลงในแนวดิ่ง ประจวบเหมาะกับที่ เอเกอร์ นายพรานแก่ร่างกายกำยำแข็งแกร่ง ได้ออกมาเก็บฟืนเพิ่มจากบ้านหลังเล็กๆของเขา ควันไอจากลมหายใจของเอเกอร์พุ่งสลับสับเปลี่ยนกับควันบุหรี่เข้าออกกันเป็นระยะๆ ฟืนกองพะเนินราวยี่สิบท่อน เอเกอร์ก้มลงหอบขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนอย่างไม่ยาก ท่อนแขนของเขาที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นนั้น ใหญ่กว่าท่อนฟืนบางท่อนเสียอีก ! เอเกอร์พยุงกองฟืนและกำลังจะเดินเข้าไปในบ้านของเขา แต่อนิจจา จู่ๆลมหนาวพัดแรงมาจากทิศไหนก็หาได้รู้ไม่ บุหรี่ของเขาปลิวหลุดออกจากริมฝีกปากที่รายล้อมด้วยหนวดเครารุงรังพอประมาณ แววตารู้สึกเสียดายบุหรี่ของเอเกอร์ ที่ใจอยากจะก้มลงไปเก็บแต่ก็ยากที่จะวางกองฟืนไว้กับพื้น จึงตัดใจและหันกลับไป ทิศทางที่จะเข้าประตู แสงสว่างกระพริบลิบลับ ปรากฏในมุมชำเลืองของหางตาเอเกอร์ เขาหยุดชะงักและเงยหน้าขึ้นไปมองด้านบนเล็กน้อย ปรากฏภาพของบอลลูนปริศนา ที่มีแสงไฟเล็กๆรอยละลิ่วไปตามแรงลม สายตาของเอเกอร์มองตาม บอลลูนไปด้วยความประหลาดใจ เมื่อตั้งสติคืนมาได้ จึงรีบผละกองฟืนกลับไปที่เก่า และ รีบวิ่งเข้าบ้าน ไปหยิบหน้าไม้สีเงินทรงสวย แลดูน่าเกรงขาม ด้ามจับทำจากเหล็กกล้ามที่ถูกหลอมขึ้นรูปมาเป็นพิเศษ กระสุนหน้าไม้ที่ถูกจัดเรียงไว้ในสำรับผ้าหนังสัตว์อย่างเป็นระเบียบ เขาได้นำขึ้นมาคาดเอวและ ผิวสัญญาณปากเสียงแหลม ทันใดนั้น สไตรเกอร์ เจ้าหมาคู่ใจพันธ์ไซบีเรียนของเอเกอร์ ก็วิ่งพุ่งออกมาจากหลังบ้านอย่างรวดเร็ว มุ่งไปหาเอเกอร์ เสียงเห่าใส่เจ้าของเป็นสัญญาณความพร้อม ในการออกลุย ปลอกคอของสไตร์เกอร์เป็นสีทองอร่าม ที่เจ้าของมันสั่งทำพิเศษเป็นสมบัติสุดหวงแหนของสไตรเกอร์ และแน่นอน มันสามารถรู้ใจเจ้าของอย่างเอเกอร์ได้ไม่ยาก มันมองไปตามสายตาของเอเกอร์ที่จับจ้องอยู่ที่บอลลูนเป้าหมายอย่างไม่คลาดสายตา เสียงเห่า โฮ่ง โฮ่ง พร้อมกับการออกตัววิ่งไปตามเส้นทางของบอลลูนที่กำลังลอยหายเข้าไปในหุบเขาในป่า เอเกอร์ไม่รอช้ารีบวิ่งตามสุนัขคู่กายไปทันทีเช่นกัน สไตรเกอร์วิ่งนำหน้าเจ้าของของมัน อยู่ไม่ไกลนัก ภายในป่าหลังเขา เมื่อเอเกอร์ต้องหยิบหน้าไม้ที่สะพายข้างมาถือในท่าพร้อมยิง นั้นแสดงว่า อาณาบริเวณนี้คงจะไม่ปลอดภัยสำหรับค่ำคืนแบบนี้เท่าไรนัก เสียงเห่าของสไตร์เกอร์เป็นสัญญาณบอกให้เขารับรู้ว่ามันเจอเป้าหมายอะไรบางอย่างแล้ว 
ท่ามกลางเงามืดทะมึนของต้นไม้ที่ขึ้นสูงจนแทบไม่เห็นยอด เสียงฝีเท้าของเอเกอร์ที่เกือบจะถึงจุดที่สุนัขของเขาเห่าส่งสัญญาณ แทบไม่น่าเชื่อ ท่ามกลางความหนาวเหน็บเย็นยะเยือก บอลลูนเจ้ากรรมที่ตกอยู่ตรงหน้าของเอกเกอร์ เสียงหอบเหนื่อยของเขา ไอควันที่โพยพุ่งออกมาสลับสวนทาง สไตรเกอร์รีบวิ่งไปยืนเคียงข้างเจ้าของๆมัน ขนปุกปุยนุ่มนิ่มถูกลูบไล้ด้วยเจ้าของสุดที่รักของมัน 
"ดีมาก ดีมาก เด็กดี " เอเกอร์ลูบไปมาบริเวณหัวของสไตร์เกอร์ และกล่าวชมมัน เจ้าหมาแสนรู้กระดิกหางแสดงถึงการรับรู้ที่ชาญฉลาด ของมัน มันยังคงเดินตามเอเกอร์ไปอย่างช้าๆ ในขณะที่เอเกอร์กำลังเดินสำรวจบอลลูนอย่างห่างๆ 
แสงไฟจากตะเกียงยังคงไม่ดับ แต่ไฟจากก๊าซที่ทำให้บอลลูนบินได้นั้นได้หมดฤทธิ์เสียแล้ว เอเกอร์ค่อยๆย่างเท้าเข้าไปใกล้บริเวณ ฐานของบอลลูน สายตาของเขายังไม่เห็นได้ชัดมากเท่าไรนัก แต่ก็พอจะรู้สภาพที่สะบักสะบอมของตัวบอลลูนพอสมควร เอเกอร์เอาเท้าข้างขวาที่ห่อมหุ้มด้วยรองเท้าบูธลุยหิมะคู่หนา เขี่ยซากของบอลูนเล็กน้อย เพื่อให้แน่ใจว่าอาจจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ด้านในหรือไม่นั้น เอเกอร์ค่อยๆก้าวเดินเข้าไปอย่างระวังเป็นพิเศษ เขาขยับใกล้เรื่อยๆ ภาพลางๆที่ปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าของเขาไม่ห่างมากนัก เหมือนเป็นตะกร้าไม้สานใบโตสีดำทะมึน ภายในยังไม่รู้ว่ามีอะไร แต่คำถามนี้มักจะมีคนหาคำตอบ เอเกอร์ ได้ตัดสินใจใช้มือซ้าย ค่อยๆเข้าไปแตะตรงหูหิ้วของตะกร้าในขณะที่มือขวายังคงถือหน้าไม้พร้อมที่จะลั่นไกยิงได้ตลอดเวลา ท่อนแขนขนาดใหญ่ของเอเกอร์นั้นพอจะมีแรงหิ้วตะกร้าไม้สานสีดำใบโตได้ด้วยมือเดียว เอเกอร์ค่อยๆยกตะกร้านั้นออกมาจากนอกบอลลูน และวางมันช้าๆบนพื้นที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลน เอเกอร์สังเกตเห็นบางอย่างที่อยู่ภายในตะกร้า เขาพยายามที่จะปลดเชือกที่ผูกไว้กับตะกร้าสานเพื่อที่จะเปิดข้างในดู แต่ก็ไม่สามารถปลดด้วยมือของเขาได้ ผ้าคลุมของเขาถูกแหวกออก มีดสั้นเล่มสวยสลักลายเรือสีทอง เหน็บไว้ที่ข้างเอว เอเกอร์วางหน้าไม้ที่ถือไว้ในมือขวาลงข้างตน และ หยิบมีดสั้นที่เหน็บไว้ข้างเอาออกมา เพื่อที่จะตัดเชือกที่ผูกกับฝาปิดตะกร้าสานใบโต 
เอเกอร์บรรจงใช้ปลายมีดสั้น ค่อยๆสะกิดเชือกที่ผูกกับฝากปิดตะกร้าสานอย่างละเมียดละไม เขาลงมือทำอย่างใจเย็น ไม่นานนัก เชือกก็ได้หลุดออกด้วยปลายแหลมของมีดสั้น เอเกอร์จึงเก็บมีดสั้นของเขาไว้ที่เอว และ ค่อยๆใช้มือทั้งสองข้างยกเปิด เพื่อจะดูสิ่งที่อยู่ภายในตะกร้า ในขณะนั้นเอง มีบางอย่างกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้เขา เจ้าสไตรเกอร์มีสัญชาติญาณของสัตว์ ท่าทีของมันกำลังขู่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันเห่าสลับทีสองที เพื่อให้เจ้านายของมันรู้ตัวถึงบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สู้ดีนัก ภายในม่านต้นไม้สูงชะลูดทำให้เสียทรรศนะวิสัยในการมองระยะไกลกว่า 80% เงาดำตะคุ่มๆวนเวียนอยู่รอบๆเอเกอร์และสัตว์เลี้ยงของเขา เอเกอร์ผละมือจากฝาตะกร้าสาน และ คว้ามหน้าไม้คันเก่งของเขาขึ้นมาจับพอดีมือ นิ้วโป้งขวาของเขาปลดล๊อคตะขอเกี่ยวคันศร เพื่อที่จะสามารถยิงได้ทุกเวลา ด้ามของหน้าไม้ประทัปที่บ่าของเอเกอร์อย่างรวดเร็ว ร่างกายสูงใหญ่ของเอเกอร์ ค่อยๆตั้งหลักปักฐานข้างๆบอลลูน ตัวเขายืนสูงตระหง่านบังตะกร้าไว้มิให้ใคร เข้ามากล้ำกราย ดวงตาสีแดงจากเงารอบๆ เริ่มส่องประกายหลายคู่ เสียงหายใจหืดหาด ดังเป็นระยะๆ ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไรนัก สายตาของเอเกอร์เปลี่ยนไป แววตาที่มีสมาธิมุ่งมั่น เตรียมพร้อมที่จะต่อกรกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เจ้าสไตรเกอร์แยกเขี้ยวขู่ นัยตาสี่ฟ้าของมันส่องประกายสว่างขึ้น สีเท้าปุยๆของมันตั้งหลักมั่นพร้อมที่จะปกป้องเจ้านายของมันด้วยชีวิต สองสหายท่ามกลางป่าใหญ่ คอยเฝ้าระวังหน้าหลังกันอย่างไม่ละสายตา เสียงฝีเท้ามากมายรายล้อมพวกเขาเอาไว้ 
" เฮ้ เจ้าตูบ ฉันจะเหมา 10 ส่วนนาย เก็บซัก 2 ถือฉันถือว่าต่อให้นายละกันนะ " เอเกอร์กล่าวต่อสุนัขของมันพร้อมกับค่อยๆหมุนตัวไปรอบๆ สายตาของสไตรเกอร์ชำเลืองมองตามแว่วเสียงจากเจ้าของมันเล็กน้อย แต่มันก็ไม่อาจที่จะละสายตาจากด้านหน้าได้ 
ทันใดนั้นเอง! เงาทมิฬได้โดดพุ่งออกมาจากม่านไม้พุ่งใส่สไตร์เกอร์ ตาสีแดงฉานเขี้ยวยาวกว่าฝ่ามือ ลิ้นสีเลือดแดงก่ำ ขนยาวเงามันสีดำลำตัวของมันยาวพอๆกับเกวียน สไตรเกอร์ขยับหลบเล็กน้อย ภาพที่เห็นคือหมาป่าครึ่งหมี่ร่างยักษ์ กำลังจะง้างปากตะครุบมัน แต่หาได้สู้กับความคล่องตัวของสไตร์เกอร์ได้ ลูกศรสีเงินพุ่งเข้าปักที่ขาขวาของเจ้าหมาทมิฬตัวนี้ มันกระโดดวนหนีไปอีกฝั่ง
" แบร์เคน สินะ ชิ ไม่ได้ติดของหนักมาด้วย " " สไตรเกอร์!" เอเกอร์อุทานขึ้นมาถึงชื่อของเจ้าสัตว์ทมิฬตัวนั้น และ รีบเรียกชื่อของสัตว์เลี้ยงทันที 
สองหูของสไตร์เกอร์กระดิก พลันพร้อมกับแสงประกายสว่างวาบจากตาสีฟ้าของมัน สไตร์เกอร์วิ่งมาหาเอเกอร์ และ กระโดดขึ้นพร้อมกับร่างกายของมันแยกสลายกลายร่างเป็นผงประกายแสงสีนิลผสมสีฟ้า พุ่งเข้าห้อมล้อมเอเกอร์ แสงเริ่มเจิดจรัสมากขึ้น บรรดาแบร์เคนเริ่มถอยห่าง มีคลื่นอากาศบางอย่างพุ่งออกจากรอบๆตัวของเอเกอร์ ตระกร้าสานใบโตสีดำ มีท่าทีกำลังจะปลิวไป ด้วยแรงลม หิมะที่กองอยู่พื้นถูกพัดกระจายออก แบร์เคนตัวหนึ่งหมายตาตระกร้าเอาไว้ มันจึงกระโดดเข้าใส่อย่างรวดเร็ว แต่
" โครม !!!?? " ร่างของแบร์เคนถูกซัดกระเด็นด้วยบางสิ่งบางอย่าง ร่างของมันปลิวไปซัดกับต้นไม้จนหักติดต่อกันสามต้น แบร์เคนหมดฤทธิ์สิ้นท่าทันที ม่านตาสีแดงของมันวูบดับลง พร้อมกับ การปรากฏร่างของเอเกอร์ แต่ทว่า รูปร่างของเขาเปลี่ยนไป จะว่ารูปร่างเปลี่ยนก็ไม่ใช่ ภายนอกร่างกายของเขาถูกปกคลุมด้วยเกราะสีนิลและเรืองแสงตามร่องด้วยสีฟ้า สวยงามเป็นประกาย แววตาของเอเกอร์ส่องประกายสีฟ้าระยิบระยับ 
แบร์เคนตัวที่สอง และ สาม ยืนดูเชิงอยู่ห่างๆ จนมีตัวนึงรีบวิ่งหนีหายเข้าไปในป่า แต่อีกตัวนึงกัดฟันสู้หลังชนฝาหมายปองจะขย้ำคอของเอเกอร์ แต่ ในร่างที่มีชุดเกราะคอยป้องกันนั้น หน้าไม้ของเขาได้เปลี่ยนไปเช่นกัน กลายเป็นปืนลูกซองสีเงิน มีฉมวกปลายแหลมเป็นกระสุน ลำกล้องกระบอกเป็นคล้ายๆ ปืนกลแกต์ลิงก์ ในจังนั้นเอง เอเกอร์ได้ยกปืนของเขาขึ้นด้วยมือขวา และ เอ่ยคำสั่งลา เล็กๆน้อยๆ
" มันคนละชั้นกัน ไอ้หมีหมา .. เปรี้ยง! " เสียงลั่นไกปืนดังสนั่น ลูกศรสีเงินพุ่งทะยานออกจากลำกล้อง ม้วนเป็นเกลียวคลื่นแสงสีฟ้าอ่อนๆ พุ่งเข้าใส่แบร์เคนตัวนั้นเข้าเต็มๆ แบร์เคนตัวนั้นกระเด็นออกไปไกลจนลับสายตาของเอเกอร์
เอเกอร์ยืนดูเชิงชั่วขณะนึง จากนั้นไม่นาน เกราะสีนิลที่ห่อหุ้มร่างของเอเกอร์ ก็สลายกลายเป็นประกายแสงสีนิลสลับฟ้า กลับร่างกลายเป็นสไตร์เกอร์สัตว์เลี้ยงคู่ใจของเขา เอเกอร์มองไปที่สไตร์เกอร์ สายตาของเขาบ่งบอกถึงการแสดงความขอบคุณต่อคู่หู มันทำท่าทีหางสั่นหูกระดิก และ เห่าใส่สไตร์เกอร์หนึ่งครั้ง ถือเป็นการตอบรับซึงกันและกัน 
เขาได้หันกลับไปที่ตระกร้าสานใบใหญ่ อยู่ห่างจากเขาไปประมาณ 2-3 เมตร เอเกอร์ย่อเข่าลงและค่อยๆบรรจงเปิดฝาตะกร้าด้วยความระมัดระวัง เขาเปิดอย่างช้าๆ และพบว่าภายในมีบางสิ่งบางอย่าง ที่ถูกห่อมหุ้มด้วยผ้าซาตินสีบรอนซ์ทอง และที่ น่าตกใจยิ่งกว่าคือภายในผ้านั้นปรากฏร่างเด็กทารกหน้าตาน่ารักแก้มแดงอมชมพูกำลังหลับพริ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น! สไตรเกอร์แปลกประหลาดใจเป็นอย่างมากกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เขาพยายามที่จะหาสิ่งของอื่นๆภายในตระกร้าสาน ก็ไม่มีสิ่งใด เอเกอร์เดินอุ้มเด็กทารกไปที่บอลลูน ท้ายสุดจะเจอก็เพียงแต่ตะเกียงทรงแปลกสีแดง ที่ไฟยังคงลุกโชติช่วงชัชวาลย์อยู่ 
" ....เป็นไปไม่ได้ ที่ไฟในตะเกียงยังคงติดอยู่ ทั้งๆที่เมื่อกี้เรากำลังต่อสู้แท้ๆ ผลกระทบจากการต่อสู้น่าจะทำให้ตะเกียงพังไปแล้วแน่ๆ ....." เอเกอร์ฉุกคิดภายในใจ แต่กระนั้นก็ได้อุ้มเด็กทารกที่ถูกห่อด้วยผ้าซาติน ด้วยมือขวา และ มือซ้ายถือตะเกียงชิ้นนั้นกลับไปด้วย 
"  สไตรเกอร์ กลับกันเถอะ ! " เอเกอร์เรียกคู่หูของเขา และ มันก็ได้เห่าตอบรับเสียงของเอเกอร์ วิ่งนำหน้าเหยาะๆไปเรื่อยๆ จนร่างของพวกเขาทั้งสองหายออกจากป่าไป 

เวลาผ่านล่วงเลยไปกว่า 10 ปี ...... 




ติดตามต่อได้ในตอนที่ 2 นะครับ หากชอบยังไงก็คอมเม้นพูดคุยกันได้นะครับ ขอบพระคุณที่ติดตามครับ 



Create Date : 02 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2558 20:48:42 น. 0 comments
Counter : 471 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

สมาชิกหมายเลข 1379553
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 1379553's blog to your web]
space
space
space
space
space