ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ดร. ประสาร ไตรรัตน์วรกุล เปรียบเทียบทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลเหมือนทีมฟุตบอล มีรัฐบาลเป็นกองกลางที่เห็นภาพรวม จึงคอยจ่ายลูกให้กองหน้าหรือแนวรุกซึ่งก็คือธุรกิจเอกชน

ดร. ประสารบอกว่าในสนามแข่งปัจจุบัน ไทยต้องเผชิญกับคู่ต่อสู้ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย จึงต้องปรับตัวและเปลี่ยนผู้เล่นกระทันหัน แต่เพราะภาพเห็นไม่ชัด เศรษฐกิจโลกยังซบเซา ทำให้กองกลางหันรีหันขวาง จ่ายลูกไม่ถูก ส่งผลให้ประเทศบาดเจ็บบ้าง แต่ก็ยังรักษาประตูไว้ได้

ผู้ว่าแบ็งก์ชาติบอกว่าสิ่งสำคัญคือหากลูกฟุตบอลตกอยู่ในมือคู่ต่อสู้แล้ว เราต้องกลับมารักษาตำแหน่ง

"แม้เราทำประตูไม่ได้ แต่เราจะไม่เสียประตู เหมือนได้แต้มศูนย์ต่อศูนย์ แต่อย่างประเทศกรีซนี่ศูนย์ต่อสิบห้า ตีประตูอีกฝั่งไม่ได้แล้วยังเสียประตูอีกด้วย"

ถ้ารัฐบาลเป็นผู้รักษาประตู และทีม ครม.เศรษฐกิจเป็นกองกลาง และธุรกิจเอกชนเป็นกองหน้า, ขณะนี้ก็ยังไม่เห็นภาพการแจกลูกที่เป็นระบบมากนัก

หรือกองหลังกับกองกลางอาจจะ "หันรีหันขวาง" อย่างที่ผู้ว่าแบ็งก์ชาติบอกก็ได้ แต่สาเหตุคงไม่ใช่มาจากสภาวะเศรษฐกิจซบเซาของโลกอย่างเดียว

หากแต่อยู่ที่กองหลังกับกองกลางยังไม่จัดขบวนให้มีการทำงานอย่างเป็นเอกภาพหรือขับเคลื่อนกันให้มีพลังอย่างเต็มที่

กองหน้าของทีมฟุตบอลทีมหน้าเป็นนักบู๊มาตลอดอยู่แล้ว แต่บ่อยครั้งก็ทำคะแนนไม่ได้เพราะขาดแรงหนุนหรือลูกที่แจกมาจากกองหลังและกองกลางไม่ค่อยจะได้มุมสำหรับที่จะเตะทำคะแนนฝ่ายตรงกันข้ามได้นัก

อีกทั้งกองกลางขณะนี้ก็ดูเหมือนจะอ่อนซ้อม และยังไม่เข้าขากัน อาจจะเพราะทีมฟุตบอลนี้มีโค้ชมากคนเกินไป หรือไม่ก็ยังไม่สำนึกถึงความสำคัญของคำว่าTeamwork ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการที่จะชนะการแข่งขันได้

อีกอย่างหนึ่งคือการปรับเปลี่ยนแผนการเล่นยังไม่มีความคล่องตัวเพียงพอ และนักเตะบางคนยังมีความเป็น "ดาราส่วนตัว" มากเกินไป ไม่พร้อมที่จะเล่นตามแผนที่โค้ชใหญ่วางเอาไว้

การประสานงานทำไม่ได้ในระดับที่ควรจะเป็นเพราะต่างคนต่างเล่นตามลีลาของตน และเมื่อหัวหน้าทีมวิ่งไปเล่นเกือบทุกตำแหน่งเพราะใจร้อนหรือกลัวจะหมดเวลาเสียก่อน จึงทำให้บางครั้งเกิดอาการรวนกลางสนามขึ้นมา นักเตะตำแหน่งต่าง ๆ ก็ไม่กล้าเอ่ยปากวิเคราะห์แผนและไม่สามารถจะขอ "เวลานอก" เพื่อปรับแผนให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของอีกฝ่ายหนึ่งได้

แม้จะคิดว่าทำประตูไม่ได้ แต่อย่าเสียประตูก็น่าจะรักษาตำแหน่งไว้ได้ แต่ในโลกของความเป็นจริง การทำคะแนนไม่ได้อาจจะเท่ากับแพ้เลยก็ได้ เพราะในสนามแข่งนั้นไม่ได้มีแค่สองทีมเท่านั้น หากแต่มีทีมอื่น ๆ อีกมากที่ฝีเท้าเก่งกว่าเรา เขาเก็บคะแนนเอาไว้เต็มกระเป๋า และถ้าเราได้แค่ศูนย์เท่ากับทีมที่แข่งกับเรา, เราก็อาจจะแพ้โดยที่ไม่มีโอกาสแข่งกับทีมอื่นที่แกร่งกว่าเราหลายเท่าเลย

เป้าหมายจึงต้องให้หัวหน้าทีมแจกงานให้ชัด คุมเกมให้รัดกุม สร้าง Teamwork ให้ได้อย่างจริงจัง

และที่สำคัญคือหัวหน้าทีมต้องไม่ลังเลที่จะเปลี่ยนตัวผู้เล่นให้ทันการ เพราะเกมนี้แพ้ไม่ได้ คนดูจะตะโกนว่า "เสียของ"

และกับตันทีมก็รู้ว่าถ้าพลาดรอบนี้ไม่มีโอกาสขอเล่น "ล้างตา" ได้อีก