กรกฏาคม 2558
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
8 กรกฏาคม 2558
 

ไทยกับกองเรือดำน้ำ Made in China

                              ไทยกับกองเรือดำน้ำ Made in China
ขณะนี้ประะเด็นเรื่องที่รัฐบาลไทยจะซื้อเรือดำน้ำ
กำลังอยู่ในภาวะคาจิตคาใจผู้คนหมู่มากของประเทศ
ประกอบกับหลายพื้นที่โดยรวมกำลังประสบภัยแล้ง
ซึ่งจะนำมาด้วยเรื่องปากท้องและความเดือดร้อนของชาวบ้านรากหญ้าจำนวนมาก
คุณสุทธิชัย หยุ่น เขียนเรื่องนี้ไว้น่าสนใจ
ขออนุญาตนำมารวบรวมไว้ศึกษา ดังนี้

หากเป็นไปตามข้อเสนอของกองทัพเรือ ไทยกำลังจะมีกองเรือดำน้ำเป็นครั้งแรก
หลังจากปลดระวางไปเมื่อปี 2494 หรือ 64 ปีก่อน และยิ่งเมื่อตามข่าวบอกว่า
จะตั้งงบ 36,000 ล้านบาทเพื่อซื้อสามลำจากประเทศจีน ก็ยิ่งทำให้น่าติดตาม
และวิเคราะห์ในมิติของการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคนี้อย่างยิ่ง

โดยเฉพาะในภาวะที่มีความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ที่มีจีนเป็นคู่กรณีกับเวียดนาม

และฟิลิปปินส์ โดยที่ไทยเราไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับความขัดแย้งนั้น

เป็นจังหวะเวลาที่สหรัฐผลักดันนโยบาย Pivot to Asia หรือ “ปักหมุดเอเชีย”

และจีนพยายามรักษาสถานภาพของความเป็นพี่เบิ้มในเอเชีย 

ด้วยการสร้างสัมพันธ์ด้านความมั่นคง ควบคู่กับด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างชัดแจ้ง


สำรวจไปรอบบ้านจะเห็นว่าสิงคโปร์มีเรือดำน้ำ 6 ลำและกำลังสั่งซื้ออีก 2

มาเลเซียมี 2 ลำขณะที่อินโดนีเซียมีอยู่ 2 และกำลังสั่งซื้ออีก 3 ลำ

เวียดนามรุกหนักด้านนี้ เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะมีความบาดหมางกับจีน 

ในเรื่องสิทธิเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ เดิมมีอยู่ 3 ลำ กำลังสั่งเพิ่มอีก 3


ที่น่าสนใจคือเวียดนามซื้อจากรัสเซีย 

ทยจะซื้อจากจีน ขณะที่มีข่าวว่าพม่าก็กำลังจะสร้างกองเรือดำน้ำ 

และขอความปรึกษาจากฝรั่งเศสอยู่ ลงท้ายเพราะความใกล้ชิดกับจีนก็อาจซื้อจากปักกิ่ง


กองทัพเรือบอกว่าตัดสินใจเสนอคณะรัฐมนตรีที่จะซื้อเรือดำน้ำจากจีน 

เพราะมีคุณภาพที่ดี สามารถอยู่ใต้น้ำได้ 21 วัน ขณะที่ของประเทศอื่นอยู่ใต้น้ำ

ได้อย่างมากสองสัปดาห์ อีกทั้งเรือดำน้ำที่สั่งจากจีนจะมีอาวุธครบถ้วน 

ราคานี้รวมถึงการฝึกบุคลากรด้านเรือดำน้ำครบกระบวนการด้วย

แน่นอนว่าเราซื้ออาวุธจากประเทศใดก็จะทำให้เราต้องมีส่วนผูกพันกับประเทศนั้น 

เพราะผู้ผลิตย่อมรู้รายละเอียดของอาวุธนั้น ๆ ดี และดีกว่าเราด้วยซ้ำ 

อันเป็นประเด็นที่เราต้องตระหนักไว้ตลอดเวลา


คำถามคือนี่เป็นการแย่งชิงความเป็นผู้นำทางด้านเรือดำน้ำ 

เป็นเกมการสร้างแสนยานุภาพทางทะเลของประเทศในอาเซียน

หรือนี่เป็นการยกระดับการป้องปรามทางทะเลของประเทศในภูมิภาคนี้ 

เพื่อสร้างอำนาจต่อรอง รักษาเสถียรภาพและความมั่นคง 

ในการปกป้องเส้นทางเดินเรือในทะเลจีนใต้ และผ่านช่องแคบมะลากาสู่ทะเลสากล?


คำถามต่อมาก็คือประเทศไทยมีความจำเป็นเพียงใด 

ที่จะต้องมีกองเรือดำน้ำ ในขณะที่ยังมีปัญหาเศรษฐกิจหนักหน่วงอยู่ไม่น้อย 

และถ้าหากเราไม่มีเรือดำน้ำตลอดเวลา 64 ปีที่ผ่านมา

แต่ยังรักษาความมั่นคงเอาไว้ได้ 

มีเหตุผลอะไรที่กองทัพเรือจะต้องซื้อเรือดำน้ำหรือ?


คำตอบจากฝ่ายความมั่นคงคือ 

ความจำเป็นที่จะปกป้องและป้องปรามน่านน้ำของไทยเอง 

ในขณะที่เพื่อนบ้านมีความคึกคักในด้านนี้ 

และยิ่งวันทะเลจะยิ่งมีความสำคัญ

ต่อยุทธศาสตร์ทางทหารของประเทศ เ

พราะไม่มีใครสามารถทำนายได้ว่าความขัดแย้งระหว่างประเทศ 

ที่เห็นอยู่ขณะนี้จะนำไปสู่สภาพการเผชิญหน้าอย่างไร


อีกด้านหนึ่งคือปัญหาการก่อการร้ายสากลที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในน่านน้ำไทย 

หรือรอบบ้านเรา การมีกองเรือดำน้ำเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแนวป้องกันทางทะเล 

ที่เพิ่มความพร้อมทางด้านการป้องกันประเทศ

ผู้ไม่เห็นด้วยย่อมจะแย้งได้ว่าหากทุกประเทศในแถบนี้ 

ต่างแย่งกันสร้างกองกำลังเรือดำน้ำ 

นี่ก็เท่ากับเป็น “การแข่งขันชิงความเป็นเจ้าทะเล”

ซึ่งในแง่หนึ่งย่อมจะทำให้ความพยายามของอาเซียน 

ที่จะสร้างการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ปราศจากความขัดแย้ง 

ป้องกันไม่ให้เกิดสงครามรอบใหม่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

นักการทหารบางคนมองว่าการมีกองเรือดำน้ำเป็นการสร้างอำนาจต่อรองที่สำคัญ 

และหากประสานร่วมมือของกองเรือดำน้ำในอาเซียน 

ก็จะเป็นการผนึกกำลังเพื่อต้านโอกาสของการคุกคามจากข้างนอกได้เช่นกัน


จึงเป็นหน้าที่ของกองทัพเรือที่จะต้องอธิบายเหตุผล

ของการขอซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน 

และประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศต่อสาธารณชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจ 

ประกอบการแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างประชาชนด้วยกันเอง


เพราะระบบป้องกันประเทศที่ได้ผลที่สุดมิใช่เพียงอาวุธยุทโธปกรณ์เท่านั้น 

หากแต่อยู่ที่ความเข้าใจ ความร่วมมือ และการรับรู้ของประชาชนเจ้าของประเทศอีกด้วย


พรุ่งนี้จะได้กล่าวถึงแนวโน้มการสร้างกองเรือดำน้ำรอบ ๆ บ้านให้เห็นภาพเพื่อการเปรียบเทียบ ประกอบการพิจารณาของประชาชนไทยอย่างเรา ๆ/จบ

..................................................................................................................................

และเมื่อ 9 กค.2558 คุณสุทธิชัย หยุ่น ได้เขียนเรื่องนี้ต่อ

ขออนุญาตเก็บไว้เป็นกรณีศึกษาต่อไปคะ ดังนี้


เรือดำน้ำย่านนี้ ใครมีกี่ลำ?


ไทยจะมีเรือดำน้ำสั่งจากประเทศจีน 

รอบบ้านเราก็มีกองเรือดำน้ำอยู่หลายประเทศ 

ช่วงหลังนี้ดูเหมือนการสั่งซื้อเรือดำน้ำ ในอาเซียนจะคึกคักขึ้น 

เพราะต่างคนต่างต้องการจะสร้างแสนยานุภาพทางทะเลมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด


จนเกิดคำถามว่านี่เป็น “submarine race”

หรือเป็นการแย่งชิงความเป็นหนึ่งทางด้านนี้หรือไม่


ต้นปีนี้ เวียดนามประกาศร่วมวงด้วยการสั่งเรือดำน้ำจากรัสเซีย 

ประเภท Kilo-class ที่เป็นที่รู้จักในวงการนี้ดี 

และตั้งชื่อว่า Hanoi ประทับความขึงขัง

ก่อนหน้านี้ไม่นาน อินโดนีเซียก็แสดงความสนใจที่จะสั่งเรือดำน้ำแบบเดียวกันนี้

จากรัสเซีย บวกกับเรือรบจากเกาหลีใต้

เดือนพฤศจิกายนปี 2013 สิงคโปร์ลงนามว่าจ้างบริษัทเยอรมัน 

สร้างเรือดำน้ำชุดใหม่เพื่อเสริมกองเรือดำน้ำเดิมที่มีอยู่แล้ว 6 ลำ

ฟิลิปปินส์ก็กำลังพิจารณาสั่งเรือดำน้ำเช่นกัน ว่

ากันว่าเตรียมจะซื้อชุดแรก 2 ลำเพื่อเสริมกองกำลังทางทะเลของตน


เวียดนามกับฟิลิปปินส์มีเรื่องระหองระแหงกับจีนในทะเลจีนใต้ 

จึงไม่น่าแปลกใจที่สองประเทศนี้จะต้องสร้างเสริมสมรรถภาพทางทะเล 

และแน่นอนว่าคงไม่สั่งซื้อเรือดำน้ำจากจีน 

ต้องหันไปหารัสเซียที่พร้อมจะขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับประเทศในอาเซียนอยู่แล้ว


รัสเซียกับจีนมีความสัมพันธ์กันค่อนข้างดีในระยะหลัง 

เพราะมีคู่พิพาทร่วมคือสหรัฐ การขายเรือดำน้ำให้กับประเทศอาเซียนของสองชาตินี้ 

จึงมิอาจถือว่าเป็นการแก่งแย่งทางด้านยุทธศาสตร์ทหาร 

แต่หนีไม่พ้นว่าการซื้อขายอาวุธย่อมมิใช่เพียงธุรกิจอย่างเดียว 

หากแต่หมายถึงความผูกพันด้านความมั่นคง 

และยุทธศาสตร์ทางทหารด้วยเช่นกัน

แผนของเวียดนามจะมีเรือดำน้ำทั้งหมด 6 ลำภายในปี 2016

 และอินโดนีเซียเตรียมจะเพิ่มอีก 3 ลำในเวลาใกล้ ๆ


ผู้เชี่ยวชาญที่ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดบอกว่า 

อินโดฯ และสิงคโปร์สั่งซื้อเรือดำน้ำฝูงใหม่ก็เพื่อทดแทนของเก่าส่วนหนึ่ง 

หากนับจากนี้ไป 10 ปี จำนวนเรือดำน้ำของอาเซียนทั้งหมดก็น่าจะไม่สูงกว่าที่มีอยู่ปัจจุบัน 

หากไม่นับของไทยที่เพิ่งตัดสินใจจะสั่งซื้อ 3 ลำจากจีน 

และหากได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีก็น่าจะส่งมอบลำแรกในอีก 5-6 ปีข้างหน้า


ที่น่าสนใจคือ สมรรถภาพการอยู่ใต้น้ำได้นานเพียงใด

และอาวุธที่ติดเรือดำน้ำก้าวหน้าขนาดไหน


เรือดำน้ำลำแรก ๆ ของสิงคโปร์มีระบบ Air-Independent Propulsion (AIP) 

ซึ่งทำให้อยู่ใต้น้ำได้นานกว่าลำที่ไม่มีระบบนี้

ข่าวบอกว่าที่ไทยจะซื้อจากจีนก็จะมีระบบ AIP ที่พัฒนาขึ้นไปอีก 

คืออยู่ใต้น้ำได้นานถึง 21 วัน ในขณะที่รุ่นอื่น ๆ อยู่ได้ไม่เกิน 14 วัน

แต่ที่เสริมสมรรถนะเรือดำน้ำคือ อาวุธที่ติดบนเรือ 

มาเลเซียมีเรือดำน้ำ Scorpene-class ติดตั้งขีปนาวุธทำลายเรือ (anti-ship missiles) 

แบบ SM-39 Exocet ที่ยิงจากใต้น้ำได้

เวียดนามกับอินโดนีเซียก็เดินตามด้วยการติดตั้งขีปนาวุธใต้น้ำเช่นกัน


แต่ยังไม่มีเรือดำน้ำในอาเซียน ที่มีความสามารถยิงขีปนาวุธจากใต้น้ำ 

เพื่อทำลายเป้าบนบกที่เรียกว่า submarine-launched cruise-missile (SLCM)

ซึ่งมีอำนาจการทำลายล้างสูง และหากประเทศไหนในแถบนี้ติดอาวุธเช่นนี้ 

ก็อาจจะนำไปสู่ความสงสัยคลางแคลงของเพื่อนบ้านที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้


มองในด้านบวก ประเทศอาเซียนที่กำลังเสริมกำลังด้านเรือดำน้ำ 

ก็อาจจะสร้างความแข็งแกร่งด้วยความร่วมมือระหว่างกัน 

เช่น อินโดฯกับสิงคโปร์ มีข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือและกู้ภัยเรือดำน้ำ 

และสิงคโปร์กับเวียดนามก็มีสัญญาทำนองเดียวกัน


ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา ประเทศในย่านนี้มีการฝึกร่วมเพื่อประสานงานของเรือดำน้ำ

ที่เรียกว่า Exercise Pacific Reach และ Asia-Pacific Submarine Conference (APSC) 

เพื่อสร้างความร่วมมือและป้องกันความเข้าใจผิด

อันอาจเกิดขึ้นจากปฏิบัติการใต้น้ำของประเทศต่าง ๆ


เมื่อไทยเราเตรียมจะฟื้นกองเรือดำน้ำที่ถูกปลดระวางไปเมื่อ 64 ปีก่อนอีกครั้งหนึ่ง 

จึงจำเป็นที่จะต้องให้คนไทยได้เข้าใจถึงที่มาที่ไปและภาวะแวดล้อมใต้น้ำรอบ ๆ 

บ้านให้รอบด้านเพื่อประกอบการแลกเปลี่ยนความเห็น 

บนพื้นฐานของข้อมูลอย่างกว้างขวางและต่อเนื่องด้วย/จบ

................................................................................................................................

หากได้พิจาราณาเรื่องนี้อย่างไม่มีอคติ

คงคิดว่า...ถึงเวลาที่กองทัพเรือบ้านเราจะต้องมีเรือดำน้ำกับเขาบ้างแล้ว

แต่สงสัยจังว่าทำไมเพิ่งคิดจะซื้อ น่าจะบริหารจัดการให้มีนานแล้ว

อีกทั้งในภาวะนี้กองทัพเรือควรเร่งประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ให้ประชาชนรับรู้

สื่อของทหารมีมากมายเชียว ทำไมไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์

และต้องเลือกคนให้ข่าวดีๆเก่งๆด้วยนะ

ต้องไม่เจ้าอารมณ์ หงุดหงิด ท้าตีท้าต่อย

มะเอาด้วยนะคะ

...................................................................................................................................






Create Date : 08 กรกฎาคม 2558
Last Update : 19 กันยายน 2558 6:44:53 น. 0 comments
Counter : 2788 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

justice0009
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




[Add justice0009's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com