British Grand Prix 2015 - Race Day
ผลการแข่งขันไม่ได้สะท้อนรูปเกมในวันนี้ ขณะที่ฝนตอนท้ายช่วยให้หลายคนฟื้นกลับมาสมใจ แต่ฝนก็ส่งความโชคร้ายให้ใครบางคนเช่นกัน
ผลการแข่งขันรายการบริติช กรังด์ปรีซ์
ผู้ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด (fastest lap): ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 1:37.093 - รอบที่ 29
*สภาพสนาม: แห้ง/เปียก สภาพอากาศ: มีเมฆเป็นบางส่วน อุณหภูมิ: 19 องศา อุณหภูมิพื้นสนาม: 32 องศา
ไฮไลท์
- เมอร์เซเดสล็อกกริดแถวหน้า แต่เริ่มต้นการแข่งขันกลับเป็นเฟลิเป้ มาสซ่า ออกตัวได้ดีกว่าขึ้นนำตั้งแต่โค้งแรก ขณะที่วาลท์เทรี่ บอตทาส พยายามตีคู่มากับลูอิส แฮมิลตัน แต่ต้องยอมปล่อยให้นักขับเมอร์เซเดสขึ้นไปก่อน ส่วนนิโค รอสเบิร์ก ตามบอตทาสมาติดๆ ในอันดับที่ 4 อย่างไรก็ตาม กลุ่มครึ่งล่างมีอุบัติเหตุตั้งแต่รอบแรก โรแมง โกรส์ฌอง เฉี่ยวชนกับแดเนียล ริกเคียร์โด้ ก่อนชิ่งไปกระแทกพาสเตอร์ มัลโดนาโด เพื่อนร่วมทีม รถโลตัสออกจากการแข่งขันทันทีทั้งสองคัน ถัดลงไป เฟอร์นันโด อลอนโซ่ หลบอุบัติเหตุแต่กลับไปกระแทกเจนสัน บัตตัน เพื่อนร่วมทีมแม็คลาเรนลงบ่อกรวดออกจากการแข่งขันไปอีกคัน โดยที่อลอนโซ่จำเป็นต้องเข้าพิตเพื่อเปลี่ยนจมูกรถใหม่ นั่นทำให้เซฟตี้คาร์ต้องออกมานำการแข่งขันชั่วขณะ
- เมื่อเซฟตี้คาร์กลับเข้าพิตเลนไปแล้ว แม็กซ์ เวอร์สตัปเพ่น กลับหล่นลงบ่อกรวดไปอีกเพราะยางยังไม่ร้อนดี ส่วนแฮมิลตันไล่ติดหลังมาสซ่าทันทีหวังแซงขึ้นหน้า แต่เขาพลาดเปิดช่องในโค้ง ทำให้บอตทาสแซงเขาขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ได้ ซึ่งต่อมานักขับฟินน์ไล่จี้ติดมาสซ่า แต่ทีมงานวิลเลียมส์ ว.บอกทั้งสองคนไม่ให้แซงกัน ก่อนที่จะเปลี่ยนใจเปิดโอกาสให้บอตทาสแซงมาสซ่าได้ถ้ามีจังหวะ แต่เขาก็ทำไม่ได้กระทั่งถึงช่วงเข้าพิตครั้งแรก งานในพิตของแฮมิลตันทำได้ดีกว่า เมื่อมาสซ่าที่เบียดออกจากพิตพร้อมกับรอสเบิร์กในรอบหลังจากนั้นมาได้ช้ากว่า แฮมิลตันจึงได้ขึ้นนำการแข่งขัน ซ้ำเมื่อบอตทาสเข้าพิตอีกรอบถัดมาก็ได้ออกมาคั่นระหว่างมาสซ่ากับรอสเบิร์ก
- เรื่องดูเหมือนว่าจะลงเอยเช่นนั้น ถ้าฝนไม่เริ่มลงเม็ดบางๆ ตั้งแต่รอบที่ 36 และค่อยๆ หนักขึ้นจนทำให้การแข่งขันมีสีสันขึ้นทันตาเห็น ช่วงแรกที่ฝนลงรถหลายคันยังพยายามอยู่บนแทร็คเพราะฝนตกไม่ทั่วฟ้า แต่เมื่อฝนเริ่มหนาเม็ด แฮมิลตันเข้าพิตไปเปลี่ยนเป็นยางอินเตอร์มีเดียตในจังหวะที่ดีเยี่ยม เขายังได้กลับมานำเมื่อคันอื่นๆ ทยอยเปลี่ยนตามหลังเขา รวมถึงรอสเบิร์ก
- ฝนช่วยเมอร์เซเดสแต่ทำร้ายวิลเลียมส์โดยสิ้นเชิง เพราะตั้งแต่ฝนเริ่มโปรย รถวิลเลียมส์ทั้งสองคันวิ่งช้าลงไปทันตาเห็น เป็นโอกาสให้รอสเบิร์กขึ้นมาอันดับที่ 2 ส่วนอีกคนที่ตัดสินใจเข้าพิตในเวลาที่ถูกต้องคือเซบาสเตียน เวทเทล ซึ่งช่วงแรกที่แทร็คแห้ง เขาวิ่งไม่เร็วนักและไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ลุ้นโพเดียมได้เลย แต่ช่วงเวลาที่เข้าพิตไปเปลี่ยนเป็นยางอินเตอร์มีเดียตนั้นพอดีที่ทำให้เขาได้อยู่หน้ารถวิลเลียมส์ คว้าโพเดียมอันดับที่ 3 ไปได้สำเร็จ
- น่าเสียดายที่คิมี่ ไรค์โคเน่น ซึ่งวิ่งนำหน้าเวทเทลมาเกือบตลอดเรซตัดสินใจเข้าพิตไปเปลี่ยนเป็นยางอินเตอร์มีเดียตเร็วกว่าคันอื่นๆ ราว 4 รอบ โดยเป็นช่วงที่ฝนตกๆ หยุดๆ และไม่มีรถในกลุ่มนำตามเข้ามาเลย ทำให้เขาตกลงไปถึงอันดับที่ 8 และฝนยังเบาเม็ด ยางจึงทำงานไม่ได้ เวลาต่อรอบของเขาตามหลังผู้นำถึง 5 วินาที แต่เมื่อฝนลงหนักอีกครั้งยางของเขาก็ไม่มีประสิทธิภาพแล้ว จำเป็นต้องเข้าพิตเปลี่ยนยางอินเตอร์มีเดียตอีกชุด โชคดีที่ยังรักษาอันดับไว้ได้
- เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ได้แต้มแรกในฤดูกาลนี้แล้วอันเป็นผลจากการที่มีรถไม่จบการแข่งขันหลายคัน แต่เขาก็ได้เครดิตจากการควบคุมรถได้ดีและเป็นหนึ่งในไม่กี่คันที่เข้าพิตเปลี่ยนยางตั้งแต่ฝนเริ่มลงเม็ดครั้งแรก
- นอกจากเวอร์สตัปเพ่นจะออกจากการแข่งขันตั้งแต่ช่วงแรกแล้ว โตโร รอสโซ ก็ไม่เหลือใครเลยแม้จะทำได้ดีมาตลอดสัปดาห์ คาร์ลอส ซายนซ์ จูเนียร์ ต้องออกจอดข้างแทร็คที่โค้งสุดท้ายขณะวิ่งในอันดับที่ 9 จากปัญหาของพวงมาลัย
- เร้ดบูลก็เหลือรถเข้าเส้นชัยคันเดียวด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมของดาเนียล คัฟยาต ในอันดับที่ 6 แต่ริกเคียร์โด้ต้องออกจากการแข่งขันหลังแข่งขันได้ครึ่งทางเพราะปัญหาจากระบบไฟฟ้า
- เซาเบอร์มีรถลงแข่งขันเพียงคันเดียวเนื่องจากรถของเฟลิเป้ นาสเซอร์ มีปัญหาทางเทคนิคขณะนำรถเข้ามาตั้งบนกริดสตาร์ท ซึ่งทีมงานไม่สามารถแก้ไขให้ทันเวลาได้
สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 9
ประเภทนักขับ 1. ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 194 คะแนน 2. นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 177 คะแนน 3. เซบาสเตียน เวทเทล (เฟอร์รารี่) 135 คะแนน 4. วาลท์เทรี่ บอตทาส (วิลเลียมส์) 77 คะแนน 5. คิมี่ ไรค์โคเน่น (เฟอร์รารี่) 76 คะแนน - อันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด คลิกที่นี่
ประเภททีมผู้สร้าง 1. เมอร์เซเดส 371 คะแนน 2. เฟอร์รารี่ 211 คะแนน 3. วิลเลียมส์ 151 คะแนน 4. เร้ดบูล 63 คะแนน 5. ฟอร์ซอินเดีย 39 คะแนน - อันดับคะแนนสะสมประเภททีมผู้สร้างทั้งหมด คลิกที่นี่
ไม่มีอะไรหยุดความสำเร็จของเมอร์เซเดสได้เลยในนาทีนี้ เพราะถึงแม้มีอุปสรรคมาคั่นขวาง แต่พวกเขาก็แก้ไขสถานการณ์กลับมาได้ในที่สุด เราจะพักกัน 3 สัปดาห์ก่อนกลับมาลุ้นกันอีกครั้งเป็นสนามสุดท้ายก่อนพักครึ่งฤดูกาลในรายการฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์ วันที่ 24-26 กรกฎาคมนะคะ
*ข้อมูลจาก autosport.com และ formula1.com ภาพจาก twitter.com/f1
Create Date : 05 กรกฎาคม 2558 |
Last Update : 6 กรกฎาคม 2558 0:34:25 น. |
|
7 comments
|
Counter : 1826 Pageviews. |
|
|
|
ทำให้การเข้า pit ทำได้ยาก ถ้าตกหนัก และทั่วสนาม
รอบท้ายๆ ดูสนุกแน่ )