ฟังฝนปรอยปราย คลุ้งสายหมอก ชมดอกกระเจียว ณ อุทยานแห่งชาติไทรทอง (วันที่ 2)

กราบสวัสดี พ่อ แม่ พี่ น้อง.... พร้อมขออภัยแด่ผู้ที่เคยเข้ามาอ่านบล็อกการเดินทางไปอุทยานแห่งชาติไทรทอง โดยไม่ใช่รถส่วนตัว ที่แก่นฝันได้มาเขียนไว้นานมากกกก จากนั้นก็โดนดองเค็มไป 1 ปีเต็มๆ

และเนื่องจากที่มีเพื่อนๆ ที่จะไปเที่ยว ได้ส่งข้อความมาสอบถามเรื่องการเดินทางเข้ามาหลายท่าน... วันนี้เลยมารื้อบล็อก เขียนต่อให้จบค่ะ

ความเดิมจาก บล็อกที่แล้วค่ะ

จากบล็อกนั้นที่นอนเอาแรงในเต้นท์เรียบร้อย (นอนข้ามปีกันเลย แหะๆๆ) เราก็ไปเดินเล่นชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกกันดีกว่าค่ะ
เวลาหกโมงเย็นเห็นแสงที่ริมๆ ขอบฟ้าเริ่มมีสีส้มจางๆ ก็หยิบกล้องไปที่ผาพ่อเมือง (เสียดายเมฆเยอะจนไม่เจอดวงตะวันเลยค่ะ)

จุดชมวิวผาพ่อเมือง

ผาหำหด อช. ไทรทอง
นั่งเล่นชมแสงสุดท้ายของคุณพระอาทิตย์และวิวเวิ้งว้าง...
จุดชมวิว ผาหำหด อช. ไทรทอง

ถ่ายไปถ่ายมา พอแสงใกล้จะหมดก็เดินกลับ มองนาฬิกาก็แอบตกใจเล็กๆ นี่ทุ่มแล้วเหรอเนี่ย... มิน่า... หิวๆ ตะงิดๆ แล้ว ตบท้ายวันนี้ด้วย มาม่าร้อนๆ แล้วก็เข้านอนหลับฝันดี ในเต้นท์อากาศเย็นๆ กำลังดี เพราะมีฝนตกพร่ำๆ ตอนกลางคืนค่ะ


----- ----- ----- ----- 


หลังจากนอนฟังเสียงฝนปรอยๆ สลับหนักนิดหน่อยเมื่อคืน เช้ามาก็มีคุณหมอกมาเยือนถึงหน้าเต็นท์เลย


ขอบคุณเต็นท์อุทยานที่ทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อคืนเรารูดซิปเปิดช่องหน้าต่างแง้มไว้นิดๆ ฝนไม่สาด ไม่มีน้ำรั่วซึมค่ะ


นอนกลิ้งๆ สักพัก สักหกโมงครึ่งแสงก็เริ่มมามากขึ้น เราก็เริ่มเดินทางไปยังทุ่ง เพื่อไปเก็บภาพเจ้ากระเจียวกลางสายหมอกตามที่หมายตาไว้ตั้งแต่เมื่อวานค่ะ

ชมธรรมชาติข้างทาง ท่ามกลางฝนที่ปรอยเบาๆ สลับหยุด ณ ช่วงเวลานี้ ขอสูดหายใจเข้าลึกๆ กักตุนอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดอย่างเต็มที่เลยค่ะ



ระหว่างทางไม่เจอใครเลย สงสัยจะยังหลับสบายกัน ^^ แล้วอีกอย่างนักท่องเที่ยว ที่ค้างด้านล่างอุทยานก็ยังไม่ได้ขึ้นมากันค่ะ



แต่พอถึงทุ่ง 2 ก็พบว่ามีคนหนึ่งไปถึงก่อนเราแล้วค่ะ
ตอนแรกเค้าก็ให้เราช่วยถ่ายรูปเค้ากับทุ่ง 
แต่เค้าพอยื่นมือมารับกล้องคืนเท่านั้นแหละ...
เลือดค่ะ!! พอดีเค้าสะดุดหินเลยล้มไปเจอตะปูตำเข้าให้ อึ๊ยยยย
โชคดีเรามีทิชชูติดมาก็เลยให้เค้าเช็ดแผลและกดแผลระหว่างเดินกลับที่พักไป
มองดูตะปูที่เค้าโดน ดำสนิทสยองขวัญมากค่ะ



เลยอยากขอเตือนใจเพื่อนๆ ไว้สักนิดนะคะ ว่าต้องระวังให้ดี 
แนวรั้วไม้ของที่นี่ค่อนข้างผุในบางจุดค่ะ


เตือนภัยเสร็จแล้วก็มาต่อกันที่รูปกระเจียวในสายหมอกเลยค่ะ

ทุ่งดอกกระเจียว ไทรทอง







ฝนเมื่อคืนทำดอกกระเจียวช้ำและล้มไปพอสมควร คิดในใจว่าตัวเองโชคดีมากๆ เลยที่มาได้เหมาะเจาะเพราะฝนที่ตกไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อนทำให้กระเจียวเริ่มบานแล้วก็หยุดเว้นช่วงไปจนถึงเมื่อคืนที่มาตกอีกครั้ง
เมื่อวานเราเลยได้ชื่นชมยามที่กระเจียวบานเยอะและยังไม่ช้ำค่ะ





ฝนหยุดให้ชื่นชมถ่ายรูปอยู่ไม่ทันไร เจ้าฝนก็ตกลงมาใหม่อีกรอบ จากที่กะว่าจะรอถ่ายตอนสายอีกนิด ให้หมอกคล้อยต่ำๆ แสงจัดขึ้นอีกหน่อย กลายเป็นต้องรีบเก็บกล้องเข้ากระเป๋า แล้วเดินกลับที่พักกันค่ะ
(อยู่บนนี้ไม่ค่อยมีที่หลบพัก ควรพกร่มหรือเสื้อกันฝนมาด้วยนะคะ)

พอสายหน่อย ก็ได้เวลาบอกลาที่พักสุดหรูของเราแล้วค่ะ
----- ------ ------ ------

เราลงจากบนจุดกางเต็นท์ผาพ่อเมืองโดนอาศัยติดรถครอบครัวหนึ่ง

(ขอกราบขอบพระคุณอีกครั้ง ณ ที่นี้)

มาลงที่ป้อมยามท่าโป่ง ปากทางเข้าอุทยานค่ะ 

นั่งรอที่ศาลาตรงนี้เพื่อรอรถบัสที่จะผ่านไปเข้าตัวเมืองชัยภูมิ

ซึ่งมีทั้งรถนครสวรรค์-ขอนแก่น ของ บ. ถาวรฟาร์ม และรถภักดีชุมพล-ชัยภูมิค่ะ
รถจะผ่านมาช่วงประมาณสิบโมงครึ่งคันหนึ่ง และอีกทีช่วงเที่ยงๆ ค่ะ

เราก็นั่งคุยกับลุงวินมอไซค์ 
(ได้ข้อมูลเพิ่มมาว่าจากป้อมตรงนี้จ้างมอไซค์ไปอุทยานเสีย 80 บาทค่ะ)

รอจนเกือบจะได้ขึ้นรถสิบโมงครึ่งแล้วเชียว 

ก็มีผู้หวังดีมาบอกว่ามีรถตู้เข้ากรุงเทพฯ แค่เดินไปทางซ้าย... เลยโค้งไปไม่ไกล

เราก็เลยตัดสินใจเดินไปค่ะ 


ไปถึงจะมีร้านขายของคล้ายๆ ซุปเปอร์ไม่เล็กไม่ใหญ่ 

ที่เห็นเสาน้ำตาลแดงในรูปอ่ะค่ะ



ผลปรากฏมีรถจริงๆ ค่ะ แต่รถออกไปแล้วเมื่อ 9 โมงเช้า 

และจะออกอีกทีก็เที่ยวพิเศษตอน 5โมงเย็น 

(สามารถลองโทรสอบถามและจองรถได้ที่เบอร์ 084-475-1770 นะคะ)

และตอนที่กำลังถามตอบกันอยู่นี่เอง...

รถบัสที่เรานั่งรอคอยจะไปชัยภูมิก็ผ่านเราไป แงะ!!

เราก็เลยมองหน้ากันกับเพื่อนร่วมทาง "เอาไงดี?"

คำตอบที่ได้คือ "กินไก่ก่อนค่อยว่ากัน"

ผลก็คือได้แวะทานข้าวเกือบเที่ยงที่ร้าน บัวสวรรค์ไก่ย่าง 

(ตามป้ายถึงแล้วที่รูปด้านบนอ่ะค่ะ)

ตอนเดินผ่านก็เล็งๆ ไก่ในเตาไว้แล้วล่ะค่ะ

อาหารอร่อยเลยค่ะ ชอบๆ แม่ค้าก็ใจดี 

สั่งไก่ย่างแต่อยากกินกะน้ำจิ้มแจ่ว ป้าก็ทำน้ำจิ้มเพิ่มมาให้


จากนั้นก็เดินกลับไปรอรถ ณ ป้อมยามจุดเดิม
แต่โชคดีที่รอไม่ถึงเที่ยง รถนครสวรรค์-ขอนแก่นก็มาพอดี

สภาพในรถเป็นปลากระป๋องตั้งแต่เรายังไม่ขึ้นเลยค่ะ 

เราขึ้นไปอีกก็แน่นดีจริงๆ ตีตั๋ว 60 บาท แล้วก็ยืนกันไปค่ะ 

ปลากระป๋องหวานเย็นใช้เวลาสักชั่วโมงครึ่งได้ค่ะ 

กว่าจะพาเรามาถึงตัวเมืองชัยภูมิ

((แทรกข้อมูลอีกนิด ว่ารถสายที่เราขึ้นนี้จะแวะท่ารถหนองบัวระเหวที่เรามาวันแรกด้วยค่ะ และจะมีรถจากหนองบัวระเหว กลับกทม. ตอนประมาณบ่ายโมงใครสนใจอาจไปทางนี้ได้อีกทาง ลองโทรถามได้ที่ บ. ชัยภูมิทัวร์ 02-936-1977 ซึ่งอาจจะเร็วกว่าย้อนไปชัยภูมิหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจค่ะ แหะๆ))


กลับมาที่ สถานีขนส่งชัยภูมิ...

พวกเราไม่ได้จองรถเอาไว้รถเที่ยวเวลาใกล้ๆ เลยเต็มหมดเลยค่ะ

เพราะตอนแรกว่าจะหาทางไปเที่ยวป่าหินงาม แล้วกลับจากเทพสถิต

แต่ด้วยที่เค้าว่าไม่มีรถผ่าน นอกจากเหมาหรือโบกรถจากไทรทองไปเทพฯ 

และฝนฟ้าที่ดูท่าจะตก เราเลยยกเลิกแผนไม่ได้ไปทางนั้นค่ะ

ถามรถบขส. ป2 ก็จะออกตอน 5 โมงเย็น 

(คิดสภาพความเป็น ป.2 ที่คงหวานเย็น บวกกับออกช้า 

เราคงถึงกรุงเทพฯ เวลาเที่ยงคืน ตีหนึ่งแน่ๆ) 

เราเลยขอเก็บเป็นตัวเลือกไว้ก่อน


และพอดีก็มีสามล้อหน้าม้ารถตู้มาชวนไปขึ้นรถตู้กลับกรุงเทพในราคา 350บาท

เราก็เลยขอเลือกทางนี้ดีกว่า 

สามล้อพาเรามาส่งที่รถตู้ซึ่งจอดอยู่ในวัดชัยประสิทธิ์

เป็นสายเฉพาะกิจที่เค้าเอารถมาจอดรอเก็บตกคนในช่วงวันหยุดยาว

ถ้าใครมาหน้าเทศกาล แล้วรถทัวร์หมดและมีสามล้อเข้ามาถามว่าไปรถตู้มั๊ย
ให้ถามไปนะคะ ว่ารถจอดไหน ถ้าเค้าบอกในวัดล่ะก็
ลองเดินออกมาจากขนส่ง ไปถึงถนน มองไปฝั่งตรงข้ามจะเจอวัด
ให้ลองเดินไปดูค่ะ เพราะตัวเองเจอสามล้อพามาส่งจะคิดคนละ 20 แหนะ
แต่พอพวกเราเห็นว่าใกล้นิดเดียว เลยต่อเหลือ 2 คน 20 ค่ะ 

(พวกนี้เค้าก็ได้ค่านายหน้าจากรถตู้มาแล้ว ยังจะเก็บเราอีกแหนะ?)


เวลา 14:00 น. เดินทางกลับโดยรถตู้สายเฉพาะกิจ 

มีแวะพักซื้อของนิดหน่อยที่สีคิ้ว 

หย่อนคนลงรังสิตขากลับเนี่ยขาเข้ากรุงเทพรถเยอะพอสมควรเลย 

สุดท้ายแล้วก็มาถึงหมอชิตสักสามทุ่มครึ่ง
เรียกแท็กซี่ต่อและกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ 

พร้อมความสุขปนระทึกเต็มกระเป๋าค่ะ

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมกันนะคะ


ทุ่งดอกกระเจียว ไทรทอง


เข้าไปชมภาพดอกกระเจียวสวยๆ เพิ่มเติมที่ลิงค์ด้านล่างค่ะ



ปล. ขากลับที่ขนส่งชัยภูมิ เห็นมีแจกใบปลิวโฆษณา บ. ซันบัส เปิดใหม่ 
มีรถใหม่ๆ สายกรุงเทพ-ชัยภูมิ ด้วยค่ะ ลองหาดูนะคะ น่านั่งทีเดียว...

ปล 2. เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดเมื่อเดือนกรกฎาคน 2556 

ข้อมูลบางอย่างอาจเปลี่ยนแปลงคลาดเคลื่อนไป ต้องขออภัยด้วยนะคะ




Create Date : 23 กรกฎาคม 2557
Last Update : 23 กรกฎาคม 2557 23:28:54 น. 1 comments
Counter : 2047 Pageviews.

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 24 กรกฎาคม 2557 เวลา:3:07:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แก่นฝัน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ รักการกินและทำอาหาร
รักการท่องเที่ยว รักการถ่ายภาพ
รักการวาดเขียน รักเสียงดนตรี
รักการอ่าน รักการเขียน
และ รัก... ที่จะ 'ฝัน'


ขอเตือนนะคะ
งานเขียนทุกชิ้น และภาพทุกภาพในบล็อกนี้
เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล็อกแต่เพียงผู้เดียว
ขอสงวนสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
ห้ามมิให้ผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ดัดแปลง แก้ไข
หรือเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใด
โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
มิฉะนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมายสูงสุด
โดยไม่มีการประนีประนอมยอมความแต่ประการใดนะคะ
New Comments
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
23 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แก่นฝัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.