ของเอิง(คุณแฟนคิดว่าจะ)ใช้แค่ใบรับรองโสดและสูติบัตรค่ะ

ตัวสูติบัตรยังมีตัวจริงอยู่ แม่เก็บไว้อย่างดีเลย ก็โอเค ไม่ต้องไปคัดใหม่

ที่นี่ใบรับรองโสด ต้องไปขอที่สำนักเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านค่ะ

ของเอิงจึงเป็นเขตจตุจักร 

ก็ได้ทำการโทรไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่เขตก่อนว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรในการไปขอ

จนท.แจ้งเรื่องเอกสารดังนี้ค่ะ

- ทะเบียนบ้าน พร้อมสำเนา 1 ชุด

- บัตรประชาชน พร้อมสำเนา 1 ชุด

- พยาน 2 คน พร้อมสำเนาบัตรประชาชน

เมื่อต้องนำพยานมาด้วย 2 คน ก็เลยรอให้เพื่อนๆ หยุดงานในวันธรรมดาได้ก่อน 

เมื่อพร้อมแล้วจึงมาขอค่ะ แล้วก็นำเอกสารการหย่า(ถ้ามี) มาด้วยนะคะ

เลยได้ไปขอใบรับรองโสดเมื่อวันที่ 16 มค. 58 ค่ะ

ตอนขอก็ไม่ยุ่งยากอะไร เตรียมใบหย่ามาพร้อมสำเนาเรียบร้อย

คุณจนท. ก็พิมพ์ก๊อกๆ แก๊กๆ ไป แล้วก็ให้เราถือใบเอาไปตรวจกับอีกแผนก เพื่อยืนยันว่าเราไม่ได้จดทะเบียนกับใคร

ประมาณ 1 ชม. ก็ได้เอกสารมาเรียบร้อยค่ะ

ซึ่งเนื้อหาของใบรับรองโสดก็ประมาณว่า

นส....  เลขประจำตัวประชาชน xxx อยู่บ้านเลขที่....

ได้มาขอใบรับรอง เพื่อ....... (ซึ่งตรงนี้น่าจะต่างกันไปตามแต่ละเขต

เพราะบางเขตก็ไม่เห็นต้องระบุค่ะ)

ของเอิงเลยเหตุผลคือเพื่อขอวีซ่าค่ะ

ทางเขตตรวจสอบแล้วว่า นส.... เคยจดทะเบียนสมรสและจดทะเบียนหย่าแล้ว

ตามเลขที่ xxxx ณเขต....... และหลังจากนั้นไม่ได้จดทะเบียนกับใครอีก

ประมาณนี้ค่ะ

เมื่อได้เอกสารทั้ง 2 เรียบร้อยแล้ว

ก็นำไปแปลค่ะ ซึ่งหากสะดวกก็แปลเองก็ได้

มีฟอร์มอยู่ในเวปของกรมการกงศุลเลยค่ะ

//www.consular.go.th/main/th/form/1421

19 มค. 58

นำเอกสารไปแปล

เอิงให้ตรงบ้านทรงไทยตรงข้ามกงศุลแปลให้ค่ะ

ใบละ 300 บาท รอรับได้เลย แต่แปลผิดๆ นิดหน่อยนะ

คือประมาณ ctrl+v ค่ะ เลยต้องกลับไปแก้ด้วย เหอๆ

แต่ทางร้านมีใบคำร้องขอรับรองไว้ให้เราด้วยเลย

ก็กรอกไปตั้งแต่ตรงนี้ได้ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาค่ะ

หากไม่สะดวกไปยื่นเอก ก็มอบฉันทะให้เค้าได้ เค้าคิดค่าบริการ 300 บาทค่ะ

ขั้นตอนในการรับรองเอกสาร

เมื่อเอกสารพร้อมแล้ว ก็ไปที่กรมการกงศุล ถนนแจ้งวัฒนะเลยค่ะ

เดินเข้าอาคารไป เจอพี่รปภ. ก็บอกเค้ามารับรองเอกสาร

เค้าก็จะชี้ให้ไปที่ชั้น 3 ค่ะ หากใครต้องการถ่ายเอกสารก็มีบริการที่ชั้น 2 นะคะ 

อาจจะคิวยาวหน่อย แต่ก็ต้องทำใจค่ะ คนเยอะมาก

เจอชั้น 3 แล้วก็พุ่งตัวเข้าไปต่อคิวเลยค่ะ 

เจ้าหน้าที่ก็จะจัดเอกสารเราไว้เป็นชุดๆ แล้วก็กดบัตรคิวให้ค่ะ

โดยเค้าจะถามว่าเราจะเอาแบบปกติ (3 วันทำการ) หรือแบบด่วน (ได้ภายในวันนั้น แต่ต้องมาก่อนเที่ยงนะคะ) ซึ่งต้องจ่ายเงิน 2 เท่าค่ะ

แปลและรับรองเอกสาร

เมื่อได้บัตรคิวก็นั่งรอไปค่ะ คนเยอะมาก นั่งไป ดูชาวบ้านไป นั่งตรวจเอกสารตัวเองไป

เลยเจอแจ๊กพ็อตเลยว่าแปลผิด -*- 

ก็เลยวิ่งข้ามถนนกลับไปที่ร้านแปล นั่งรอเค้าพิมพ์ให้ใหม่ เหอๆ

แล้วก็วิ่งข้ามถนนกลับมานั่งรอคิว ปรากฎว่าคิวยังไม่ได้เรียกเลยค่ะ - -'

พอโดนเรียกคิวก็เอาเอกสารไปยื่น และจ่ายเงินค่ะ แล้วก็กลับมานั่งรอ

ซักพัก เค้าก็จะเรียกชื่อเราไปรับใบเสร็จและเงินทอนค่ะ

จบ... กลับบ้านได้

ในใบเสร็จจะมีวันและเวลาที่ให้มารับเอกสารได้อยู่ค่ะ

ก็มารับไปตามวันเวลานั้นได้เลย

ค่าใช้จ่าย

ค่าแปลเอกสาร ใบละ 300 บาท

ค่ารับรองเอกสาร ใบละ 200 บาท

แต่เค้าจะรับรอง 2 ใบค่ะ คือ 'ใบต้นฉบับภาษาไทย' และ 'ใบแปลภาษาอังกฤษ'

ดังนั้นค่ารับรองจึงเป็น ชุดละ 400 บาทค่ะ 

ของเอิงแปลไป 2 ใบ รวมทั้งหมด 1,400 บาทค่ะ

รับเอกสารคืน

21 ม.ค. 58

เอิงยื่นไปวันจันทร์ วันพุธก็ได้รับเอกสารคืนค่ะ

ก็นำใบรับไปยื่นที่เคาน์เตอร์ ได้บัตรคิว รอเรียกคิว

ได้เอกสาร ก็ตรวจเช็คให้เรียบร้อย แล้วก็กลับบ้านได้ค่ะ

รับเอกสาร

อ่อ ร้านแปลในกรมการกงศุลค่ะ ดูน่าเชื่อถือนะ ไม่ต้องเดินไกลด้วย

ลองติดต่อทางเมล premjit.dong@gmail.com ได้ค่ะ

นำเอกสารไปรับรองที่สถานฑูตเนเธอร์แลนด์

22 ม.ค. 58

เอิงโทรไปสอบถามก่อนค่ะ ว่ารับยื่นเวลาไหนบ้าง

จนท.แจ้งว่ายื่นได้ทุกวันก่อน 11.30 ค่ะ

ก็เลยไปประมาณ 10 โมงของวันพฤหัสค่ะ

อันนี้ไม่ต้องนัดล่วงหน้านะคะ จนท.แจ้งว่าเข้าไปได้เลย

เดินเข้าซอยสถานฑูตเนเธอร์แลนด์ตรงชิดลมค่ะ

ไปถึงก็แจ้ง รปภ. ว่ามารับรองเอกสาร

เค้าก็จะถามว่า เตรียมเงินมาหรือยังคะ 555

เพราะแถวนั้นไม่มี atm เลยค่ะ

เสร็จแล้วคุณรปภ.ด้านในก็จะกดบัตรคิวให้เราค่ะ

ก็รอคิวแล้วก็เข้าไปยื่นเอกสาร จ่ายเงิน

รับรองเอกสารที่สถานฑูต