กรกฏาคม 2558

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
29
30
31
 
 
เมื่อต้องส่งลูกเข้าโรงเรียนเตรียมอนุบาล
แน่นอนสำหรับหัวอกพ่อแม่แล้วการส่งลูกเข้ารร.ครั้งแรก ย่อมวิตกกังวลใจอย่างมากโดยเฉพาะเมื่อตัดสินใจให้ลูกเรียนเตรียมอนุบาล เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าจะเล็กไปสำหรับการเข้ารร.หรือยัง และเรื่องเจ็บป่วยอีก จะว่าไปปวดหัวตั้งแต่เลือกรร.ให้ลูกอีกด้วย

บ้านนี้ตัดสินใจไม่ยากที่จะส่งลิงผู้พี่เข้าเรียนเตรียมอนุบาล เนื่องจากหม่ามี้ต้องเลี้ยงน้องอีกคนทำให้ดูแล2คนไม่ไหว และอีกอย่างก็คุยกับป่ะป๋าแล้วว่าดีกว่าให้อยู่บ้าน เพราะหม่ามี้อาจพัฒนาเค้าได้ไม่เต็มที่คงได้แต่ปล่อยให้เล่นเรื่อยเปื่อยบ้านนี้ไม่ค่อยจะตื่นเต้นกับการที่ลูกจะได้ไปรร.เท่าไหร่แค่มีโทรศัพท์จากรร.โทรมาเพื่อนัดวัน ทดสอบเด็กที่จะเข้าเรียนและจ่ายค่าเทอม หม่ามี้รีบพาเจ้าลิงผู้พี่ไปทดสอบเป็นคนแรกและจ่ายค่าเทอมเป็นคนแรกของรร.เท่านั้นเอง (กลัวรร.เค้าจะไม่รับ555)


ตอนนั้นลิงพี่เพิ่งจะ 2 ขวบกับอีก 1 หรือ 2 เดือนเอง ยังไม่รู้ภาษีภาษาอะไรกะเค้าเล้ย แต่รู้ไหมการพัฒนาของเด็กที่เริ่มเข้า 2 ขวบในแต่ละเดือนเค้าพัฒนาเร็วมาก มิน่าเค้าถึงบอกว่าสมองเด็กช่วง 3 ปีแรกสอนอะไรจะจำดีมาก จะสอนภาษากี่ภาษาก็ได้


ตอนแรกหม่ามี้กังวลอย่างมาก กลัวลูกจะเข้าสังคมไม่เป็น กลัวจะโดนเค้าแกล้ง กลัวจะไปแกล้งเค้า กลัวสารพัด แต่พอใกล้เปิดเทอมเข้ามาลูกก็แสดงให้เห็นความพร้อมที่จะไปรร.เช่น ไม่ต้องใส่แพมเพิสก็ได้ เริ่มจะทานข้าวได้เอง


วันแรกของการเรียน ลิงน้อยยังไม่รู้ตัวเข้าใจว่าพามาเที่ยวคุณตาคุณยายก็มาส่งเพื่อให้กำลังใจเลยยิ่งคึกคักใหญ่ สนุกสนาน

image

วันแรกของการไปรร.คุณยายมาส่งด้วย ลิงเดินแบบไม่รู้ว่าไปไหนนึกว่าพามาเที่ยว

คุณยายดูจะเป็นห่วงอย่างมาก ก็หลานชายสุดที่รักเค้าหล่ะ

คุณยายดูจะเป็นห่วงอย่างมาก ก็หลานชายสุดที่รักเค้าหล่ะ

แต่พอวันที่ 2 เป็นต้นมาร้องไห้ เกาะแข่งเกาะขาไม่ยอมปล่อย เป็นอย่างนี้อยู่เป็นเดือนถึงจะหาย (ตอนแรกคิดว่าจะเป็นปี) ช่วงแรกที่ลูกร้องไอ้เราหัวอกแม่อยากจะร้องตาม เค้าร้องเหมือนว่าเราเอาเค้ามาทิ้ง (สายตาลูกมันฟ้อง) คุณครูต้องปลอบกันอยู่นานกว่าจะหยุดในช่วงแรก แต่แรกๆเราก็แอบดูพฤติกรรมลูกเห็นเค้าทานข้าวได้เองก็เริ่มสบายใจไปเปราะแรก เพราะเห็นเค้ากินอย่างเอร็ดอร่อยยกชามขึ้นมาซดน้ำกันเลยที่เดียว

วันที่ 2 คราวนี้เอาลิงมาด้วยเลย เหมือนว่าจะยังไม่รู้ตัวอีกว่าไปไหน

วันที่ 2 คราวนี้เอาลิงมาด้วยเลย เหมือนว่าจะยังไม่รู้ตัวอีกว่าไปไหน

พอไปถึงห้องก็ร้องไห้ น่าสงสารมาก

พอไปถึงห้องก็ร้องไห้ น่าสงสารมาก

ทุกเช้าเวลาตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว ทุกคนในบ้านจะพูดถึงรร.เป็นไม่ได้เลย ไม่งั้นเจ้าลิงก็จะงอแงไม่แปรงฟันไม่แต่งตัวสารพัดไม่ พอจะขึ้นรถก็ถามทุกครั้งว่าจะไปไหนเราก็ต้องคอยหลอกลูกเลยว่าไปเที่ยว หลังๆรู้สึกไม่ดีที่ต้องหลอกเค้าเลยเปลี่ยนตอบไปว่าไปเนอร์สเซอร์รี่  ไปschool ไปที่ที่มีของเล่นเด็กเยอะๆ บลาๆๆ พูดไปเรื่อยให้ใกล้เคียงกับรร.เข้าไว้

กิจกรรมก็ไม่ร่วม นั่งหงอย หน้าเศร้า

กิจกรรมก็ไม่ร่วม นั่งหงอย หน้าเศร้า

ช่วงแรกๆต้องขอบคุณคุณครูประจำชั้นจริงๆที่เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่อย่างดี ระหว่างวันครูจะส่งภาพกิจกรรมที่เด็กๆทำระหว่างวันมาให้ทางไลน์ ทำให้เราเห็นลูกเข้าสังคมได้ปรับตัวได้เลยลดความกังวลลงไปเยอะมากๆ นอกจากขอบคุณครูแล้วคงต้องขอบคุณเทคโนโลยีด้วยสิ

ภาพจากไลน์คุณครู ทำให้เห็นว่าเริ่มปรับตัวแล้ว แหมนอนอ้าปากหวอเหมือนแม่เลยเว้ยเฮ้ย

ภาพจากไลน์คุณครู ทำให้เห็นว่าเริ่มปรับตัวแล้ว แหมนอนอ้าปากหวอเหมือนแม่เลยเว้ยเฮ้ย

เมื่อแม่ลดความวังกล  ที่นี้พอไปส่งลูกถึงเค้าจะเกาะขาร้องไห้งอแงไม่ยอมปล่อย เราก็ให้ครูรีบมาอุ้มไปและรีบเดินออกมาอย่างโดยเร็ว พอแอบดูเค้าก็หยุดร้องและเปลี่ยนเป็นคนละคน ถึงทำให้รู้ว่าเค้าจะงองแงกับเราตอนเราอยู่เท่านั้นแหล่ะ เหมือนจะลองทดสอบแม่เล็กๆว่าจะใจอ่อนไหม


วันที่แม่หมดความกังวลก็คือวันที่ลูกมีการแสดงบนเวที ก่อนปิดซัมเมอร์ (เรียนเดือนแรกเพื่อปรับตัว) คือเราคิดว่าลูกเราคงยืนนิ่งๆไม่เต้นเพราะเค้าเป็นคนไม่กล้าและขี้กลัว แต่ที่ไหนได้ผิดคลาดเลย พอเพลงขึ้นเท่านั้นแหล่ะ step ออกไม่มีหยุด ทำเอาเราผู้เป็นแม่น้ำตาคลอเล็กน้อยเนื่องจากบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะคลอเบ้าทำไม แต่ทำให้เรารู้เลยว่าเค้าเอาตัวรอดได้


พอเปิดเทอมเดือนแรกเค้าก็ยังคงร้องไห้เกาะขาอยู่ทุกครั้ง จนวันหนึ่งเมื่อเร็วๆนี้เองเค้าเดินเข้าห้องเองไม่ร้องงอแง เกาะแข่งเกาะขาเหมือนอย่างเคย ทำเอาเราแปลกใจมากไม่คิดว่าเค้าจะปรับตัวได้เร็วขนาดนี้ เพราะทำใจว่าคงร้องไห้กันเป็นปีๆแน่ๆ

ทุกวันนี้นอกจากความกังวลจะหมดไปความภูมิใจกลับเข้ามาแทนที่ เพราะเห็นว่าเค้าสามารถตอบสิ่งที่ครูสอนได้เป็นอย่างดี สามารถพูดออกไมค์ได้ พูดหน้า class ได้ ยกมือขอตอบคำถามได้ ซึ่งความรู้ต่างๆที่ลูกตอบได้ก็เพราะเราผู้เป็นแม่สอนปูทางมาก่อนเข้ารร. ดังนั้นการมารร.ของลูกจึงเป็นการมาตอกย้ำความรู้ที่มีเพิ่มขึ้นอีก เราจึงรู้ว่าครูคนแรกของลูกก็คือแม่นี่แหล่ะ (เหมือนที่เค้าพูดๆกัน) และยังรู้อีกว่าลูกพร้อมมารร.ตั้งนานแล้ว


ทุกวันนี้บอกว่าชอบไปรร. แต่ก่อนเข้าห้องต้องขอแวะนู่นนี่หน่อย ถ่ายรูปกะยีราฟบ้าง ดูปลาบ้าง

ทุกวันนี้บอกว่าชอบไปรร. แต่ก่อนเข้าห้องต้องขอแวะนู่นนี่หน่อย ถ่ายรูปกะยีราฟบ้าง ดูปลาบ้าง

พูดได้คำเดียวว่าหายเหนื่อยเมื่อเห็นเค้าเก่งและเอาตัวรอดได้ ที่เคยเหนื่อย เบื่อ บ่นๆๆๆ มันหายหมดเพราะเห็นความสามารถของเค้านี่แหล่ะ ต่อไปนี้มีกำลังใจอีกเยอะที่จะสอนลูก ติวลูก และอบรมเค้าให้เป็นคนดีที่มีคุณภาพของสังคมต่อไป

ฝากกดไลค์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะที่ Facebook enjoygal

และ ที่นี่




Create Date : 26 กรกฎาคม 2558
Last Update : 26 กรกฎาคม 2558 13:42:04 น.
Counter : 598 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

enjoygal
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]