"โป๊ศาสตร์" พิศวาสความรู้คู่กามารมณ์ - เพื่อจุดยืน "ความโป๊"
หนึ่งในศัพท์แสลงหูของหลายๆ คน เห็นจะต้องระบุคำว่า "โป๊" รวมอยู่ด้วย
ความจริงก็ไม่ได้เป็นคำหยาบคายอะไร เพียงแต่ฟังแล้วก็ให้รู้สึกไม่ดีทุกที และบางทีก็หนักข้อไปถึงขั้นที่บางคนตีความคำว่าโป๊ว่าอยู่ในเขตเลยเส้นศีลธรรมอันดีงามไปเสียแล้ว
ท้ายที่สุดเรื่องของความ "โป๊" ไม่ว่าจะเป็นหนังโป๊ ภาพโป๊ ไปจนถึงสื่อโป๊ต่างๆ ก็ถูกความคิดเหล่านี้เบียดผลักไปจนไม่เหลือตัวตนในสังคม
กลายเป็นเรื่องที่สังคมยอมรับไม่ได้
กลุ่มคนที่เห็นต่างจึงรวมตัวกันเป็น กลุ่มนักโป๊ศาสตร์ และจัดทำบล็อก โป๊ศาสตร์ (Porn Studies) พิศวาสความรู้คู่กามารมณ์ ขึ้นมา เพื่อเผยแพร่เรื่องของ "ความโป๊" โดยเฉพาะ
โป๊ในบริบทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ความโป๊ ไปจนถึงข่าวคราวหนังโป๊ที่คัดสรรแปลมาให้อ่าน
"ตั้งแต่ที่เรารับแนวคิดแบบวิคตอเรียนจากตะวันตก มาในยุคปฏิรูปประเทศ แนวคิดพวกนี้มันสลายลงไปในความคิดคนไทย ว่าเรื่องโป๊เป็นเรื่องน่าเกลียด" นักโป๊ศาสตร์ผู้ไม่ประสงค์ออกนามท่านหนึ่งกล่าว
ก่อนแจงเพิ่มว่า แท้จริงแล้ว "โป๊" กับ "ลามก" นั้นแตกต่างกันอยู่มากในหลายๆ บริบท
"ลามกมันเป็นเรื่องเชิงอารมณ์ ความคิด แต่โป๊เป็นสภาพเปลือย ไม่มีผิดไม่มีถูก"
"แต่พอใช้คำว่าลามกมันดูมีตราบาปขึ้นมาเลย"
"แล้วในกฎหมายนี่ไม่มีข้อห้ามเผยแพร่สื่อโป๊มีแต่ห้ามเผยแพร่สื่อลามก"
แต่เรื่องของเรื่องคือ บรรทัดฐานเรื่องสื่อลามกของบ้านเรานั้นกว้างและครอบคลุมมากเสียจนทำให้ "สื่อโป๊ 99% ไปซ้อนทับบรรทัดฐานของสื่อลามกที่ฎีกาวางไว้" และนั่นทำให้ "สื่อโป๊ทั่วไปของไทยต้องลงไปอยู่ใต้ดินเพราะผิดกฎหมาย"
ซึ่ง "เราไม่ได้ฟังธงว่าลามก ผิดกฎหมาย แต่เรามองในลักษณะที่มันเป็นปรากฏการณ์ของสังคม ทุกสังคม ทุกประเทศก็มี
"แต่ของไทยมันเหมือนถูกคลุมไว้ ไม่มีคนมาพูด เราเลยตั้งคำถามกลับขึ้นไปว่าเราควรมองสื่อโป๊จากอีกมิติหนึ่งไหม มันมีความหมาย มีมิติ เราพยายามคุ้ยหา อธิบายและพูดคุยเรื่องนี้" นักโป๊ศาสตร์เจ้าเดิมกล่าว
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์ที่รวมตัวกันนั้น นอกจากเขาซึ่งเล่าเรื่องราวให้เราฟังแล้ว ยังประกอบด้วยเพื่อนฝูงในแวดวงวิชาการอีก 9 คน ที่เชี่ยวชาญในต่างๆ สาขา ไม่ว่าจะในสายประวัติศาสตร์ กฎหมาย รัฐศาสตร์ ฯลฯ ทำให้ข้อเขียน "เรื่องโป๊" ของบล็อกเต็มไปด้วยความหลากหลายและมีมิติ
หลายคนในกลุ่มที่ว่าไม่เคยเจอหน้ากันด้วยซ้ำไป เขาบอก
หากแต่เมื่อได้สนทนาผ่านทางสื่อออนไลน์จนรู้จัก รู้ว่าคิดไปในทางเดียวกัน ก็นำไปสู่การทำบล็อกนี้ ซึ่งอาจจะนาน-นานที ถึงจะมีเรื่องมาอัพเดต
"มันเหมือนงานวิชาการ ต้องอ้างอิง ต้องใช้เวลารวบรวมข้อมูล เหมือนทำวิจัยเล็กๆ เลยล่ะ" เขาให้เหตุผล
ซึ่งคนที่ได้อ่าน //www.blogazine.in.th/blogs/pornstudiesgroup คงเห็นได้ว่ามีการอ้างอิงที่มาอยู่หลายแห่ง
อย่างไรก็ดี แม้จะมั่นใจในความคิดและวิธีการทำงาน แต่ในส่วนของคนทำ พวกเขาก็ยืนยันใช้ "นามแฝง"
"มันเป็นเรื่องของการสงวนความเป็นส่วนตัว" นักโป๊ศาสตร์เจ้าเดิมแถลง
ที่เป็นเช่นนี้เขาว่ามิใช่เพราะแบ่งว่าเรื่องโป๊เป็นเรื่องต่ำ จึงเปิดเผยชื่อเสียงไม่ได้ แต่เป็นเพราะต้องการ "แยกร่าง"
"แยกร่างว่าที่เราทำเรื่องโป๊ศาสตร์ เป็นร่างอวตาร ซึ่งไม่ผูกติดกับตัวตนของเรา ไม่มีเงื่อนไขอะไร"
การทำบล็อกดังกล่าว เขายังว่า เป็นการแบบอุทิศตัว นั่นคือไม่หวังเรื่องรายได้ อีกทั้งคิดมาตั้งแต่ก่อนทำแล้ว ว่าน่าจะไม่มี
แต่ที่ยังทำก็เพราะ "ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ เพื่อเผยแพร่ความรู้อีกมิติหนึ่ง ในเรื่องที่เป็นประเด็นในสังคมไทย แต่ไม่มีใครพูด
"ให้มันมีพื้นที่ในสังคมได้"
ซึ่ง "มันคุ้มในเชิงความตั้งใจ" เขาบอก
"คุ้มมาก เพราะมันเติมเต็มตัวเอง" ว่าอย่างนั้น
อย่างไรก็ตาม ในเชิงผลลัพธ์ เขาและทีมงานก็รับว่า ความคิดและความหวังคงไม่ประสบความสำเร็จโดยง่าย
"เรื่องที่ยืนน่ะอาจจะอีก 10 ปี หรือ 100 ปีเลยก็ได้ กว่าสื่อโป๊จะมีที่ยืนจริงๆ"
ตราบใดที่สังคมยังมีปฏิกิริยากับคำว่า "โป๊" อย่างที่เป็นอยู่
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ