ในช่วงที่บ้านเรากำลังอยู่ในช่วงกำลังมีการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง จากสภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มจะเริ่มถดถอย ปัญหาอาชญากรรมที่มีอยู่ทุกหนแห่ง หรือแม้แต่
ปัญหาของการทำกิน ที่อยู่อาศัย ปากท้องของประชาชน เรื่องราวเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่เราต้อง
รับรู้เข้าหูเราทุกวี่วันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
บางคนถึงกับเบื่อหน่ายและไม่อยากได้ยินเรื่องที่ ฟังแล้วรู้สึกเครียด หดหู่ พาลจะพาให้ไม่อยาก
เปิดโทรทัศน์เพื่อรับรู้เรื่องราวข่าวสารที่มาพร้อมกับความเครียดเหล่านี้ เพราะฟังแล้วไม่สบายใจ
ในสังคมปัจจุบัน คนเรามีทางเลือกในการที่จะ เสพความสุข ได้หลายๆทางเช่น ดูหนัง ฟังเพลงที่ชอบ
ไปช๊อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า ท่องเที่ยว หรือแม้แต่ เข้าวัดเข้าวาทำบุญทำทาน
นั้นเป็นเพราะ ธรรมชาติของคน ที่ต้องดิ้นรน หนีทุกข์ โดยการไปรับ สัมผัสที่หอมหวานให้ชีวิต
หรือจะเรียกว่าไปเติมความสุขให้ชีวิต ก็คงไม่ผิดอะไร
เพราะสิ่งเหล่านั้นก็สามารถทำให้เรา ลืมความทุกข์ ได้แม้จะชั่วคราวก็ตามที..
บางคนก็เลือกไปสถานที่แหล่งบันเทิง เช่นผับ บาร์ ร่ำสุรา นารี กีฬาบัตร ไปเรื่อยโดยที่ยังเห็นว่า
เป็นทางออกจากทุกข์ได้ เพิ่มความสุข เพิ่มรสชาติ ให้ชีวิตได้ เพราะเบื่อหน่ายโลกที่วุ่นวายเต็มที
แต่เชื่อหรือไม่ว่าแม้ความสุขชั่วคราวเหล่านั้น จะสามารถทำให้เราลืม ความทุกข์ ได้แม้ชั่วคราวก็จริงอยู่ แต่ผลของมันก็คือ เราต้องพึ่งพา ความสุขชั่วคราวเหล่านี้เรื่อยไป..
โดยอาจจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบ วิธีการ ไปต่างๆนาๆ แด่ก็เพื่อสนองความต้องการ หนีทุกข์ ของเรานี่เอง.. และสุดท้ายก็กลายเป็นว่าเรา เสพติด ความสุขความบันเทิงชั่วคราว เหล่านี้เหนียวแน่นเสียแล้ว
จริงอยุ่ความทุกข์กายทุกข์ใจ ใครทุกคนก็อยากผลักมันออกให้ห่างจากตัวเองทั้งนั้น
โดยเห็นว่าเป็นความ ไม่บันเทิงกายใจ สร้างความหดหู่ห่อเหี่ยว ไม่น่ากอดยึดเอาไว้แม้เสี้ยววินาที
แต่หารู้ไม่ ควาามไม่บันเทิงเริงใจ นี่แหละจะกลายเป็นสิ่งที่ สั่งสอนอบรมเรา ให้มีความฉลาดในชีวิต
ให้เห็นชีวิตอีกด้านหนึ่ง ที่มันไม่น่าพิศมัย ไม่น่าจับต้อง ไม่น่าแม้สัมผัสด้วย สายตา หรือเสียง
แต่มันก็ คือความจริงของชีวิต เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงๆ และที่จริงยิ่งกว่าก็คือ เราไม่สามารถหลีกมันได้พ้น
จะต้องเจอและสัมผัสมันจนได้ ในสักวันหนึ่งแน่ๆ..
หากเรามัวรับแต่ ข่าวบันเทิง ที่เข้ามาหล่อเลี้ยงหัวใจให้แช่มชื่น โดยปฏิเสธ ข่าวไม่บันเทิง ที่ไม่ให้แม้ความสบายทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เราก็คงกลายเป็น คนหลอกตนเอง แกล้งโง่ในโลกของความจริง เป็นคนเลือกข้าง ไม่มีความเป็นกลางของชีวิต สุดท้ายกลายเป็นคนที่ใฝ่หา ความสุขจำลอง
ไม่รู้จบ ปรนเปรอตัวเองด้วยสิ่งเทียมๆปลอมๆเรื่อยไป.. ก็น่าเสียดายที่ เรามีโอกาสที่จะเรียนรู้ อะไรๆ
หลายๆอย่างให้กับตนเอง ด้วย ด้านมืดของชีวิต นี่แหละ ข่าวไม่บันเทิง ก็คงกลายเป็นเพียง ลมร้อน
ที่พัดผ่านมาแล้วทำให้เรา รู้สึกร้อนวูบวาบ ชั่วคราว แต่ไม่เคยได้อะไรจากมันเลย..
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [