สวัสดีค่ะ พออายุมากขึ้นจะให้สนใจแต่เรื่องความขาวใสอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เราต้องให้ความสนใจเรื่องของริ้วรอยกันด้วย
อย่างเอ็มตอนนี้อายุก็ปาเข้าไป 35 แล้ว จะให้มโนหน้าดีประหนึ่งคุยกับกระจกวิเศษมันก็คงไม่ใช่อ่ะเนอะ 55+ ต้องบำรุงค่ะ
บำรุงเยอะๆ เลย ซึ่งตอนนี้โชคก็เข้าข้างชะนีห่วงสวยอย่างอิฉันเพราะ d program เขานำเข้ามาขายในไทยแล้วค่ะคู้ณ
อยากจะบอกว่าเป็นสกินแคร์ในเครือชิเซโด้อีกหนึ่งกลุ่มที่โด่งดังและขายดีมากๆ ในญี่ปุ่นเลยนะ แถมบล็อกเกอร์ดังๆ
เขาก็รีวิวกันไว้เยอะมากกก อย่างนี้เราจะพลาดได้ไง จริงม่ะ ^^
สำหรับตัว d program จริงๆ แล้วเขามีหลายสูตร หลายสีมากเลยนะ คือมีให้ทุกทางเลือกสำหรับทุกปัญหาผิวนั่นแหละ
แต่สำหรับไลน์นี้ คือ d program Vital Act ขวดสีม่วง เป็นโลชั่นสำหรับผิวที่มีริ้วรอย เหมาะสำหรับผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย
และต้องการลดเลือนริ้วรอยรวมถึงฟื้นฟูสภาพผิวให้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยปลอบประโลมผิวที่อักเสบอย่างอ่อนโยน
จากภายในให้กลับมาดูกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาตินั่นเอง
ซึ่งส่วนผสมหลักของเขาก็จะมีตัว H-Stabilizing A ซึ่งเป็นส่วนผสมเอกสิทธิ์จาก d program ที่ช่วยเสริมสร้างชั้นผิว
ให้แข็งแรงเสมือนเกราะปกป้องผิว และมี Tranexamic Acid ช่วยเสริมชั้นผิวให้แข็งแรงพร้อมบำรุงผิวให้เรียบเนียบ
นอกจากนี้ส่วนผสมของ Glycyrrhizinate ที่ช่วยลดการระคายเคือง รวมถึงสารสกัดจากผลไม้ Rosa Roxburghii
ที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยกระตุ้นความชุ่มชื้นให้กับผิวตามธรรมชาติ และเพิ่มความสามารถใน
การกักเก็บความชุ่มชื่นให้กับผิวอีกด้วย สำหรับไลน์นี้จะมีทั้งหมด 2 สูตร ให้เลือกใช้ คือ
สูตร 1 เนื้อโลชั่น เหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมัน ตัวนี้จะช่วยลดเลือนริ้วรอยและกระชับรูขุมขน รวมถึงฟื้นฟู
ระบบภูมิคุ้มกันของผิวจากความแห้งกร้าน ลดรอยเห่อแดงและปกป้องผิวไม่ให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง
ตัวนี้เนื้อโลชั่นจะเหลว ใส ซึมเร็ว ไม่เหนียว แห้งสบายผิว ทาลงบนผิวแล้วรู้สึกสดชื่นดี ขนาด 125 ml.
สูตร 2 เนื้ออิมัลชั่น เหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวได้ยาวนานถึง 8 ชม.
พร้อมทั้งปรับสภาพผิวและมอบความชุ่มชื่นให้กับผิวด้านบนและซึมลงสู่เซลส์ผิวด้านในให้เนียนนุ่ม ยับยั้งปัจจัย
ที่ก่อให้เกิดการอักเสบซึ่งผิวบอบบางมักมีบริเวณผิวที่อักเสบเกิดขึ้นได้บ่อยๆ ป้องกันและลดเลือนริ้วรอยรวมถึงรูขุมขน
ที่กว้างอันเป็นสัญญาณแห่งวัย ลักษณะเนื้ออิมัลชั่นจะเป็นแบบ แอรี่ สมูธ บางเบา ซึมเร็ว แต่ชุ่มชื้น สีขาว
ข้นเล็กน้อย คือทาแล้วรู้สึกได้เลยว่าผิวบริเวณที่ทารู้สึกนุ่ม ชุ่มชื่นขึ้น ขนาด 100 ml.
สำหรับผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ตัวนี้ มีความอ่อนโยนไม่แพ้กัน เพราะเป็นสูตร Hypoallergenic ปราศจาก พาราเบน
แอลกอฮอล์ น้ำหอมและสารต่างๆ ที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิว ไม่อุดตันรูขุมขน จึงเหมาะแก่ผิวบอบบางที่แพ้ง่ายมากๆ
วิธีใช้ก็ทั่วๆ ไป คือ หลังล้างหน้าเสร็จก็กดโลชั่นลงบนฝ่ามือสัก 1- 2 ปั๊ม จากนั้นก็ลูบไล้
ให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ใช้วิธีการกดเบาๆ ด้วยฝ่ามือแทนการถูแรงๆ เอานะ
สำหรับความรู้สึกส่วนตัวหลังจากที่ได้ทดลองใช้ ต้องบอกเลยว่ามันดีจริงสมคำร่ำรือเลยอ่ะ โดยเฉพาะตัวสูตร เนื้อ Emulsion
ทาปุ๊บหน้าฉ่ำปั๊บ รู้สึกผิวนุ่มชุ่มชื่นขั้นสุด เนื้อเขาเกลี่ยง่ายนะ ซึมเร็ว ยิ่งถ้าช่วงไหนที่ขี้เกียจแล้วเว้นการทาครีมบำรุงมาหลายวันๆ เนี้ย
ทาตัวนี้ตัวเดียวเอาอยู่เลย แถมยังช่วยลดอาการคันที่เกิดจากการอักเสบของผิวที่แห้งกร้านได้อีกด้วย ยิ่งทาก่อนนอนด้วย
แล้วตื่นมานี่รู้สึกผิวสุขภาพดีมากๆ รู้สึกเหมือนผิวหน้าดูเนียนเรียบกว่าเดิมอีก
จริงๆ แล้วเอ็มใช้ทั้ง 2 สูตรนั่นแหละ สูตรเนื้อโลชั่นเอ็มจะใช้ทากลางวันเพราะมันซึมเร็วกว่าเนื้ออิมัลชั่น ทำให้แต่งหน้า
ค่อนข้างง่ายกว่า เพราะสภาพอากาศบ้านเราอ่ะเนอะมันก็ไม่เอื้ออำนวยให้อยู่ในลุคหน้าฉ่ำเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นกลางคืน
คงต้องยกให้เนื้อ Emulsion เลย บอกเลยว่าลองใช้แค่คืนเดียวตื่นมาคือรู้เรื่องเลย จริงงง
สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่ายิ่งผิวหน้าเรากักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้มากเท่าไหร่ย่อมส่งผลดีกับผิวของเราเท่านั้น เพราะถ้าปล่อย
ให้ผิวแห้งกร้านก็จะยิ่งทำให้ริ้วรอยเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นถ้าไม่อยากแก่ไปตามอายุก็ต้องบำรุงกันเยอะหน่อยแหละเนอะ
สำหรับผลิตภัณฑ์ d program Vital Act ทั้ง 2 สูตร อยู่ที่ขวดล่ะ 1,090 บาท คือถือว่าราคาพอๆ กับที่วางขาย
ในญี่ปุ่นเลยนะ ไม่ต้องไปฝากใครเขาหิ้วหรือพรีออเดอร์ให้เสียเวลาหรอก เดินเข้าไปหาซื้อใน watsons หรือสั่งทาง
watsons online ไปเลย ง่ายกว่าเยอะ สำหรับวันนี้พอแค่ก่อนไว้มีอะไรใหม่ๆ จะมาแนะนำอีกนะ ไปล่ะ บะบาย
สำหรับวันนี้เอ็มต้องขอตัวลาไปก่อน ไว้วันหน้ามีอะไรดีๆ ใหม่ๆ จะมาแนะนำอีกน้า อย่าลืมกดติดตามกันเพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆ ในการทำรีวิวคร้ั้งต่อไปด้วยนะคะ จะได้แน่ใจว่าเขียนแล้วยังมีคนอยากอ่านอยู่ >.<