The world around us: My perspective
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
20 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
ประโยค English คันๆ ใน The Devil Wears Prada

แหะๆ หายไปนานเป็นอาทิตย์เลยครับ แบบว่างานประจำมันรัดตัว แต่วันนี้พอมีเวลาว่าง เลยขอมาคุยด้วยเหมือนเดิม คราวที่แล้วรู้สึกจะยาวไปกับเรื่อง 300 คราวนี้เลยเอาแบบสบายๆ กับหนังสุดโปรดของผมอีกเรื่องหนึ่ง The Devil Wears Prada นั่นเอง จริงๆ แล้วผมอ่านหนังสือก่อนไปดูหนัง ซึ่งก็ชอบหนังสืออยู่แล้ว แต่พอหนังเปลี่ยนรายละเอียดเล็กน้อย ทำให้ผมชอบหนังมากๆ โดยเฉพาะบอสตัวร้าย Miranda Priestly นี่กลายเป็นคนโปรดผมไปเลย ยกเครดิตให้กับ Meryl Streep ไปเต็มๆ เลยครับ



หนังมีประโยคกัดแบบเจ็บๆ คันๆ หลายอันเลยครับ แต่มันเป็นสไตล์กัดแบบผู้หญิง ประมาณ Chic joke น่ะครับ ซึ่งแม้ผมจะเข้าใจบางอัน แต่คงอธิบายได้ไม่ถึงความรู้สึกของผู้หญิงแน่ๆ (ในขณะบางอันนี่ผมยังงงๆ อยู่เลย ใครเก่งเรื่องนี้ ลองไปหาประโยคในหนังที่เกี่ยวกับ Crisco กับ Fishing wire มาดูหน่อยสิครับ แล้วช่วยอธิบายให้ผมฟังจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง แบบว่าผมพอเข้าใจ Crisco นะ แต่ไม่เข้าใจว่า Fishing wire จะช่วยให้แอนดี้ใส่ชุดได้อย่างไร) ดังนั้นมาลองบทสนทนาแบบคันๆ แต่ไม่แนวเกินไปดีกว่า

มาลองบทสนทนาอันแรกก่อนเลย
Emily: One time an assistant left the desk, because she, I don't know, sliced her hand open with a letter opener. Miranda missed Lagerfeld who had boarded a seventeen hour flight to Australia. She now works at TV Guide.
Andy Sachs: Man the desk at all times. Got it.

อันนี้แปลตามไปเลยนะครับ เอมิลี่พูดว่า “ครั้งหนึ่งนะ มีผู้ช่วยเดินออกไปจากโต๊ะ เพราะว่า เอ่อ ฉันไม่รู้สิ เธอโดนที่เปิดจดหมายบาดมือมั้ง มิแรนด้าเลยคลาดกับเลเกอร์ฟิลด์ที่ขึ้นเครื่องบิน 17 ชั่วโมงมายังออสเตรเลีย ...ตอนนี้เธอทำงานอยู่ที่ TV Guide” เห็นถึงการประชดประชัดนิดๆ ในประโยค because ใช่ไหมครับ มันโชว์ว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการนั่งโต๊ะรอรับโทรศัพท์ให้มิแรนด้า ซึ่งผู้ช่วยคนแรกก็พลาด คำว่า board ตัวนี้ เป็นอาการที่ใช้ในการขึ้นยานพาหนะ เช่น เครื่องบิน เรือ รถบัส รถไฟ เป็นต้น ถ้าดูหนังบ่อยจะเจอศัพท์ประมาณว่า on board เยอะ นั่นหมายความว่าขึ้นพาหนะมาแล้ว คราวนี้คำว่า flight เลยทำให้รู้ว่านี่เป็นการขึ้นเครื่องบิน

ให้สังเกต tense ของประโยคนะครับ คำว่า left กับ missed แสดงถึงอดีต เนื่องจากนี่เป็นเรื่องเล่า คราวนี้สังเกต tense ของคำว่า had boarded นะครับ นี่เป็น past perfect tense ซึ่งแสดงว่านี่เป็นกริยาที่เกิดก่อน past tense ดังนั้น ประโยคนี้จึงบอกว่า board เกิดขึ้นก่อน miss จึงสื่อได้ว่า เลเกอร์ฟิลด์อุตส่าห์ขึ้นเครื่องมาแล้วแต่กลับไม่เจอมิแรนด้า

คำตอบของแอนดี้คือ “man the desk at all times” – เฝ้าโต๊ะตลอดเวลา – “Got it” เข้าใจแล้ว
คำว่า man นี่ พอใช้เป็นกริยาจะสามารถหมายถึงทำให้แข็งแรงขึ้น หรือประจำตำแหน่งก็ได้ แต่ที่อยากให้สังเกตคือคำว่า time ซึ่งถ้ามีความหมายเป็นเวลา จะเป็นนามนับไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถเติม s ได้ เช่นคำว่า all the time, some time (บางเวลา) เป็นต้น แต่ในประโยคนี้ time มีความหมายเป็นครั้ง กลายเป็นนามนับได้ และเติม s ได้ เช่น sometimes (บางครั้ง), all times เป็นต้น เราจะเห็นว่า ในประโยคนี้ ผมไม่ได้แปล all time เป็นทุกครั้ง แต่แปลเป็นตลอดเวลา นั่นเป็นเพราะลักษณะสำนวนที่ต่างกัน คำว่า at มักถูกใช้กับ times ที่มี s โดยจะสื่อถึงความถี่ เช่น the I get so lonely at times ที่แปลว่าฉันเหงาอยู่บ่อยๆ ดังนั้น ถ้าตัด at ออกไป ก็สามารถเปลี่ยนประโยค man the desk at all times เป็น man the desk all the time ก็น่าจะพอได้

บทสนทนาถัดไปเลยนะครับ
Emily: Andrea, my God! You look so chic. “แอนเดรีย โอ้พระเจ้า เธอดูเฉี่ยวจริงๆ” (ดูเป็นสาว Chic คือสาว แต่งตัวดีตามแฟชั่น สาวเที่ยว เก๋ โฉบเฉี่ยว)
Andy Sachs: Oh, thanks. You look so thin. “ขอบคุณ เธอก็ดูผอมจัง”
Emily: Really? It's for Paris, I'm on this new diet. Well, I don't eat anything and when I feel like I'm about to faint I eat a cube of cheese. I'm just one stomach flu away from my goal weight.

ประโยคท้ายนี่แปลทีละอันนะครับ

“จริงเหรอ นี่สำหรับปารีสล่ะนะ ฉันกำลังไดเอ็ตด้วยวิธีใหม่อยู่” (ให้สังเกตว่าใช้ on คู่กับ diet ที่เป็นนามนะครับ เขาไม่นิยมใช้ diet เป็นกริยาเหมือนบ้านเรา)

“อืม ฉันไม่กินอะไรเลย และพอฉันรู้สึกว่าใกล้จะเป็นลม ฉันจะกินชีสสักก้อนนึง” คำว่า about to แสดงถึงการใกล้ที่จะเกิดอะไรสักอย่าง ส่วนคำว่า faint นั่นมีความหมายเดียวกับ pass out แปลว่า เป็นลม (ถ้าดูหนังบ่อย จะเจอคำว่า pass away ที่แปลว่าตาย ใช้เป็นคำสุภาพแทนคำว่า die ครับ)

ส่วนประโยค “I’m just one stomach flu away from my goal weight” นั้น stomach flu แปลว่าท้องเสีย (flu คือหวัดไงครับ มาจากคำว่า fluid ที่แปลว่าของเหลว พอ stomach flu ก็คือการเสียของเหลวที่ท้อง คือติดไวรัสแล้วท้องเสียนั่นเอง) คราวนี้คำว่า away from นี่ ถ้าแปลตรงๆ คือห่างมาจาก คราวนี้ away from my goal weight ก็แปลตรงๆ คือ ห่างจากน้ำหนักที่ต้องการ พอเติม one stomach flu เข้าไปหน้า away ก็เป็นการบอกระยะห่างไงครับ ความหมายรวมก็เลยเป็น แค่ท้องเสียอีกเพียงครั้งเดียวก็จะได้น้ำหนักตามต้องการแล้ว ยกตัวอย่างประโยคพวกนี้นะครับ เช่น Liverpool are just one match away from winning their 6th Champion League title (อีกแค่แมทช์เดียวลิเวอร์พูลก็จะได้เป็นแชมป์ยูโรเปี้ยนสมัยที่ 6 แล้ว – แฮ่ม ขอพูดเป็นลางดีเอาไว้ก่อน อิๆๆ)



ประโยคต่อมาเป็นประโยคสุดท้ายที่เอมิลี่พูดกับคนที่มาทำงานแทนแอนดี้นะครับ
Emily: You have some very large shoes to fill. I hope you know that.
อันนี้ต้องดูสำนวน in one’s shoes ครับ แปลตรงๆ ว่าเอาเท้าไปใส่ในรองเท้าคนอื่น แปลเป็นไทยง่ายๆ คือวัดรอยเท้านั่นแหละครับ ประมาณว่าเอาตัวเองเข้าไปทดแทนคนๆ หนึ่ง อย่างเช่นเพลง Numb ของ Linkin Park ที่บอกว่า “I’m walking in your shoes” ไงครับ (อันนี้ต้องแปลทั้งประโยคครับถึงจะได้ใจความ เอาไว้อธิบายเพลงนี้ในโอกาสหน้านะครับ) กลับมาที่หนังนะครับ การที่แอนดี้ลาออกไป มันทำให้เกิดช่องว่างและความคาดหวังว่าคนใหม่จะทำหน้าที่ได้ดีเท่าแอนดี้ไหม นั่นคือที่มาของคำว่า large shoe ไงครับ เนื่องจากพอรองเท้าใหญ่แล้วก็จะใส่ให้เต็ม (fill) ยาก ซึ่งแสดงว่าแอนดี้ทำงานเก่ง คนมาทำงานใหม่ก็จะทำดีได้เท่าเธอยากนั่นเอง

หนังจบดีมากครับ ดีกว่าหนังสือเสียอีก เอ หรือว่าเป็นเพราะหนังสือมันออกแนวผู้หญิงซุบซิบ ผมเลยชอบไม่เท่ากับหนัง ก็ไม่รู้เหมือนกัน เอาเป็นว่า อ่านกับดู ได้อารมณ์ต่างกันครับ ใครยังไม่เคยชมเรื่องนี้ Recommend นะครับ ไปหามาดูเสีย หนังดี นางเอกน่ารัก บอสตัวร้ายแสดงได้ร้ายแต่เกลียดไม่ลง



Create Date : 20 พฤษภาคม 2550
Last Update : 24 ตุลาคม 2550 22:26:25 น. 9 comments
Counter : 8279 Pageviews.

 
อ่านหนังสือแล้ว แต่ยังไม่ได้ดูภาพยนตร์เลยค่ะ ไว้ต้องหามาดูให้ได้ค่ะ แต่คงต้อง sub thai อิอิ อังกฤษไม่แตกฉาน


โดย: ZAZaSassY IP: 125.25.206.135 วันที่: 20 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:45:42 น.  

 
ดูเรื่องนี้แล้ว
นางเอกน่ารักมากค่ะ

ขอบคุณสำหรับสำนวนที่เอามาฝากนะคะ


โดย: โสดในซอย วันที่: 20 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:04:07 น.  

 
ดูมานานมากๆค่ะเรื่องนี้ สนุกดี ^^


โดย: salami girl วันที่: 20 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:06:10 น.  

 
ชอบป้าแกเหมือนกันคับ
โดยเฉพาะประโยคที่ว่า...That's all!!!
จิกๆและฮาดี


โดย: Kurt Narris วันที่: 21 พฤษภาคม 2550 เวลา:1:21:59 น.  

 
หนังน่ารักมาก

ขอบคุณค่ะ


โดย: NuPoY_NuNaTT วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:11:10:22 น.  

 
ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้เลยค่ะ แต่กำลังยืม DVD เพื่อนมาดูอ้ะค่ะ เพราะหลายคนบอกว่าสนุก จะดูตอนที่อยู่ในโรงหนังก็ไม่ทันซะแล้ว

จะพยายามแวะเข้ามาใน blog บ่อยๆนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ


โดย: Experience IP: 203.156.191.183 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:53:31 น.  

 
คำตอบของแอนดี้คือ “man the desk at all times” – เฝ้าโต๊ะตลอดเวลา – “Got it” เข้าใจแล้ว
========================
Trick and Tip

1. Are you with me?
2. What are you after ?

Be my guest..... (อยากจะทำอะไรก็เชิญ) นี่แหละคะความหมายที่แท้จริง




1ว่าจะหาซื้อ Prada มาใส่เพิ่มอีกสักตัว เมื่อได้อ่านบล็อกคุณ ซาวว์ แล้ว


โดย: น้อง ...บัวกับกลยุทธ์ win win IP: 202.41.190.225 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:59:30 น.  

 
ของนนนน้อง บัว เริดหน่อยคะ

Gotcha!!!!!!


โดย: น้อง ...บัวกับกลยุทธ์ win win IP: 202.41.190.225 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:01:13 น.  

 
งืม เรื่องนียางมะได้ดูเยย เดี๋ยวต้องหามาดูซะหน่อยแล้วค่ะ


โดย: Beee (Beee_bu ) วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:14:09:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MrET_TK
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




วิศวกรคอมพิวเตอร์โดยปริญญา แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นอาจารย์ในที่สุด (แถมเป็นคณะวิทยาศาสตร์ด้วย ฮะๆๆ) ปัจจุบันเป็นวิทยากรด้านการตลาดออนไลน์ให้กับสถาบันในเครือกรุงเทพธุรกิจและเว็บ exitcorner รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ให้บริษัทเอกชน

ปัจจุบันผมเขียนบทความใน fan page เป็นประจำ (http://www.facebook.com/dr.ekkasit กับ http://www.facebook.com/InspireRanger)
Friends' blogs
[Add MrET_TK's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.