มาลองบทสนทนาอันแรกก่อนเลย Emily: One time an assistant left the desk, because she, I don't know, sliced her hand open with a letter opener. Miranda missed Lagerfeld who had boarded a seventeen hour flight to Australia. She now works at TV Guide. Andy Sachs: Man the desk at all times. Got it.
ให้สังเกต tense ของประโยคนะครับ คำว่า left กับ missed แสดงถึงอดีต เนื่องจากนี่เป็นเรื่องเล่า คราวนี้สังเกต tense ของคำว่า had boarded นะครับ นี่เป็น past perfect tense ซึ่งแสดงว่านี่เป็นกริยาที่เกิดก่อน past tense ดังนั้น ประโยคนี้จึงบอกว่า board เกิดขึ้นก่อน miss จึงสื่อได้ว่า เลเกอร์ฟิลด์อุตส่าห์ขึ้นเครื่องมาแล้วแต่กลับไม่เจอมิแรนด้า
คำตอบของแอนดี้คือ “man the desk at all times” – เฝ้าโต๊ะตลอดเวลา – “Got it” เข้าใจแล้ว คำว่า man นี่ พอใช้เป็นกริยาจะสามารถหมายถึงทำให้แข็งแรงขึ้น หรือประจำตำแหน่งก็ได้ แต่ที่อยากให้สังเกตคือคำว่า time ซึ่งถ้ามีความหมายเป็นเวลา จะเป็นนามนับไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถเติม s ได้ เช่นคำว่า all the time, some time (บางเวลา) เป็นต้น แต่ในประโยคนี้ time มีความหมายเป็นครั้ง กลายเป็นนามนับได้ และเติม s ได้ เช่น sometimes (บางครั้ง), all times เป็นต้น เราจะเห็นว่า ในประโยคนี้ ผมไม่ได้แปล all time เป็นทุกครั้ง แต่แปลเป็นตลอดเวลา นั่นเป็นเพราะลักษณะสำนวนที่ต่างกัน คำว่า at มักถูกใช้กับ times ที่มี s โดยจะสื่อถึงความถี่ เช่น the I get so lonely at times ที่แปลว่าฉันเหงาอยู่บ่อยๆ ดังนั้น ถ้าตัด at ออกไป ก็สามารถเปลี่ยนประโยค man the desk at all times เป็น man the desk all the time ก็น่าจะพอได้
บทสนทนาถัดไปเลยนะครับ Emily: Andrea, my God! You look so chic. “แอนเดรีย โอ้พระเจ้า เธอดูเฉี่ยวจริงๆ” (ดูเป็นสาว Chic คือสาว แต่งตัวดีตามแฟชั่น สาวเที่ยว เก๋ โฉบเฉี่ยว) Andy Sachs: Oh, thanks. You look so thin. “ขอบคุณ เธอก็ดูผอมจัง” Emily: Really? It's for Paris, I'm on this new diet. Well, I don't eat anything and when I feel like I'm about to faint I eat a cube of cheese. I'm just one stomach flu away from my goal weight.
“อืม ฉันไม่กินอะไรเลย และพอฉันรู้สึกว่าใกล้จะเป็นลม ฉันจะกินชีสสักก้อนนึง” คำว่า about to แสดงถึงการใกล้ที่จะเกิดอะไรสักอย่าง ส่วนคำว่า faint นั่นมีความหมายเดียวกับ pass out แปลว่า เป็นลม (ถ้าดูหนังบ่อย จะเจอคำว่า pass away ที่แปลว่าตาย ใช้เป็นคำสุภาพแทนคำว่า die ครับ)
ส่วนประโยค “I’m just one stomach flu away from my goal weight” นั้น stomach flu แปลว่าท้องเสีย (flu คือหวัดไงครับ มาจากคำว่า fluid ที่แปลว่าของเหลว พอ stomach flu ก็คือการเสียของเหลวที่ท้อง คือติดไวรัสแล้วท้องเสียนั่นเอง) คราวนี้คำว่า away from นี่ ถ้าแปลตรงๆ คือห่างมาจาก คราวนี้ away from my goal weight ก็แปลตรงๆ คือ ห่างจากน้ำหนักที่ต้องการ พอเติม one stomach flu เข้าไปหน้า away ก็เป็นการบอกระยะห่างไงครับ ความหมายรวมก็เลยเป็น แค่ท้องเสียอีกเพียงครั้งเดียวก็จะได้น้ำหนักตามต้องการแล้ว ยกตัวอย่างประโยคพวกนี้นะครับ เช่น Liverpool are just one match away from winning their 6th Champion League title (อีกแค่แมทช์เดียวลิเวอร์พูลก็จะได้เป็นแชมป์ยูโรเปี้ยนสมัยที่ 6 แล้ว – แฮ่ม ขอพูดเป็นลางดีเอาไว้ก่อน อิๆๆ)
ประโยคต่อมาเป็นประโยคสุดท้ายที่เอมิลี่พูดกับคนที่มาทำงานแทนแอนดี้นะครับ Emily: You have some very large shoes to fill. I hope you know that. อันนี้ต้องดูสำนวน in one’s shoes ครับ แปลตรงๆ ว่าเอาเท้าไปใส่ในรองเท้าคนอื่น แปลเป็นไทยง่ายๆ คือวัดรอยเท้านั่นแหละครับ ประมาณว่าเอาตัวเองเข้าไปทดแทนคนๆ หนึ่ง อย่างเช่นเพลง Numb ของ Linkin Park ที่บอกว่า “I’m walking in your shoes” ไงครับ (อันนี้ต้องแปลทั้งประโยคครับถึงจะได้ใจความ เอาไว้อธิบายเพลงนี้ในโอกาสหน้านะครับ) กลับมาที่หนังนะครับ การที่แอนดี้ลาออกไป มันทำให้เกิดช่องว่างและความคาดหวังว่าคนใหม่จะทำหน้าที่ได้ดีเท่าแอนดี้ไหม นั่นคือที่มาของคำว่า large shoe ไงครับ เนื่องจากพอรองเท้าใหญ่แล้วก็จะใส่ให้เต็ม (fill) ยาก ซึ่งแสดงว่าแอนดี้ทำงานเก่ง คนมาทำงานใหม่ก็จะทำดีได้เท่าเธอยากนั่นเอง