ทาน คือการทำกุศลที่ได้บุญ การให้อภัย คือการทำกุศลที่ได้บุญมากกว่า
Group Blog
 
All blogs
 
ร้านอาหารบ้านมณี

ชื่อร้าน : ร้านอาหารบ้านมณี
รายการอาหาร : ข้าวผัดพริกนรกทะเล ปลากุแลพล่า ปลาทูต้มบีบน้ำมะนาว หมึกต้มน้ำดำ ต้มส้มปลาทู ห่อหมกปู-ปลา
เวลาเปิดบริการ : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
ที่ตั้งร้าน : อ่างศิลา, ชลบุรี
พิกัด GPS : หาพิกัดไม่ลำบาก จากกรุงเทพฯแยกขวาเข้าอ่างศิลา ไปตามทางบังคับเรื่อยๆ กระทั่งผ่านวิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ แล้วลงเนินน้อยๆก็ชะลอรถ มองทางขวา




“บ้านมณี”ริมทะเลอ่างศิลา


































ระยะนี้ ยามล้าๆเหมือนจะหมดเรี่ยวแรง ต้องขอหลบไปพัก ให้ร่างกายได้รับธาตุทั้งสี่ เป็นการเติมพลังให้กายและจิต แต่จะไปไหนไกลๆก็คร้านเดินทางที่เสียเวลานานๆ แทนที่ได้พักผ่อน กลับกลายเป็นทรมานสังขาร จึงขอเลือกใกล้ๆกรุงเทพฯอย่าง อ่างศิลา -บางแสน อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งใช้เวลานั่งรถชั่วโมงเดียว

อ่างศิลา-บางแสน ในวันนี้ รื่นรมย์เหมาะแก่การไปพักผ่อน ไม่ว่ายกไปทั้งครอบครัว หรือขอแค่โลกนี้มีเพียงสองเรา บรรยากาศโดยรวมทัศนวิสัยเป็นระเบียบ สะอาดสะอ้าน มีที่พักหลายหลายรูปแบบให้เลือกตามรสนิยมและกำลังทรัพย์ รวมทั้งอาหารการกินค่าใช้จ่าย ก็ไม่สูงลิบลิ่วเท่าแหล่งท่องเที่ยวที่อู้ฟู่

เติมพลังจิตที่อ่างศิลาเที่ยวนี้

แวะเติมพลังท้องที่ร้าน “บ้านมณี” ริมทะเลอ่างศิลา ทางเข้าด้านหน้าอาจดูไม่เร้าอารมณ์ กระทั่งล่วงเข้าส่วนพื้นที่ส่วนตั้งโต๊ะแล้ว บอกตัวเองว่ากินไปนอนไปยังได้ เพราะโล่งโปร่งสบายสายตา ลมทะเลตึง เหมาะแก่การกินอาหารรสจี๊ดๆ

สั่งทอดมันปลากรายเพื่อเริ่มเดินเครื่อง คนต่างถิ่นกินแล้ว อาจสรุปรสว่าหวานนำหน้า แต่ “คนอ่าง” รวมทั้งคนเมืองชลฯกินรสนี้มาแต่ดั้งแต่เดิม จึงมิควรกินกับน้ำจิ้ม เพราะจะหวานเลยเถิด ยกเว้นเด็กตัวเล็กตัวน้อยต้อยตีวิด ที่ชอบหวานล้ำ คงยิ่งชอบ

เมื่อร่างกายพร้อมรับรสต่างๆแล้ว ถึงเวลาของปลากุแลพล่า ความสดของเนื้อปลากุแล และเครื่องเคราที่ใส่โดยไม่รู้จักคำว่าขี้เหนียว ความหวานลิ้นจากเนื้อปลา จึงตัดลงตัวกับความจัดจ้านของเครื่องพล่า

ปลาทูต้มบีบน้ำมะนาว ได้ซดน้ำจี๊ดจัด จากพริกขี้หนูตำ หัวน้ำปลาอย่างดี และน้ำมะนาว ตัดกันดีกับความมันของเนื้อปลาทูโป๊ะ ขนาดตัวไม่โตเกินไปนัก รสและรูปลักษณ์ของชามนี้ไม่ต่างจากต้มยำเท่าไรนัก แผกกันแค่ว่าไม่ใส่ผักหญ้าอื่นใดอีก นอกจากผักชีโรยหน้า

ปลาทูในอีกรส ต้มส้มปลาทู น้ำต้มส้มเข้มข้น คล่องคอด้วยความรู้สึก เปรี้ยว หวาน ละไมลิ้น

อาหารพื้นบ้านแถบภาคตะวันออก หมึกต้มน้ำดำ อร่อยลิ้นกับเนื้อหนั่นของหมึกกระตอมตัวยาวแค่นิ้วชี้ ที่ก่อนจะใส่ปลาหมึกลงในน้ำเดือดพล่าน ต้องใช้ปลายช้อนบีบส่วนดี(หมึกสีดำ)ให้แตก แล้วใส่ปลาหมึกลงต้มทันที จากนั้นดีสีดำค่อยๆ ออกมา ปรุงรสด้วยน้ำตาลและน้ำปลา ซดน้ำได้ความชื่นใจอย่างไม่น่าเชื่อ
ห่อหมกปู-ปลา พริกแกงรสกลมกล่อมระเรื่อยระรื่นลิ้น กินกับข้าวสวยร้อนๆ เข้าคู่กันได้ดีนักแล

สำหรับคนชอบกินเผ็ด หมายมาดกินอาหารจานเดียว ขอรับรองว่าข้าวผัดพริกนรกทะเล คู่ควรแก่การนี้เป็นที่สุด ข้าวเม็ดเป็นตัวผัดคลุกเคล้า พริกขี้หนูและกระเทียมปั่นหยาบ เพิ่มโปรตีนจากปลาหมึก กุ้ง และเนื้อปู ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ ซอสปรุงรส และพริกไทยป่น ได้ความเผ็ดหอมที่เข้มข้น

“บ้านมณี” ถนนอ่างศิลา – เขาสามมุข เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.หาพิกัดไม่ลำบาก จากกรุงเทพฯแยกขวาเข้าอ่างศิลา ไปตามทางบังคับเรื่อยๆ กระทั่งผ่านวิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ แล้วลงเนินน้อยๆก็ชะลอรถ มองทางขวา เห็นป้ายร้านชัดเจน เลี้ยวเข้าไปได้เลย ด้านในที่ทางสำหรับจอดรถค่อนข้างพอสมควร หากไปมื้อเย็นวันศุกร์-เสาร์ ควรจองโต๊ะที่โทร.086-301-4497 และ 086-111-1636

เพราะเป็นปกติของร้านอาหารริมทะเล ที่มักเนืองแน่นช่วงนั้น และโต๊ะมุมดีๆมักเป็นที่ช่วงชิง!

“อัญชัน”

ข้าวผัดพริกนรกทะเล

โดนใจในรสชาติสุดๆ จึงต้องนำวิธีทำ “ข้าวผัดพริกนรกทะเล”มาบอกต่อ

- ข้าวสวย,เนื้อปู
- กุ้ง,ปลาหมึก
- พริกขี้หนู,กระเทียม
- แตงกวา,ต้นหอม
- น้ำตาลทราย, พริกไทยป่น
- เกลือ ,ซอสปรุงรส

ผัดพริกขี้หนูและกระเทียมที่ปั่นพอหยาบ ตามด้วยปลาหมึก กุ้ง เนื้อปู ที่ผ่านการลวกแล้ว ผัดทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นใส่ข้าวสวยลงผัดพร้อมกับน้ำตาลทราย ,ซอสปรุงรส ,เกลือ และพริกไทยป่น เคล้าจนเข้ากันดีแล้ว เป็นอันเสร็จสรรพ ตักเสิร์ฟพร้อมแตงกวาและต้นหอม

ราคาอาหารบ้านมณี
ปลากุแลพล่า 80 บาท
ปลาทูต้มบีบน้ำมะนาว 80 บาท
หมึกต้มน้ำดำ 120 บาท
ต้มส้มปลาทู 80/120 บาท
ห่อหมกปู-ปลา 100/150 บาท




Create Date : 26 ตุลาคม 2551
Last Update : 26 ตุลาคม 2551 14:59:17 น. 3 comments
Counter : 1037 Pageviews.

 
เขียนรายการ เพียบเลย ท่าทางจะน่าทาน มากๆ ถ้ามีรูปคงจะน้ำลายไหลมาก่านี้ อีกค่ะ ไง ต้องไปลองบ้างเเล้ว


โดย: CinnamonGal วันที่: 26 ตุลาคม 2551 เวลา:16:08:45 น.  

 


โดย: chalawanman วันที่: 26 ตุลาคม 2551 เวลา:17:16:50 น.  

 
รีวิวได้น่าทานมากเลยค่ะเนี่ย ชอบไปชลบุรียามว่างเหมือนกันค่ะ บางทีก็ขับรถจากกรุงเทพฯ เพื่อไปทานอาหารทะเลแล้วก็ขับกลับ ไว้ถ้าว่างไปอีกคงต้องไปชิมร้านนี้ซะแล้วสิคะ


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 26 ตุลาคม 2551 เวลา:18:05:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

drunkcat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




กตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติจากพระครรภ์พระมารดาแล้ว ในที่สุดองค์สมเด็จพระประทีปแก้วใกล้จะถึงวาระที่จะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงบำเพ็ญบารมีมาครบ ๔ อสงไขยกับแสนกัป ควรจะได้เป็นพระพุทธเจ้า

ในวันหนึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสด็จประพาสพระราชอุทยาน ก็ทรงพบเด็กเกิดใหม่ วันต่อมาทรงพบคนแก่ คนป่วย แล้วก็คนตาย วันสุดท้ายทรงพบสมณะ

ความจริงเวลานั้นพระที่แต่งตัวแบบนี้ ไม่มีในโลก แต่ว่าเทวทูตทั้ง ๕ ที่เรียกกว่า เทวทูต คือ เด็กก็ดี คนแก่ก็ดี คนป่วยก็ดี คนตายก็ดี พระก็ดี ที่ปรากฏกับสายพระเนตรขององค์สมเด็จพระชินสีห์ เมื่อยังเป็นสิทธัตถะราชกุมาร ท่านบอกว่า เวลานั้นเทวดาแสดงขึ้นให้ปรากฏ ครั้นเมื่อองค์สมเด็จพระบรมสุคตเห็นคนเกิดยังเด็กเล็ก แล้วต่อมาพบคนแก่ แล้วก็พบคนป่วย แล้วก็พบคนตาย น้ำพระทัยขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาตรัสว่า

"โลกนี้ทุกข์หนอ ไม่มีอะไรเป็นสุข หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้"

ต่อมาวันสุดท้าย องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเห็นสมณะวิสัยก็เข้าใจว่าทางนิพพานมีอยู่ ทางนี้เป็นทางสิ้นทุกข์ เหตุฉะนั้นองค์สมเด็จพระบรมครูจึงได้ตัดสินพระทัยออกบวช นี่ขอเล่าลัดๆ นะ แต่ความจริงเรื่องนี้ยาวมาก
Friends' blogs
[Add drunkcat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.