เมื่อนิทาน..ไม่ได้เป็นเพียงแค่นิทาน..
เมื่อจินตนาการ..กลับกลายเป็นเรื่องจริง!

คือประโยคขายของหนังผีกระแสดีเรื่องนี้ ที่สร้างมาจากหนังสั้นเรื่อง Monster ของผู้กำกับเจนนิเฟอร์ เคนท์ ซึ่งก็มารับหน้าที่เขียนบทและกำกับหนังใหญ่ด้วยตัวเอง นำแสดงสุดจิตโดย เอสซี่ เดวิส และ โนอาห์ ไวส์แมน









ว่าด้วยเรื่องราว 6 ปีภายหลังจากการเสียชีวิตของสามี ทำให้อมิเลีย (เอสซี่ เดวิส) ต้องเลี้ยงดูแซมเมล (โนอาห์ ไวส์แมน) ลูกชายวัย 6 ปีของเธอเพียงลำพังอย่างยากลำบาก ทุกคืนเด็กชายมักจะถูกหลอกหลอนด้วยปีศาจในฝันร้ายที่เขาเชื่อว่าตั้งใจจะทำ ร้ายและมุ่งเอาชีวิตของตัวเองและแม่..

วันหนึ่งหลังจากได้อ่านนิทานก่อนนอนที่มีชื่อว่า ‘Mister Babadook’ แซมเมลก็มั่นว่าใจสิ่งมีชีวิตที่แสนน่ากลัวในเนื้อเรื่องคือปีศาจที่เขาฝันถึงทุกคืน.. จากเรื่องไร้สาระที่ดูเหมือนจะเป็นแค่จินตนาการของเด็กชายตัวน้อย กลับกลายเป็นประสบการณ์หลอนคาบ้าน เมื่อ 2 แม่ลูกพบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้ลำพังอีกต่อไป!!

(ขอบคุณเรื่องย่อจาก mthai.com)









เป็นอีกหนึ่งหนังผีที่น่าจะแบ่งเสียงออกเป็น 2 ฝ่ายคือ ชอบกับไม่ชอบ ถ้าชอบก็แสดงว่ารับได้กับความเป็นหนังผีดราม่าที่เน้นจิตวิทยาเป็นหลักบวกกับบรรยากาศหลอนๆ และการแสดงจิตๆ มากกว่าเน้นความน่ากลัว แต่ถ้าไม่ชอบก็คงผิดหวังที่คาดว่าจะได้เจอกับความน่ากลัวแบบจัดหนักเหมือนกับที่ค่ายหนังโฆษณา (ภาพยนตร์ขนหัวลุกเรื่องใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการกล่าวขานถึงว่าน่ากลัวกว่า The Conjuring และหลอนยิ่งกว่า Insidious)

เพราะกับฉากน่ากลัวนั้นก็ไม่ได้เน้นผีตุ้งแช่เสียงดังเข้าว่า และกว่าที่ปีศาจปลาดุก “บาบาดุค” (ที่ขอบอกเลยว่าในเรื่องสั้นน่ากลัวกว่าเยอะ) จะโผล่ออกมาก็เกือบท้ายเรื่องเข้าไปแล้ว แถมยังดูเหมือนว่า “คน” ในเรื่องนี้นั้นจะหลอนมากกว่าปีศาจด้วยซ้ำ!!








***อาจเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในบางส่วน***

สำหรับผมเป็นเสียงฝ่ายแรก เพราะชอบในความจิตของตัวละคร ก็อย่างที่บอกว่าหนังเน้นด้านดราม่าจิตวิทยาเป็นหลัก โดยก็เน้นหนักที่ความสัมพันธ์ของแม่-ลูกที่ตัวคนเป็นแม่นั้นมีปมทั้งรักทั้งเกลียดลูกตัวเอง เนื่องด้วยวันที่ลูกชายเกิดเป็นวันเดียวกับที่สามีตาย แม้ใจหนึ่งจะรักลูกมาก แต่อีกใจหนึ่งก็เกลียดลูกพอๆ กัน ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ในหลายฉากแม้จะไม่ได้แสดงออกมาโต้งๆ แต่สีหน้าและแววตามันก็ฟ้อง โดยจะเห็นชัดสุดก็ตอนช่วงหลังที่โดนปีศาจสิงว่าทุกคำด่าที่ออกมาจากปากมันเหมือนหลุดออกมาจากใจ!!









ส่วนตัวลูกชายนั้นก็มีปมทางจิตไม่แพ้กันที่น่าจะมาจากการเลี้ยงดูบวกกับปมใหญ่อย่างการไม่มีพ่อ ซึ่งมันก็เลยทำให้กลายเป็นเด็กเก็บกดออกแนวจะโรคจิตด้วยซ้ำ แบบว่าชอบใช้ความรุนแรง พูดจาตรงไปตรงมา และสุดท้ายทั้งดื้อทั้งซน (โดยเฉพาะเวลากรีดร้องที่เสียงแสบแก้วหูมากๆ) ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานั้นมันก็เลยทำให้ตอนช่วงแรกเราคนดูอาจจะเกลียดเด็ก(เวร)คนนี้ แต่สุดท้ายช่วงก่อนจบแม้จะยังคงความแสบ แต่เด็กแสบคนนี้ก็ทำให้เราหลงรักและรับรู้ได้ว่าเขารักแม่จากหัวใจ!! (แต่เอาเข้าจริงๆ ถ้าเกิดใครมีลูกแบบเด็กคนนี้ก็อาจทำให้ใกล้บ้าแบบนางเอกในเรื่องนี้ก็เป็นได้..)









กับด้านการแสดงถือว่าเป็น “ไฮไลท์” ของจริง ทั้งตัวแม่ (เดวิส) และตัวลูก (ไวส์แมน) นั้นแสดงความจิตได้แบบขั้นเทพมากๆ โดยเฉพาะเดวิสที่ช่วงครึ่งหลังนั้นแสดงได้จิตจัดหนักสมจริง จนทำให้เราคนดูอินและแทบจะกลัวแทนตัวละครลูกชาย









ส่วนกับฉากไคลแมกซ์นั้นก็ชอบมาก ทั้งตื่นเต้น น่ากลัว และลุ้นระทึก แบบว่าเอาใจช่วยตัวลูกชายสุดๆ (ที่ช่างรักแม่มากและเก่งเกินเด็กเสียเหลือเกิน) ซึ่งก็แทบทำให้อยากรู้ว่าหนังจะจบลงอย่างไร? และพอถึงตอนจบหักมุมสุดท้ายนั้นตัวผู้กำกับอาจต้องการความแปลกแบบไม่เหมือนหนังปีศาจเรื่องไหน?! มันก็เลยทำให้กลายเป็นตอนจบชวนเหวอแบบที่เห็น (จบเหมือนกับในเรื่องสั้นเปี๊ยบ) ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วมันก็แอบขัดใจอยู่บ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันจบแบบไม่ซ้ำใครจริงๆ (และมามองอีกมุมหนึ่งแล้วก็จะคิดได้ว่าเจ้าปีศาจจะไม่ออกไปทำร้ายใครอีกแล้วนั่นเอง)


สรุป The Babadook เป็นหนังผีดราม่าเน้นจิตวิทยาที่หลอนลึกเข้าไปถึงจิตใจและเด็ดสุดตรงนักแสดงนำ!!