|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
23 มีนาคม 2554 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
หนึ่งปีกับชีวิตนักศึกษา ป โท
ก่อนที่จะมาเรียนโท การพยาบาลผู้สูงอายุ เดิมทีฉันเป็นคนชอบอ่าน วารสารทางสุขภาพ หนังสือพวกให้ข้อคิดวิธีการด้านการใช้ชีวิตบ้าง ธรรมะบ้าง อ่านแล้วรู้สึกตื่นเต้น อยากทำ อยากสร้าง อยากพัฒนา อยากช่วยเหลือผู้คน อยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากับความยากลำบากของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ จึงได้สมัครเป็นสมาชิกวารสารสุขศาลาของ นพ โกมาตร ด้วยอยากทราบว่าด้านสาธารณสุข เขาทำอะไร ที่ไหน อย่างไร อ่านไปประมาณ 3-4 ฉบับ ก็ชื่นชม อยากทำ และนึกว่าตนเองเข้าใจมันลึกซึ้ง พอได้มาเรียนต่อ ปริญญาโท สาขาการพยาบาลผู้สูงอายุ ฉันก็ได้รู้ว่า หลายๆสิ่งที่คิดว่าง่าย อยากทำนั้น มันไม่ได้ทำง่ายๆเลย ต้องมีขึ้นตอน วิธีการ กระบวนการคิด กว่าจะเป็นผลงานหรือนวตกรรมสักชิ้น ออกมาให้ชื่นชมหรือสร้างประโยชน์ ที่แย่ไปกว่านั้น จากที่ฉันเคยมั่นใจในตัวเองสูง ด้วยความเคยเป็นนักเรียนเกียรตินิยมเหรียญทอง ของกระทรวงสาธารณสุข ความมั่นใจนั้นหดหายและความรู้สึกว่าตนเองนี้โง่มากมายเริ่มเข้ามาแทนที่ ไม่กล้าบอกใครๆว่า ฉันเคยได้เหรียญทอง อาย ๕๕๕๕ หลายๆงานทางด้านการเรียน ท้าทาย น่าสนใจในเนื้อหา แต่การเรียนรู้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะสถานที่ฉันเรียนเขาไม่ยอมรับเอกสารภาษาไทย ต้องสืบค้นหา เอกสารภาษาต่างประเทศ และต้องไม่ล้าสมัย ความยากลำบากจึงเกิดขึ้นอีกต่อเนื่องแต่ก็ไม่มีไร เกินความพยายาม
ในที่สุดฉันก็เริ่มชินตากับเอกสารภาษาต่างประเทศ ฉันเริ่มมองหา เข้าใจภาษาอังกฤษที่เขียนตามที่ต่างๆ เริ่มอ่าน journal ได้บ้างคร่าวๆ แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจของเหล่า อาจารย์ รองศาสดาจารย์ด๊อกเตอร์ อยู่ดี เนื่องจากฉันด้อยความสามารถในการถ่ายทอดสิ่งที่ฉันรู้ ที่ฉันเข้าใจให้คนอื่นๆเข้าใจเหมือนฉันได้ ไปๆมาๆฉันเริ่มปลงตก ความพยายามที่จะเป็นเลิศด้านการศึกษาเหือดหาย เหลือแค่ เอาตัวให้รอดให้ได้และสำเร็จก็พอ แย่ไปกว่านั้น การศึกษาเบียดบังเวลางานของฉัน จากความที่เป็นคนตั้งใจทำงานสูง กลายเป็นคนทำงานอย่างไรก็ได้ขอให้สำเร็จตามเวลาก็ดีถมไป ครอบครัวเริ่มมีปัญหาฉันพูดคุยกับคนในบ้านน้อยลง เพราะสนใจแต่ว่าต้องทำการบ้านอะไรบ้างนะ จะเสร็จทันป่าวนะ พอทำการบ้านเสร็จก็ต้องเดินทางไปเรียนสองถึงสามวัน กลับมาก็ทำการบ้านต่อ เป็นอย่างนี้อยู่ทุกสัปดาห์ จนเกือบสาย มารู้ตัวอีกทีก็เกือบไม่เหลือใครในชีวิต จนคิดได้ว่าหากจบปริญญาโทมาแต่ไมเหลือใคร จะจบมาสร้างประโยชน์ให้คนอื่นๆได้อย่างไร ในเมื่อฉันไม่สมาร์ทพอ การที่จะเผื่อแผ่หรือสร้างประโยชน์ให้คนอื่นได้ ตัวของเราเองต้องมีความสุขก่อนมิใช่หรือ ถึงจะได้เผื่อแผ่ความสุขไปให้คนอื่น หากตัวเราบ้านแตก ต่อให้จบปริญญาเอก จะมีประโยชน์อันใดเล่า
แต่ก็มีส่วนดีๆนะ วันนี้ฉันได้รับวารสารสุขศาลาอีกเล่ม คงเป็นฉบับสุดท้ายของความเป็นสมาชิกวารสาร ทีแรกก็มิได้เปิดอ่าน เนื่องจากขนาดตำราเรียนฉันยังไม่ได้เปิดอ่านเลย ฉันจะมาอ่านวารสารพวกนี้ได้อย่างไร สู้เอาเวลาไปอ่านตำราเรียนมิดีกว่าเหรอ แต่เมื่อความท้อ ความเบื่อ ความเหงาถึงจุดหนึ่ง จนไม่รู้จะทำไรก่อนหลังจึงหยิบมันมาอ่านเผื่อว่ามันจามีอะไรแปลกๆ หรือชาวบ้านที่ไหนเขาทำอะไรกันบ้าง สิ่งที่น่าภูมิใจเล็กๆก็เกิดขึ้น ฉันเห็น AIT ในวารสาร เส้นทางชีวิตของลุงคนนึงอายุ 67 ปี ที่ นายแพทย์คนนึงพยายามบอกเล่าเป็นภาษาชาวบ้านให้อ่านเข้าใจง่าย โดยแอบสอดแทรกวิชาการ หรือ เส้นทางความเจ็บป่วย หรือ Chronic trajectory และที่สำคัญ การอ่านวารสารของฉันคราวนี้เข้าใจ และรู้สึกว่าฉันพูดคุยเป็นภาษาเดียวกันกัน คนที่นำเสนอนวตกรรมต่างๆในวารสาร จากที่เคยมั่นใจว่าอ่านแล้วได้ไอเดียสนุก กลายเป็นอ่านแล้วเข้าใจความคิดคนเขียน ว่าเขาคิดอย่างไร และเห็นขั้นตอนการนำเสนอ ซึ่งตอนฉันเรียนโท ฉันว่า ยากมากๆ แต่วารสารกลับนำเอาสิ่งที่ยากมากๆมานำเสนอแบบเข้าใจได้ง่ายๆ ก็อดภูมิใจไม่ได้ ถึงแม้ว่าฉันมิอาจนำเสนอได้แบบเขา แต่ ฉันก็ได้เห็นว่า ฉันมาถูกทาง จากที่แค่อ่านและอืมดีนะๆ กลายเป็นอ่านแล้ว นี่มันAIT นี่นา นี่มันวิถีความเจ็บป่วยนี่นา และเขาเก็บอุบัติการณ์ก่อนนำเสนอนี่นา สรุปว่า ไม่ว่าจายากจากแย่ไง ก็คงเดินไปเรื่อยๆ เป็นวิถีการเรียนรู้ของคนที่ไม่ค่อยจารู้ ก็จะพยายามรู้ไปเรื่อยๆแบบงูๆปลาๆ แม้นว่าไม่ได้ดังความตั้งใจของเหล่าอาจารย์ที่พยายามจะมอบให้ แต่ได้แค่นี้ฉันก็ภูมิใจ
Create Date : 23 มีนาคม 2554 |
|
4 comments |
Last Update : 23 มีนาคม 2554 10:34:12 น. |
Counter : 2669 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: อินซูลิน 23 มีนาคม 2554 13:52:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมาบ้า IP: 1.2.255.250 7 พฤษภาคม 2555 19:38:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: Steventer IP: 51.210.176.129 10 เมษายน 2567 14:55:55 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
น้องสาวก็เรียนของ ม.บูรพาแบบนี้เหมือนกัน เป็นรองหัวหน้าตึก ลูกยังเล็ก เทียวไปบางแสนจนเบื่อ แต่ก็จบจนได้
ที่เล่าให้ฟังเพื่อจะบอกว่า มีคนอีกมากมายที่รู้สึกเช่นเดียวกับเรา ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยความมุ่งมั่นและอดทนของเรา สู้นะคะ เป็นกำลังใจให้