|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
หลิ่งหนานฮว่าพ่าย (嶺南畫派) : สกุลช่างศิลปะจีนยุค "เปลี่ยนแปลง"
"Change"..........
คำที่เป็นพระเอกมานานพอควร พอๆกับคำว่า Globalization (โลกาภิวัตร) ในวงการไหนๆก็เหมือนกัน เขาว่ากันว่าอะไรๆมันไปรวดเร็ว คนอยู่กับที่คือคนที่ถอยหลัง ตามไม่ทันเพื่อน น้ำที่มันขังนิ่ง...ไม่ช้าก็จะเน่า... ศิลปะจีน โดยเฉพาะด้านจิตรกรรม ทำกันมาตามประเพณี ย่ำอยู่กับที่หลายร้อยปีดีดัก.........คนวาดก็เบื่อ คนดูก็เซ็ง
ลัทธิขงจื่อทำให้เกิดศรัทธาแห่งการเคารพบรรพชน เคารพสิ่งที่บรรพชนสร้าง...........จึงหาคนกล้า "นอกครู" ยาก
แต่กรุงจีนรึจะสิ้นคนกล้า............ แหะ แหะ...ตามผมมาคร้าบ
............................................................
ลุ ค.ศ.1757 รัฐบาลราชวงศ์ชิงเปิดการค้าทางทะเลกับนานาชาติ (ตรงกับสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา รัชสมัยพระเจ้าอุทุมพร กรมขุนพรพินิต) ฝรั่งมังค่าเริ่มหาตลาดระบายสินค้ามาแถบเอเซียกันยกใหญ่ เมืองกว่างโจว ในมณฑลกวางตุ้งเป็นเพียงแห่งเดียวที่กฎหมายจีน อนุญาตให้เป็นเมืองท่าขนถ่ายสินค้าสู่จีน นาน 86 ปี...ตราบถึงปี ค.ศ.1843 (ตรงกับไทยสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์)
ด้านอุษาคเณย์ของจีนนี่แหละ รวมถึงมณฑลกวางตุ้งยุคใหม่ เรียกขานกันแบบลำลองว่า "หลิ่งหนาน" (嶺南) แปลตามศัพท์ว่า "เทือกเขาทางใต้" บรรดาปราชญ์ทางการเมืองที่สำคัญหลายคนได้อุบัติขึ้นในแถบนี้ เช่น คังโหย่วเหวย (康有為 1858-1927) และเหลียงฉี่เชา (梁啟超 1873-1929) ซึ่งเป็นพวกหัวก้าวหน้าต้องการสร้างระบอบรัฐธรรมนูญแทนระบอบจักรพรรดิ์ดั้งเดิม และ ดร. ซุนยัตเซ็น (孫中山,孫逸仙 1866-1925) ผู้สถาปนาสาธารณรัฐจีนในปี ค.ศ.1911
วิวัฒนาการของจิตรกรรมจีนแบบชาวกวางตุ้งเริ่มมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 แต่ยังไม่แพร่หลาย มาเป็นที่ยอมรับกันในระดับชาติเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 นี่เอง
..........................................
สองพี่น้องสกุลเกา....ผู้นำของ "สกุลช่างศิลปะหลิ่งหนาน"
เกาเจี้ยนฝู้ (高劍父 1879-1951) ได้เข้าสังกัดสมาคมถงเหมิงฮุ่ย (同盟會) ซึ่งก่อตั้งโดย ซุนยัตเซ็นเมื่อปี ค.ศ.1905 เป้าหมายคือปฏิวัติล้มล้างระบอบจักรพรรดิ์
หลังปี ค.ศ.1911 เกาเจี้ยนฝู้ได้อุทิศตนเพื่อการ "เปลี่ยนแปลง" โดยผ่านการวาดภาพ การเผยแพร่ผลงาน-เขียนบทความ การสอนลูกศิษย์ เขาสนับสนุนส่งเสริมพัฒนา "ภาพเขียนแบบจีนใหม่" ซึ่งเขากับสานุศิษย์ และน้องชายคือ
เกาฉีฟง (高奇峰 1889-1933) ได้พยายามรวมเอาสไตล์การวาดแบบดั้งเดิมให้ เข้ากับองค์ประกอบแบบเรียลิสติคของตะวันตก ผสมผสานกับแบบญี่ปุ่นยุคใหม่(เมจิ) จึงได้ศิลปะแนวใหม่ที่เข้าถึงประชาชนจีนในระบอบสาธารณรัฐจีนใหม่ ได้มากกว่าการวาดภาพแบบปัญญาชนยุคเก่าในอดีต
ทั้งคู่ได้พัฒนาการใช้สีและฝีแปรงอันรุนแรงที่ผลลัพธ์ออกมาเป็นเอกลักษณ์ ส่งอิทธิพลมากมายในหมู่จิตรกรทางภาคใต้
ยังมีจิตรกรอีกท่านหนึ่งที่จัดว่าเป็นผู้ร่วมบุกเบิกคือ
เฉินซู่เหริน (陳樹人 1884-1948)
ทั้ง 3 ท่านได้รับเกียรติเรียกว่า สามจิตรกรหลิ่งหนานผู้ยิ่งใหญ่ ("สองเกา หนึ่งเฉิน") 三大家 ("二高一陈") ทั้งสามท่านมีครูร่วมกัน ครูทั้งสองพี่น้องแห่งสกุล "จวี" นับเป็นผู้จุดประกาย ของสกุลช่างศิลปะหลิ่งหนานทีเดียว ขอเอ่ยนามเพื่อให้เกียรติแก่ จวีเฉา (居巢 1811-1889) กับ
จวีเหลียน (居廉 1828-1904)
จิตรกรอีกท่านหนึ่งที่โดดเด่นของสำนักนี้คือ
เจ้าเส้าอ๋าง (趙少昂 1905-1998) ผู้ร่วมสมัยและฝีมือฉมังนัก
............................................................
มีคำกล่าวจาก หวงพินหง (黃賓虹 1865-1955) จิตรกรร่วมสมัยท่านหนึ่งว่า
" สมัยถัง...เป็นดังส่าหมัก(เหล้า) สมัยซ่ง...เป็นดังสุรา สมัยหยวน...ลุมาตกต่ำ เป็นดังสุราผสมเจือด้วยน้ำ ยิ่งสมัยนี้ล่วงมา... น้ำยิ่งผสมมากขึ้น ในสมัยปัจจุบันนี้...รูปเขียน มีแต่น้ำ แต่ไร้สุรา ผู้เสพแล้วไม่อาจเมามาย ดูไปแล้วช่างดูดาดไร้รสชาติยิ่งนัก "
จิตรกรผู้นำในสกุลช่างศิลปะหลิ่งหนาน เสนอให้ก้าวกระโดดเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ โดยขอเอา "ธรรมชาติเป็นครู"....มุ่งพินิจพิจารณาวาดแบบ "เขียนจากของจริง"
คำสอนมีว่า
"折衷中外 ...."เจ๋อจงจงเว่ย์ 融合古今" .... หรงเหอกู่จิน"
("พินิจพิเคราะห์ใคร่ครวญถึงจีนและต่างชาติ ผสมผสานเอาอดีตให้เข้ากับปัจจุบัน")
คตินิยมของสกุลช่างศิลปะหลิ่งหนานมีความคล้ายคลึงกับทาง ลัทธิ "อิมเพรสชั่นนิสม์" คือ จับเอาวิญญาณของธรรมชาติมาทั้งรูปทรงและสีสัน สะท้อนเอามาจากของจริง คือเคารพในนฤมิตกรรมของธรรมชาติ สิ่งที่เห็นกับสิ่งที่วาดลงไปไม่มีความแตกต่างถึงขั้นขัดแย้งกัน รสชาติที่ได้รับถีงจะไม่เหมือนธรรมชาติ แต่ก็มีสิ่งสะท้อนจากวิญญาณแท้จริงของธรรมชาติ
แบบอย่างที่มาคือจากญี่ปุ่นและจากทางฝรั่งตะวันตกผสมผสานกัน ในสำนักอิมเพรสชั่นนิสม์ ก็ได้รับอิทธิพลการลงสีจากภาพพิมพ์ไม้ของญี่ปุ่น ส่วนญี่ปุ่นเองก็ได้รับอิทธิพลจากจีนหลายครั้งหลายครา จึงอาจกล่าวได้ว่า....
สกุลช่างศิลปะหลิ่งหนานเป็นการรับเอาวัฒนธรรมญี่ปุ่นยุคเมจิและตะวันตก หวนกลับมาสู่จีนอีกครั้งหนึ่ง ดังมีคำกล่าวว่า
"外師造化 ...."เว่ย์ซือเซ่าฮว่า 中得心源" .... จงเต๋อซินหยวน"
(ศึกษาอารยธรรมจากเบื้องนอก-ต่างชาติ ธำรงแก่นจิตใจดั้งเดิมของภายใน-จีน)
จขบ.ขอสรุปรวบยอดง่ายๆว่า.... แบบอย่างของจีน......เน้นหนักโดดเด่นที่เส้นฝีพู่กัน เส้นจะไม่ใช้เป็นเส้นร่างรูป แต่จะจุ่มสีแล้วแต้มป้ายปาดไปเลย วิธีแบบนี้เรียกว่าวาดแบบ "ไม่มีกระดูก" (沒骨) แบบอย่างตะวันตกและญี่ปุ่นยุคเมจิ...เน้นที่สีสันแสงเงากับเพอสเพ็คทีฟ
..................................................................
จะไม่พูดมากกว่านี้แล้ว ดูชมภาพเลย คงจะทำให้ทราบซึ้งกว่าที่ผมว่ามาข้างต้นครับ
ชุดแรกของ จวีเฉา (居巢) 3 ภาพ
1
ลั่วหยางฮวา
2
ปลาตระกูล catfish
3
นกกระยางคู่
....................................................
ชุดที่ 2 ของ จวีเหลียน (居廉) 2 ภาพ
4
ใบบัวห่อดอกไม้
5
ดอกโบตั๋นกับแอสเตอร์
....................................
ชุดที่ 3 ของ เจ้าจือเชียน (赵之谦) 2 ภาพ
6
ดอก...(ไม่รู้จักชื่อ)
7
ดอกโบตั๋นกับกุหลาบ
.......................................
ชุดที่ 4 ของ เกาเจี้ยนฝู้ (高劍父) 4 ภาพ
8
เหยี่ยวจ้อง
9
เสือคำรามใต้ดวงจันทร์
10
ฟักทอง
11
บัวขาว
...............................................
ชุดที่ 5 ของ เกาฉีฟง (高奇峰) 6 ภาพ
12
ฝนคราวสันต์ ต้นหลิวริมบึง
13
นกอินทรี
14
วานรชมจันทร์
15
ม้าขาวกับแรกหิมะ
16
ภาพทิวทัศน์
17
พระโพธิธรรม(ตั๊กม้อ) เพ่งกำแพง
................................................
ดูว่าบล๊อกจะยาวเกินไปแล้ว
ขอต่อคราวหน้านะครับ
จะเป็นภาพเขียนของ เฉินซู่เหริน กับ เจ้าเส้าอ๋าง
รับรองสวยสะเด็ดยาดแน่นอน.....
............................................................
ก่อนจบฟังเพลงเพราะๆสักเพลง มีบรรยากาศของจีนที่รับเอา วัฒนธรรมตะวันตกทางดนตรีและบัลเล่ต์มาแสดง เป็นการปรับ จิตสำนึกของประชาชนให้เข้ากับระบอบการเมืองการปกครอง แบบฝรั่ง ปลุกใจและเร้าใจทีเดียวครับ
การแสดงบัลเล่ต์ประกอบเพลง Yellow River Concerto กระบวนที่ 4
ขอบคุณ You Tube ที่ส่งผ่านเพลงและการแสดงดีๆมาให้เราได้ชมกัน
..........................................................
Create Date : 04 กันยายน 2553 |
Last Update : 6 กันยายน 2553 23:11:38 น. |
|
31 comments
|
Counter : 5993 Pageviews. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 4 กันยายน 2553 เวลา:0:31:39 น. |
|
|
|
โดย: SevenDaffodils IP: 65.160.41.6 วันที่: 4 กันยายน 2553 เวลา:4:29:26 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:7:19:05 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:8:07:00 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:8:32:17 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:9:08:50 น. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:19:15:35 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 6 กันยายน 2553 เวลา:7:05:23 น. |
|
|
|
โดย: น้องหมี (Bkkbear ) วันที่: 6 กันยายน 2553 เวลา:9:45:14 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กันยายน 2553 เวลา:10:55:01 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:8:01:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:10:18:23 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:13:21:18 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:18:16:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:7:55:21 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:6:41:19 น. |
|
|
|
โดย: น้องหมี (Bkkbear ) วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:15:20:52 น. |
|
|
|
โดย: JC2002 วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:23:53:35 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:5:32:10 น. |
|
|
|
โดย: Dingtech วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:9:02:34 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:10:28:10 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:7:55:45 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:8:39:21 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:16:56:55 น. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:22:57:57 น. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:23:00:20 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:9:07:57 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:10:14:27 น. |
|
|
|
โดย: อภิเดช สารชู IP: 223.24.68.140 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2560 เวลา:13:38:56 น. |
|
|
|
โดย: อภิเดช สารชู IP: 223.24.68.140 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2560 เวลา:13:39:47 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]
|
◉ ภุมราท้าโลกกว้าง . . เกินฝัน
หวังวาดสู่สวรรค์ . . . . . เวิกโพ้น
แท้คืนสู่สามัญ . . . . . . มละตื่น
ยังฉงนงวยโงกโง้น . . . .โง่ตื้นลืมตาย ฯ
Dingtech :
ผมเป็นคนธรรมดา ธรรมดา มาจากบ้านนอก รักศิลปะทุกชนิด ทุกรูปแบบ ทุกสัญชาติ
รักชาติไทย รักประเทศไทย รักคนไทยทุกคน จงรักภักดี และ เคารพสักการะพระมหากษัตริย์ไทย
ยินดีแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆทุกคนครับ
since 16 December 2009
|
|
|
|
|
|
|
|
ผมนั้นชอบภาพวาดภู่กันจีนนี้จริงเลยครับ
ดูไม่ยุ่งยาก (ในการวาด) ตามควคามคิดผม
แต่ไม่เคยทำได้หรอก....ผมจึงชอบเก็บเอารูปภาพแบบนี้เอาไว้มากมายครับ...จากของคุณดิ่ง...และ วินิจสิริ ครับ...เอาไว้ดู บางทีก็พิมพ์
รวมๆกัน มีความสุขดีครับ....แต่ถ้าจะมาวิเคราะห์ถึงความหมาย
และอารมย์แห่งภาพ...ยังไม่สามารถเลยครับ
.................................................................
คุณดิ่ง สบายดีนะครับ