แกงไก่ใส่หน่อไม้ฝอย มาแกงไก่ใส่หน่อไม้ฝอยไปทำบุญวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษากันนะครับ เครืองปรุง หน่อไม้หวาน 2 หน่อย่อม ๆ หน่อไม้หวานเกิดจากการทำขึ้นโดยเอาปี๊บที่เปิดก้นแล้วไปครอบหน่อไม้ไผ่ตงแล้วกรอกขี้เถ้าแกลบลงไปจนเต็มปี๊บรอจนยอดหน่อโผล่ปี๊บขึ้นมาก็ตัดได้ วิธีสังเกตดูถ้าหน่อหวานสีของหน่อจะมีสีเขียวและเหลืองและไม่ค่อยมีขน ถ้าเป็นหน่อไผ่ตงธรรมดาจะสีน้ำตาลและมีขนมาก ๆ ไก่อ่อน 1 ตัว (ใช้ไก่ชนหรือที่เรียกกันว่าไก่บ้าน) จะอร่อยกว่าไก่อื่น ๆ วิธีสังเกต ให้ดูช่วงของน่องจะยาวมาก แข้งจะสีดำ ถ้านอกเหนือไปจากที่กล่าวมานี้เป็นไก่ไม่แท้ (พันธุ์ผสมทั้งสิ้น) คอยาว น้ำหนักประมาณกิโลกว่า ๆ น้ำปลาดี ครึ่งถ้วย น้ำตาลปี๊บ ครึ่งช้อนโต๊ะ น้ำกระทิ คั้นจากมะพร้าวขูด หนึ่งกิโลครึ่ง แยก หัว - หาง ใบโหระพา 5 ต้น เด็ดใบเตรียมไว้ ใบนะกรูด 6 ใบ ฉีดเอาก้านใบออกและฉีกซอยให้เล็ก พริกชี้ฟ้า 10 เม็ด หั่นแฉลบ หน่อไม้ไผ่ตงหวานปอกเปลือกออกสับฝอย (สับแบบสับมะละกอทำส้มตำ)สับเตรียมไว้ ไก่สับเป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้ เครื่องน้ำพริก ตะไคร้ 4 ต้น หั่นซอยฝอย หอมแดง 6 หัว ปอกเปลือกออก กระเทียมไทย 25 กลีบ ปอกเปลือกออก กะปิดี 1 ช้อนโต๊ะ ผิวมะกรูด หนี่งในสี่ของผล ซอยละเอียด ข่า 1 แง่งเล็ก ๆ หั่นเป็นแว่น ๆ บาง ๆ (ประมาณ 25 แว่น) พริกชี้ฟ้าแห้ง 10 เม็ด พริกขี้หนูจินดาแห้ง (แบบเม็ดยาว) 10 เม็ด พริกไทยดำ 1 ช้อนชา เกลือสมุทรชนิดเม็ด 2 ช้อนชา วิธีตำน้ำพริก ให้ตำเกลือกับผิวมะกรูดก่อนแล้วใส่พริกไทยดำ ตำไป ใส่ข่ากับตะไคร้ตามไป ตำให้เกือบละเอียด ฉีกพริกแห้งทั้งหมดใส่ลงไปเลย (โดยไม่ต้องแช่น้ำ) ตำต่อไป แล้วค่อยใส่กระเทียมกับกะปิ ตำต่อไปจนละเอียด ใส่หอมแดงตอนท้ายสุด ตำจนกว่าพริกจะละเอียดดีก็ใช้ได้ (ดูว่าผิวพริกละเอียดหมดมั้ยถ้าหมดก็ใช้ได้) พักไว้ วิธีทำ นำหางกระทิใส่หม้อพร้อมไก่สับตั้งไฟพอเดือดใส่หน่อไม้สับ เคี่ยวต่อไปซักพักให้หน่อไม้สุกปิดไฟ พักไว้ นำหัวกระทิใส่กระทะพร้อมน้ำพริกคนให้น้ำพริกละลายในหัวกระทิจนทั่วเปิดไฟแรง ๆ คนอยู่บ่อย ๆ ต้องระวังอย่าให้น้ำพริกไหม้ ผัดไปจนกว่ากระทิจะแตกมัน ผัดจนแตกมันมาก ๆ ก็นำไปเทลงหม้อที่พักไว้นำขึ้นตั้งไฟใหม่พอเดือดใส่น้ำปลาดี น้ำตาลปี๊บ ชิมดูรสตามชอบ แล้วค่อยโรยใบมะกรูด พริกชี้ฟ้า และใบโหระพาเป็นอันดับสุดท้ายคนให้ทั่วแล้วยกลง เป็นอันเสร็จ ตักไปทำบุญได้ ไปทำบุญที่วัดกันได้เลยครับ ขอให้ผู้ที่ได้เข้ามาชมจงได้รับผลบุญที่ผมได้ทำในวันนี้โดยทั่วทุก ๆ คนครับ   Create Date : 21 กรกฎาคม 2556     Last Update : 22 กรกฎาคม 2556 8:27:46 น. Counter : 4693 Pageviews.   4 comment Share Tweet

ชมวัตถุมงคลชนิดต่าง ๆ ของหลวงปู่บุญ (พระพุทธวิถีนายก) ชมบริเวณวัดกันมาทั่วแล้วนะครับ ตอนนี้มาดูวัตถุมงคลกันบ้างดีกว่า ในพิพิธภัณฑ์นี้มีที่ออกจากวัดนี้ทั้งหมดแต่มากมายจนถ่ายรูปไม่ไหว ผมจึงถ่ายมาเฉพาะของหลวงปู่บุญเท่านั้น ครับ รูปถ่ายของหลวงปู่บุญ ขันธโชติ (พระพุทธวิถีนายก) ผมได้ถ่ายมาพร้อมคำบรรยาย ขอเชิญอ่านและชมได้ตามสบายเลยนะครับ ต่อจากนี้ก็เข้าชมห้องเก็บคัมภีร์และผ้าห่อคัมภีร์ผมถ่ายภาพมาให้ชมบางส่วนเท่านั้นเพราะถ่ายภาพได้ยากมาก สมาชิกส่วนใหญ่จะเจาะจงมาชมที่ห้องนี้ ผ้าห่อคัมภีร์ที่ทำมาจากผ้าตาด ผ้าห่อคัมภีร์ที่ทำมาจากผ้าเยียรบับ พานแว่นฟ้า กล่องลายรดน้ำใส่พระปาติโมกข์ ตูพระธรรมลายรดน้ำ กระจกภาพ ขอจบการนำชมพิพิธภัณฑ์พระพุทธวิถีนายก ไว้แต่เพียงเท่านี้นะครับ พบกันใหม่ ในตอนต่อไปครับ   Create Date : 20 กรกฎาคม 2556     Last Update : 20 กรกฎาคม 2556 22:50:43 น. Counter : 2777 Pageviews.   2 comment Share Tweet

ชมบริเวณวัดกลางบางแก้ว ชมภายในพิพิธภัณฑมามากแล้วออกไปเดินชมบริเวณวัดกันดูบ้างนะครับ เดี๋ยวจะเบื่อเสียก่อน ที่เด่นดังในวัดนี้คือหอไตรกลางน้ำซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ พ.ศ. ๒๓๖๘ โดยช่างชาวไทยและจีน หอไตรกลางน้ำในมุมต่าง ๆ พระพิฆเณศหน้าพิพิธภัณฑพระพุทธวิถีนายก ทางเดินลงไปยังท่าน้ำจากหน้าพิพิธภัณฑ์ ฯ บริเวณวัด มณฑปพระพุทธบาทยอดทรงมงกุฎ กระโจมแตร ศิลปะปูนปั้นประดับกระเบิ้อง บริเวณวัดเป็นตลาดนัดตอนเช้านี่ตลาดวายแล้ว ศาลาท่าน้ำริมแม่น้ำนครชัยศรี อุโบสถทั้งหลังเก่าและหลังใหม่ อุโบสถเก่าและเจดีย์ไม้สิบสองที่บูรณะใหม่แล้ว มองไประหว่างโบสถ์เห็นยอดพระเจดีย์ มองไปทางขวาเห็นมณฑป หอระฆัง หายเบื่อแล้วเดี๋ยวแวะเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์กันต่อนะครับ พบกันตอนหน้าครับ   Create Date : 20 กรกฎาคม 2556     Last Update : 20 กรกฎาคม 2556 11:21:45 น. Counter : 1010 Pageviews.   0 comment Share Tweet

เที่ยววัดกลางบางแก้ว วัดกลางบางแก้วมีชื่อเดิมว่าวัดคงคาราม เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ได้รับการก่อสร้างและบูรณะติดต่อกันมาโดยตลอด วัดนี้อยู่ติดกับแม่น้ำนครชัยศรี บริเวณปากคลองบางแก้ว เมื่อครั้งที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้าเสด็จมาวัดคงคารามได้ประธานชื่อให้ใหม่ว่า " วัดกลางบางแก้ว " เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๕ ซึ่งตรงกับสมัยที่หลวงปู่บุญ (พระพุทธวิถีนายก) ครองตำแหน่งเจ้าอาวาสพอดี ท่านมีฉายาว่า "ขันธโชติ" เป็นเจ้าอาวาสปี พ.ศ. ๒๔๒๙ - พ.ศ. ๒๔๗๘ รูปปั้นพระพุทธวิถีนายก (บุญ ขันธโชติ) บริเวณส่วนจัดแสดงวัตถุมงคลต่าง ๆ ของท่าน รูปหลวงปู่บุญ ขันธโชติ ( พระพุทธวิถีนายก ) เราจะขึ้นไปชมบนชั้นที่ ๒ กันก่อนนะครับ ส่วนที่จำลองกุฎีของท่านในอดีต จำลองห้องของพระพุทธวิถีนายก ( บุญ ขันธโชติ ) จำลองห้องของพระพุทธวิถีนายก ( เพิ่ม ปุญญวสโน ) และพระครูสิริชัยคณารักษ์ จากนี้ไปก็จะชมพิพิธภัณฑ์ไปเรื่อย ๆ บาตรสังคโลก ใส่ข้าวสุกไว้ไม่บูดเน่า เราจะไปชมห้องเครื่องประดับมุก เก้าอี้มุก เตียง ดูภาพเก่า ๆ ในส่วนจัดแสดงส่วนกุฎีของหลวงปู่บุญ และหลวงปู่เพิ่มกันนะครับ ภาพถ่ายมณฑปพระพ่ทธบาทยอดมงกุฎในวัด พระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ต่อไปก็จะเดินชมส่วนจัดแสดงพระพุทธรูปต่าง ๆ พระชัยวัฒน์ พระไม้แกะสลัก พระมาลัย พระทรงเครื่องใหญ่ พระปางห้ามสมุทร ตู้พระพุทธรูป เจดีย์แบบต่างๆ พักการชมภายในพิพิธภัณฑสถานกันแค่นี้ก่อนนะครับ ไปเดินชมบริเวณวัดกันดูบ้างในตอนหน้าครับ   Create Date : 19 กรกฎาคม 2556     Last Update : 20 กรกฎาคม 2556 10:26:33 น. Counter : 2030 Pageviews.   0 comment Share Tweet

อาหารเม็กซิกัน (ชิลี่คอนคาเน่) ขอบอกสูตรอาหารเม็กซิกันที่แปลกและอร่อยมีคุณค่าทางโภชนาการเพียบเลย มีชื่อเรียกว่า "ชิลีคอนคาเน่" ตามปกติเป็นอาหารที่ใช้เนื้อวัวสับ ถ้าคนที่ไม่กินเนื้อสามารถเปลี่ยนเป็นหมูก็ได้ไม่แปลกอะไรนะครับ เครื่องปรุง ถั่วแดงต้มเปื่อย 4 ถ้วย เนื้อวัวบดหรือเนื้อหมูบด 1.5 ถ้วย ผงกะหรี่ตราปืนไขว้ 3 ช้อนชา กระเทียมไทยทุบทั้งเปลือกแล้วสับละเอียด 1 ใน 4 ถ้วย กระเทียมจีนปอกเปลือกสับละเอียด ครึ่งถ้วย เนยสดรสเค็ม 2 ใน 3 ถ้วย หอมใหญ่สับละเอียด 1.5 ถ้วย Ketchup (ซอสมะเขือเทศ) 3 ถ้วย เกลือป่น 3 ช้อนชา พริกขี้หนูแห้งป่น 3 ช้อนชา น้ำมันมะกอก 1 ใน 4 ถ้วย วิธีทำ นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันมะกอกลงไปใส่กระเทียมไทยสับเจียวจนหอมดีใส่เนื้อหรือหมูผัดจนเกือบสุกใส่ผงกะหรี่แล้วตามด้วยหอมใหญ่สับผัดจนสุกใส่ถั่วแดงและเนยคลุกให้เข้ากัน เมื่อเข้ากันดีใส่ซอสมะเขือเทศคลุกเคล้าให้ทั่วแล้วจึงใส่พริกป่นและเกลือป่นคลุกให้เข้ากันอีกที ปิดไฟได้ ทิ้งไว้สักพักหนึ่งพออุ่น ๆ จึงใส่กระเทียมจีนสับคลุกให้ทั่ว วิธีรับประทาน ใช้ขนมปังแผ่นบาง ใช้ขนมปัง Whole Wheat จะมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าขนมปังที่ใช้แป้งธรรมดา ย่างไฟพอเหลืองแล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ ตักชิลี่คอนคาเน่วางข้าง ๆ แล้วค่อย ๆ ตักรับประทานควบกันไปขนมปังจะกรอบดี (ไม่นิยมให้ราดลงบนขนมปัง ๆ จะนิ่มไม่อร่อย) หรือถ้าไม่นิยมขนมปังปิ้งก็สามารถรับประทานเหมือนแซนวิชได้ โดยนำขนมปังที่ไม่ปิ้งมา 1 แผ่น ตักชิลีคอนคาเน่วางลงบนขนมปังจนทั่วแผ่นแล้วจึงนำมาอีก 1 แผ่นประกบด้านบน เคล็ดลับ ถั่วแดงใช้ถั่วแดงหลวง (เมล็ดโต) แช่น้ำไว้ก่อนหนึ่งคืนจึงนำไปต้มต้องต้มให้เปื่อยเลยนะครับ ถ้าถั่วไม่เปื่อยจะไม่อร่อย ใช้เวลามากหน่อย ใครไม่ชอบเผ็ดให้ใช้ ปาปริก้า หรือใครชอบเผ็ดมาก ๆ ก็สามารถเพิ่มพริกอีกได้ตามชอบ   Create Date : 19 กรกฎาคม 2556     Last Update : 19 กรกฎาคม 2556 8:34:32 น. Counter : 3700 Pageviews.   4 comment Share Tweet