วันนี้ ทุกจอคอมพิวเตอร์ ในบ้านคุณ
รีวิว : Amy เพลงแจ๊สอันแสนเศร้า


เพลงของ เอมี ไวน์เฮ้าส์ เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก แต่กับตัวเธอ น้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้รู้จักตัวตนที่แท้จริง ชีวิตของเอมี่ขึ้นสู่จุดสูงสุดก่อนจะลงสู่จุดตํ่าสุดอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย ปลายปี2007 เธอได้รับรางวัลแกรมมี่อวอร์ดส์ ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพนักร้อง ต่อมาเดือนกรกฎาคมปี2011 เอมี่ เสียชีวิตในวัยเพียง 27 ปี จากไปโดยทิ้งผลงานระดับขึ้นหิ้งเอาไว้ เธอถูกจัดเข้า The 27 Club คลับที่รวบรวมศิลปินชายหญิงที่ตายตอนอายุ27 ร่วมกับตำนานหลายๆคนอย่าง จิมิ เฮนดริกซ์ , จิม มอริสัน และ เคิร์ท โคเบน เป็นต้น ส่วนตัวไม่ใช่แฟนเพลงของเธอ รู้จักอยู่เพลงเดียวคือ Valery ทราบเพียงว่าเธอเป็นศิลปินสาวเสียงดีแต่มีข่าวเสียหายเรื่องความรักกับเหล้ายาบ่อยๆ

Amy ภาพยนตร์สารคดีชีวิต เอมี ไวน์เฮ้าส์ นักร้องสาวชาวอังกฤษเชื้อสายยิวกำกับโดย อาซิฟ คาปาเดีย หนังเรื่องนี้จะทำให้คุณได้รู้จักเธอมากขึ้น เขานำฟุตเทจของผู้คนรอบตัวที่เคยถ่ายคลิปและภาพ เอมี่ มาร้อยเรียงเป็นหนัง ซึ่งเปิดเผยทุกแง่มุมในชีวิตของเธอละเอียดยิบชนิดที่บางเรื่องแฟนเพลงตัวยงของเธอก็อาจไม่รู้มาก่อน เอมี่ เป็นคนน่าสงสารมาก แน่นอนเธอเป็นเด็กมีปัญหา การหย่าร้างของพ่อแม่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ เอมี่ เริ่มมีอาการของโรคซึมเศร้า ตั้งแต่วัยรุ่นเธอก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้ชาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้ามาหาประโยชน์จากพรสวรรค์ด้านการร้องเพลงของเธอ ผู้ชายคนแรกที่มีบทบาทในชีวิต เอมี่ คือ  Nick Shymansky ผู้จัดการส่วนตัว เขาดูเป็นคนที่หวังดีและจริงใจกับเธอมากกว่าใคร การแยกกับเขาจึงถือเป็นหายนะอย่างหนึ่ง

Raye Cosbert ผู้จัดการส่วนตัวคนที่สองมีส่วนกับปัญหาสุขภาพของเธอ เขาเป็นอดีตคนโปรโมตคอนเสิร์ต สองสิ่งที่เขามอบให้เธอจึงคือ คิวเดินสายเล่นคอนเสิร์ตน้อยใหญ่ตลอดปี และ การอยู่เฉยๆไม่เข้าไปยุ่มย่ามกับชีวิตของเธอ กับเขามันเป็นเรื่องธุรกิจล้านๆ (ต่างจาก Nick ที่คอยดูแล เอมี่ ทุกเรื่อง) ซึ่งเขาเข้าขากันดีกับ มิช ไวน์เฮาส์ พ่อตัวแสบเห็นแก่ได้ที่เอาแต่ฉกฉวยผลประโยชน์จากลูกสาว ไม่เคยห่วงใย ดูแล ปกป้อง เธออย่างพ่อที่ดีควรจะทำ (งานศพเธอเขายังพรํ่าถึงโปรเจกต์ต่างๆนานาในอนาคต) ส่วนคนสุดท้ายที่ทำลายชีวิต เอมี่ จนป่นปี้เป็น เบลค ฟิดเลอร์ สามีหนุ่มนิสัยเลวที่เธอรักสุดหัวใจขนาดยอมตายแทนได้ แมงดา เป็นคำนิยามสั้นๆซึ่งบอกตัวตนของเขาได้ชัดเจนที่สุด

ราวกับบทหนัง มีคนเลวก็ต้องมีคนดีบ้าง สองครั้งที่รู้สึกว่า เอมี่ มีความสุขจริงๆคือ ตอนที่เธอหนีไปเที่ยวเกาะนานครึ่งปี กับตอนที่ เอมี่ ได้ร้องเพลงกับ โทนี่ เบนเน็ตต์ นักร้องเพลงแจ๊สรุ่นใหญ่ ไอดอลในใจเธอ ผู้ชายดีๆที่ผ่านเข้ามา ไม่กี่คนซึ่งเธอเอ่ยปากชื่นชม น่าจะเป็นครั้งเดียวที่เราได้เห็น เอมี่ มีอาการประหม่า แถมยังถ่อมตัวมากๆ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเป็นคนเดียวกับที่เมาหนักขึ้นเวทีจนร้องไม่ได้ และทำให้คอนเสิร์ตต้องยกเลิกท่ามกลางเสียงก่นด่าของแฟนเพลงนับหมื่น 

หนังนำเสนอ เอมี่ ในมุมที่ดาร์คสุดๆ ไร้การปรุงแต่งสร้างภาพใดๆ ตีแผ่ศิลปินซึ่งล้มเหลวในการใช้ชีวิตออกมาได้น่าเศร้า ขณะที่อีกแง่นึงเธอก็เป็นเหยื่อของวงการบันเทิง สื่อรวมหัวกันรุมทึ้งจนนักร้องสาวแหว่งวิ้นเป็นชิ้นๆ หากผู้ชายในชีวิตเอมี่เปรียบได้กับหมาป่า นักข่าว พิธีกร และช่างภาพ ทั้งหลายก็คงเป็นอีแร้งที่น่ารังเกียจ กระนั้นเราก็ไม่อาจโทษทุกคนทั้งหมด เอมี่ น่าเห็นใจก็จริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งต่างๆที่เข้ามา ส่วนหนึ่งมาจากการที่เธอเลือกเอง ยื่นมือออกไปหามันเองทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น เซ็กส์ ยาเสพติด และ แอลกอฮอล์   

ก่อนดูหนังคุณอาจจะมองเธอในภาพ สาวกร้านโลก มั่นใจในตัวเอง ขี้เหล้าเมายา ออกเพี้ยนนิดๆ แต่เมื่อคุณดูหนังจบคุณจะพบว่า เอมี่ เป็นผู้หญิงที่เปราะบางที่สุดคนหนึ่งบนโลกใบนี้ เธอเป็นนักร้องสาวที่มีความสามารถ นํ้าเสียงไพเราะ เล่นดนตรีได้ แต่งเพลงเอง ขณะเดียวกันเธอก็ขี้อาย ขาดความมั่นใจ ไม่ภูมิใจในตัวเอง อ่อนแอ ขาดความอบอุ่น และบูชาความรักมากๆ 

ผู้กำกับใช้เทคนิคการถ่ายภาพมุมสูงของสถานที่ต่างๆที่ เอมี่ เคยไป มาตัดอารมณ์ผู้ชมไม่ให้เคร่งเครียดเกิน การนำเสียงของคนใกล้ตัวเธอมาบอกเล่าโดยไม่เปิดหน้าคล้ายกับการที่คนร้ายหรือพยานกำลังให้ปากคำตำรวจ บางครั้งผู้ชมอาจรู้สึกว่าพวกเขากำลัง แก้ตัว ไม่ก็ สารภาพบาป ชอบเพลงที่นำมาประกอบ เข้ากับช่วงชีวิตต่างๆของเธอสุดๆ เนื้อเพลงทุกตัว โน๊ตทุกโน๊ต จึงดูมีความหมายมากขึ้น หลอมรวมเป็นเพลงแจ๊สอันแสนเศร้าซึ่งบอกเล่าเรื่องราวได้ยอดเยี่ยมและทรงพลัง 

ชีวิตของ เอมี ไวน์เฮ้าส์ น่าจะเป็นบทเรียนให้ศิลปิน คนในครอบครัวดารา สื่อบันเทิง รวมถึงแฟนเพลงทุกคน เข้าใจความรู้สึกของคนดังที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในสังคม พวกเขา พวกเธอ แทบจะไม่มีเวลากับพื้นที่ส่วนตัวเลย เอมี่ ไม่รู้วิธีรับมือกับชื่อเสียง ยาซซิน เบย์ เพื่อนศิลปินพูดเตือนเธอบ่อยๆ น่าเสียดายที่เธอไม่มีมีโอกาสได้ยินประโยควรรคทองของ เบนเน็ตต์ ที่ว่า ถ้าใช้ชิวิตให้นานกว่านี้ เธอก็จะเข้าใจชีวิตมากขึ้น

คะแนน 8.5/10

โดย นกไซเบอร์

ตัวอย่างหนัง //movie.bugaboo.tv/watch/200816/?link=4



Create Date : 04 กันยายน 2558
Last Update : 4 กันยายน 2558 19:04:31 น. 0 comments
Counter : 1062 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

mninho
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




นกไซเบอร์ วิจารณ์หนัง
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add mninho's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.