สิวคือการอุดตันหรือมีการอักเสบของระบบต่อมไขมัน บนใบหน้าที่ดูเนียนๆแท้จริงมีขนเส้นเล็กๆ

อยู่มากมาย ขนทุกเส้นมีต่อมไขมันอยู่ชิดติดโคนต่อมไขมันสร้างไขมันหล่อเลี้ยงผิวปกป้องเชื้อโรคจากภายนอก

โดยส่งขึ้นมาตามท่อที่ทอดขนานชิดกับแนวเส้นขน ถ้าขนเส้นใญ่ๆโบกสะบัดแรง เช่น ตามแขนขา ท่อส่งก็ใหญ่ จึงไม่ค่อยอุดตันเกิดสิวถ้าขนเส้นเล็กละเอียด เช่นตามใบหน้า แผ่นหลัง ท่อไขมันก็เล็กการโบกพัดเคลื่อนไหวมีน้อย ทำให้อุดตันง่าย เมื่ออุดตัน เชื้อแบคทีเรียก็เจริญร่วมด้วยช่วยกันปล่อยสิ่งอักเสบระคายเคือง เกิดเป็นเป็นตุ่มแดงๆ บวนขึ้นมา อาจปวดร้อนๆเม็ดเลือดขาวภูมิคุ้มกันของร่างกาย จะมารุมล้อมทำลาย ก็ล้มตายกันทั้งคู่กลายเป็นหนอง

แล้วทำไมเป็นสิว สิ่งสำคัญคือฮอร์โมนที่ปรับตัวเพิ่มในวัยรุ่นซึ่งพบได้ทั้งชายและหญิง เร่งให้ต่อมไขมันทำงานหนักขึ้น อาจไหลไม่ทัน ช่วงอุดตันเชื้อแบคทีเรียชื่อ P.acne จะเข้ามาหาอาหารเพราะดูเหมือนมันชอบไขมัน แพ้ออกซิเจน ดังนั้น พออุดตันก็ลงตัวปักหลัก

แล้วทำไมไม่เป็นกันถ้วนหน้า ก็แล้วแต่เหตุปัจจัยอีกมากหลายมารักษาให้หายแล้วหาเหตุแก้ไข ไม่ให้เป็นอีก หรือเกิดน้อยที่สุดจะดีกว่า

การสั่งใช้ยาใดๆ เป็นวิจารณญาณของแพทย์ หรือ เภสัชเท่านั้น

ข้อมูลนี้เป็นเพียงเสมือนตำราหรือผู้ช่วยแพทย์ / ผู้ช่วยเภสัชกรในการแนะนำรายละเอียดวิธี การทายา ที่เป็นชื่อสามัญโดยทั่วไป เพื่อให้หลีกเลี่ยงระมัดระวัง ผลเสียของยามิให้เกิดอาการข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์หรือเกิดน้อยที่สุด ซึ่งเป้าหมายคือใช้อย่างได้ผลโดยปลอดภัยนั่นเอง

ห้ามการระบุชื่อยาหรืออาหารเสริมที่เป็นเครื่องหมายการค้าเฉพาะเข้ามาแทรกหรือนำไปดัดแปลงเป็นอื่น

หลักใหญ่ในการรักษาสิวก็คือ แก้อักเสบ สลายอุดตัน ป้องกันอุดตัน

วิธีแก้ปัญหา ช่วงอักเสบก็คงต้องใช้ยา ซึ่งมีขายเฉพาะที่ร้ายขายยาไม่มีที่ศูนย์บริการฯ เพราะศูนย์บริการมิใช่ร้านขายยา มียาอยู่ 3 รายการ

1. มารู้จัก Benzoyl Peroxide หรือเรียกง่าย ๆ ว่า BP

BP เป็นเครื่องมือฆ่าเชื้อโรคโดยทาแล้วมันจะปลดปล่อยออกซิเจนออกมา ส่วนเจ้า P.acne ตัวร้ายไม่ชอบO2 พอถูกออกซิเดชั่น ก็ต้องตายไม่มี ดื้อยา

ก็เอา BP แต้มหรือทาที่จุดอักเสบ

แต่ก็อาจระคายผิวที่บอบบางในบางคน ซึ่งดูเหมือนแพ้ แต่ก็อาจไม่ใช่

จึงต้องค่อยๆ ทดสอบแตะที่ท้องแขน หรือที่ติ่งหูดูสัก 5-10 นาทีก่อน หากไม่แพ้ คือ แดงแสบ หรือเป็นตุ่มขึ้นมา ก็น่าจะใช้ได้

แต่ผิวหน้าบอบบางกว่าท้องแขน ก็อาจแสบง่ายอยู่ดี

จึงใช้วิธีค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากน้อยไปหามาก ในผู้ที่ใจร้อนหากไม่แสบอาจทาบางๆ ต่อ

วันแรกทาทิ้งไว้ 5นาที แล้วรีบล้างออกโดย

ทำซ้ำทุก 6 ชั่วโมงแต่ละครั้งทาไว้ 5 นาทีล้างออก

หากไม่แพ้ลองเพิ่มเวลา

วันต่อมาเป็นทิ้งไว้ 10 นาที แล้วรีบล้างออก

ช่วงที่ทา BP อยู่ห้ามถูกแดด เพราะอาจทำ

ให้ผิวไหม้ เป็นแผลเป็น หรือผิวอักเสบลุกลามมาก

หากทำไม่ได้ก็ทำเพียงช่วงเช้าหรือก่อนนอน

วันที่ 3 เพิ่มเป็นทิ้งไว้15 นาที ล้างออก หากไม่แพ้ก็ทาซ้ำทุก 6 ชั่วโมงได้

วันที่ 4 จึงทาทิ้งไว้ก่อนนอนตลอดคืนแล้วก็อย่านอนเปิดไฟ ให้ UV มากระตุ้น เพราะนอกจากกระตุ้น BPให้เสริมระคายเคืองแล้วยังเกิดซึมเศร้าแทรกได้ การถูกแสงมากไปเขาว่าจะเป็นมะเร็งเต้านมอีกด้วย

ถ้ารู้สึกแสบแดงคันๆ ให้เอาน้ำมันวิตามินอีทาได้แล้วใช้อะไรล้างหน้า…อย่าใช้สบู่ยาหรือกรดผลไม้เพราะเพิ่มระคายผิว สบู่ยาจะฆ่าเชื้อดีๆ ที่คอยคุ้มกันผิว ทำให้เชื้อดื้อยาลุกลามเกิดอักเสบตามมาง่ายๆ แต่แก้ไขยาก

ก็ต้องสรรหาอะไรที่อ่อนๆ ไม่เป็นกรดด่าง ผสมสารคงความชุ่มชื่น เช่นSodium pca หรือ Zn pca อันนี้รู้กันอยู่แล้ว

ตอนฟอกก็อย่าขัดถูหน้ามากไป

อย่าเช็ดหน้าแรง…แค่ผ้าสะอาดซับให้แห้ง

ยังมีตัวที่ 2ที่เป็นคู่หู BP ช่วยฆ่าเชื้อโรค คือ Clindamycinหรือเรียกง่ายๆ ว่า Clinda

คลินดา ก็ต้องหาที่ร้านขายยา เพราะเป็นยา คลินดามักละลายในแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ก็เป็นตัวระคายเคืองอีกอย่างหนึ่งขณะเดียวกันก็ช่วยฆ่าเชื้อโรคด้วย Clinda เป็นปฏิชีวนะ เชื้อจึงดื้อยาง่าย

ใช้แล้ว ต้องต่อเนื่องจนสิวหายไม่ใช่ทาๆ หยุดๆ หรือใช้พร่ำเพรื่อ

อีกอย่างหมดอายุเร็ว แม้จะเก็บในตู้เย็น

จำไว้ว่า ยาหรือเครื่องสำอางใดๆ เมื่อเปิดใช้แล้วอายุที่เหลือก่อนเปิดจะลดลงไปเหลือเพียงครึ่งเดียว