คิดถึงกีฬา ผลบอล ฟุตบอล ดูเลยที่นี่
|
|||||||||||||
ความรู้ คอนโด พร้อมอยู่ | ซื้อสดกับกู้แบงค์ อย่างไหนดีกว่ากัน ความรู้ คอนโด พร้อมอยู่ | ซื้อสดกับกู้แบงค์ อย่างไหนดีกว่ากันครับ หลายคนคงมีปัญหาเรื่องการเเล่าลือกซื้อคอนโด ว่าจะซื้อแบบเงินสดหรือไม่กู้แบงค์มาก่อนดี เพราะว่าเจ้าของกระทู้ เก็บเล็กเก็บน้อย ก็ได้เกิดข้อสงสัย ว่าแบบไหนดีกว่ากัน ถ้างั้นเราลองไปดูความคิดเห็นของเพื่อนๆ ในกระทู้ Pantip กันดีกว่า ว่าจักมี แนวทางแก้ไข ไม่ก็ แก้ปัญหาได้อย่างไร? คำถาม (เจ้าของกระทู้) ในคราวนี้อยู่ในช่วงเก็บเงิน ระหว่างรอคอนโดสร้างเสร็จ อีกนานแสนนาน ด้วยกันว่างๆ ก็เลยลองคำนวณเงินในอนาคตคร่าวๆ ถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด ถึงวันโอนน่าจะมีเงินพอดีกับค่าโอน ซึ่งอาจจะเหระบือหมุนเวียนไม่กี่แสน พร้อมกับถ้าไปรวมค่าตกแต่งซื้อของ เงินน่าจักเกือบหมดเลย และถ้าแม้กรณีแบบนี้ คิดไม่ตกว่าจักกู้แบงค์ยอมเสียดอกดีไหม เพื่อสภาพคล่อง ปกติผมค่อนข้างจักงกกับอะไรพวกนี้ 55 คำถาม : ถ้าต่างว่าเป็นเพือนๆ จักปลงใจอย่างไร ระหว่างจัดสดเก็บเงินใหม่ กับกู้ยอมเสียดอกไป ใคร่ได้ความเห็น เผื่อเจอแนวทางไอเดียดีๆ ------------------------ ความคิดเห็นที่ 1 ผมเพิ่งซื้อ คอนโดไป สถานกราณ์ ตรงกันเป๊ะ ผมจ่ายก่อนครึ่งนึง อีกครึ่งเก็บไว้ต่อทุนกับ เผื่อฉุกเฉิน ความคิดเห็นที่ 2 เก็บเล็กเก็บน้อยเก็บเล็กเก็บน้อยถ้าสมมุติถึงวันนั้เป็นแน่แท้ ถ้าเป็นเรา ตกแต่งเราจักค่อยเป็นค่อยไป แต่งในสิ่งที่จำเป็นก่อน เพื่อเก็บเงินไว้ยามจำเป็นต้องใช้เร่งด่วน เราจะโอนเป็นเงินสด เพราะไม่ประสงค์เสียค่าธรรมเนียมในการจดจำนอง ไถ่ถอน ต่างๆ พร้อมทั้งดอกเบี้ย เราถือว่าไม่เป็นหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ ( คิดแบบคนที่กินเงินเดือน แต่ถ้าทำธุรกิจจักคิดตรงกันข้าม ) นอกเสียจากพอถึงวันนั้น เราไม่อาจเก็บได้ตามเป้าหมาย และไม่มีเงินหมุนเวียน ค่อยขอกู้ในวงเงินที่น้อยที่สุด ------------------------ ความคิดเห็นที่ 3 ซื้อเงินสดดีกว่า แม้จำเป็นแน่แท้ๆ ค่อยเอาคอนโดไปเข้าก็ได้ ------------------------ ความคิดเห็นที่ 4 ด้วยกันมีอยู่หลังหนึ่งเขาซื้อเอาไว้ผ่อนดาวน์ แต่ว่าพอครบกำหนด บ้านยังไม่เสร็จ เลยกำหนดไป เสียดอกเบี้ยไป 6000 บาท บ่นไม่เลิกเลย ------------------------  ความคิดเห็นที่ 5 ซึ่งปีแรกโปะโขๆ ให้เหละบือไว้ผ่อนต่อในปี 2 พร้อมทั้งปี 3 อีกนิดหน่อย จะได้ไม่โดนค่าปรับผ่อนหมดก่อน 3 ปี ถ้าสมมุติทำแบบนี้จะได้พอมีเงินสดในมือไว้หมุนได้ครับ ------------------------ ความคิดเห็นที่ 6 คิดว่าระบบช่วยเหเลื่องลือกันเองในครอบครัวเป็นระบบที่ดีครับ จะคิดดอกหรือไม่คิดดอกก็ตามใจ ( ส่วนผมกู้ยืมฟรีครับแล้วรีบใช้คืน เน้นการช่วยเหเลื่องลือกัน ) ------------------------ ความคิดเห็นที่ 7 แต่แม้จักเอาจริงๆๆ ผมพิจารณาว่า จะกู้หรือไม่ไม่กู้ คุณจักต้องดูเงื่อนไขดอกเบี้ยที่คุณได้รับ ตรงนี้ มันจะเป็นต้นทุนเงินทุน ( Cost of Capital ) แลกกับการที่คุณได้ถือเงินสด กับหลังจากนั้น ถ้าคุณมีแผน ที่จะเอาเงินสดไปใช้ทำอะไร ถ้ายังไงลองศึกษาเรื่อง Capital Investment Decisions ดูครับ แล้วจะตอบตัวเองได้ว่ากู้ดีหรือไม่เปล่า? ผมฟันธงให้ไม่ได้ ก็เพราะว่าเงื่อนไขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ------------------------ ความคิดเห็นที่ 8 ต้องผ่อนสิคะ ได้เงินมาใช้ ด้วยกันดอกเหตุด้วยกู้บ้านคอนโดถูกมากช่วงนี้ ซึ่งบางคนกู้บ้านคอนโด เพื่อเอาเงินส่วนต่างมาใช้กันเลยทีเดียว ------------------------ ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าซื้อเงินผ่อนจักดีในกรณีที่เราสภาพคล่องไม่สูงมาก กับเอาไว้สำรองเผื่อฉุกเฉิน หรือว่ามีแผนใช้เงินสดที่มีไปลงทุนสร้างกระแสเงินสด ------------------------ ความคิดเห็นที่ 10 สมมตซื้อบ้านไม่ใช่หรือด้วยเงินสด มีข้อดีก็คือ ไม่ต้องเป็นหนี้ ไม่ต้องมีภาระผ่อน ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย แต่ว่าก่อนที่จะนำเงินเก็บไปซื้อบ้านหรือไม่ก็คอนโด ควรที่จักกันเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน เพราะว่าถ้ามีเหตุให้ต้องใช้เงิน จักได้มีเงินสำรองมาใช้จ่าย พร้อมกับไม่ต้องหยิบกู้ยืมเงินให้เป็นหนี้เป็นสิน แต่ยังไงแล้ว ใคร่ให้เปรียบเทียบดูว่า ถ้าสมมุติเงินก้อนที่จักซื้อบ้าน เป็นได้นำไปลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย แบบนี้นำเงินไปลงทุน แล้วซื้อบ้านด้วยการขอสินเชื่อจะคุ้มกว่าครับ กับด้วยการซื้อบ้านด้วยการขอสินเชื่อ มีข้อดีคือ ดอกเบี้ยบ้านสมรรถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 1 แสนบาท พร้อมกับอาจจักใช้เงินเก็บปางบางส่วนมาดาวน์บ้าน เงินที่เหเลื่องลือทำเป็นใช้ตกแต่งบ้าน ใช่ไหมใช้จ่ายเพื่อเป้าหมายอื่นได้ ถ้ายังไงลองพิจารณาดูนะครับ จักซื้อด้วยเงินสด ใช่ไหมเงินผ่อน พร้อมกับขอแนะนำเพิ่มว่า เมื่อซื้อบ้านหรือคอนโดแล้ว ก็ค่อยๆ ซื้อตกแต่ง ซื้อเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ทีเดียวครับ #KExpert #home ------------------------  ความคิดเห็นที่ 11 เกี่ยวกับดอกเบี้ยบ้านนำไปลดหย่อนภาษีได้ 100,000 นั้นหมายความว่า แม้เอาดอกเบี้ยบ้าน 100,000 บาทไปหักเป็นการลดหย่อนค่าใช้จ่าย แต่ไม่ได้หมายความว่าภาษีหายไป 100,000 บาทนะครับ พร้อมทั้งถ้าสมมติทั้งปี คุณจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ 50,000 บาทพร้อมกับเอาดอกไปลดหย่อนภาษี ถ้าคุณฐานภาษี 10% เท่ากับประหยัดภาษีไป แค่ 5,000 บาท สรุปยังขาดทุนอยู่ถึง 45,000 บาท จากดอกเบี้ยที่ส่งให้ธนาคารครับ ความเห็นส่วนตัว คิดว่า การกู้บางส่วนครับ ควรกันเงินสำรองไว้เสริมสภาพคล่องในการทำธุรกิจสัก 6 เดือน + เผื่อค่าครองชีพไปสัก 12 เดือน ภายหลังนั้นเอาไปที่เหลือเลื่องไปซื้อครับ เพราะว่ากู้ให้น้อยที่สุดครับ เดือนไหนมีมาก โปะมากครับ อย่าไปมองเรื่องลดหย่อนภาษีเล็กๆ น้อยๆ ครับ ส่วนต่างยังไงก็ไม่คุ้มครับ พร้อมด้วยอีกอย่างที่ ผมไม่ค่อยชอบเลยนะครับ เวลาที่คุณให้คำแนะนำ ให้นำเงินไปต่อยอดดอกผลให้ส่วนต่างมันชนะดอกเบี้ยเงินกู้ หมายให้มองจริตแต่ละคนนิดนึงครับ เขาเป็น investment base เหรอ business base ครับ บางคนไม่มีประสบการณ์ลงทุนมาก่อน ทำยีลด์ให้ชนะ ดอกกู้ 7% + เงินเฟ้อ 5% + ค่าธรรมเนียมบริหารจัดการ 1% = 13% ด้วยกันถ้าถ้ายิ่งสถานการณ์พลิกกลับ กลายเป็นขาดทุนทั้ง 2 ทางเลย แล้วมันก็กลายเป็นสิ่งที่ย้อนแย้งของคำแนะนำผู้ให้คำแนะนำเองครับ ว่ามีภาระเงินกู้นะ ต้องจำกัดความเสี่ยงด้านการลงทุน บลาๆ ------------------------ ความคิดเห็นที่ 12 (เจ้าของกระทู้) สรุปสุดท้ายก็คงต้องดูสภาพคล่อง ตอนวันโอนจึงจะตกลงใจได้ เกิดเป็นคนมันช่างเหนื่อยแท้เหลา สู้กันต่อไปครับ ขอขอบคุณข้อมูลจาก เก็บเล็กเก็บน้อย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/homecondos
|
สมาชิกหมายเลข 2356883
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?] Group Blog All Blog
| ||||||||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||||||||||||
