ด้วยความที่อยากไปมาก  ก็แมชเลยจ้า ไม่สนคำขู่ของใครทั้งนั้น 555 ( สรุปว่าใบสมัครกับเอเจนซี่เราก็ทิ้งไป -- " )  มีเพื่อนขู่ไว้ เห้ย!โฮสที่เป็นชาติเดียวกับเรา อย่างนู้น อย่างนั้น    นี่ก็แบบอยากไปอ่ะ ยังไงก็จะไป  เพื่อความไม่เวิ่นเว้อ ยืดยาว  เอาเป็นว่า สรุปก็ได้ไปสมใจจ้า  แรกๆก็ดีงามไปหมดทุกอย่าง    ด้วยความที่พูดจาภาษาเดียวกัน เราก็ประเภทอะไร ยังไงก็ได้  อยู่กันไปสักพัก เห้ย มันไม่โอเคร  หลายๆสิ่ง เรียนก็ไม่ได้เรียน ,  อยากให้เฝ้าแต่บ้าน  มันใช่เรื่องปะวะ 

     จนผ่านไป 5 เดือน จึงตัดสินใจขอรีแมชตอนรีแมช โฮสบอก ก็อยากได้ออแพร์มาดู คนๆนึงที่บ้าน และ อยู่เป็นเพื่อนเค้า  โอเค ชัดเจนค่ะ  แต่มันไม่จบแค่นั้น  ก่อนที่เราจะตัดสินใจรีแมช เรามีแพลนว่าจะไปเที่ยวเยอรมัน   ทีนี้ปัญหาเกิดสิคะ  เพราะที่นั้น  จะจบสัญญา ต้องเขียนใบลาออก แล้วไปยื่นที่สถานีตำรวจ  เราก็กลัวมีผลกับวีซ่า   ก็เลยบอกโฮสว่าช่วยถามตำรวจให้หน่อยว่าจะมีปัญหามั้ย โฮสตอบมาแบบชัดเจน  ไปไม่ได้ก็ไม่ต้องไป ....  โห ซึ้งใจมากค่ะ  ( แต่เราพยายามโทรถามเอง สรุปว่าออกนอกประเทศได้ แต่เราเปลี่ยนแพลน ยกเลิกตั๋วเยอรมัน ทั้งหมด และ ไปบ้านญาติ แทน ) 

ระหว่างที่ทำงานจนกว่าจะครบสัญญาที่เหลือนั้น เราก็จะมีเวลา หาโฮสหนี่งเดือน พอดีมีบ้านนึงติดต่อมา  เราก็กะจะไป  โฮสก็แบบจริงๆจะไปก็ได้นะ ไม่ได้ไล่  แต่คือมันผิดกฏ ! เอาจริงนี่ก็กลัวนะ บอกตรงๆ กลัวทำผิด  สรุป เราก็ไม่ได้โฮสใดๆ ทั้งสิ้น  ก็เก็บกระเป๋ากลับบ้านจ้า เจ็บ ชอกช้ำระกำใจกันไป   เอาเป็นว่าจบไม่สวย  และแบบ เออกุเชื่อแล้วค่ะ ว่าไม่ควรเลือกโฮสสัญชาติ เดียวกัน    ///  

หลังจากกลับมา เราก็คิดนะ ว่าเห้ย เรามันแย่ ขนาดที่จะไปอยู่ร่วมกับใครเค้าไม่ได้เลย หรอ เรามันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ  เราคิดมาตลอด  เรากลับมาเป็นอารมณ์ แบบซึมเศร้า  คิดโทษตัวเองว่าทำไม ไม่อดทน    จนกระทั่งเราเริ่มฮึด หาโฮสใหม่อีกครั้ง  แล้วก็ได้มารู้ว่าออแพร์ คนที่ต่อจากเรานั้น ก็อยู่ได้แค่ไม่กี่เดือน แล้วก็ขอรีแมช จ้า พอเรารู้สาเหตุจากน้องออแพร์ คนนั้น  ก็ทำให้เราคิดว่า ตลอดว่า หลายๆ เดือนที่เรารู้สึกผิด รู้สึกแย่  แต่เอาเข้าจิงๆ สาเหตุทั้งหมด มันไม่ใช่จากเราคนเดียว  มันจากโฮสด้วย  นางเองนั่นแหละมั้งที่ไม่สามารถอยู่กับใครได้ จริงๆ โห พึ่งเห็นว่านอกเรื่องไปเยอะ 555 

อย่างที่บอกเรามาฮึดหาโฮสอีกครั้ง   ครั้งแรก แมชแล้ว ไปตรวจสุขภาพ เตรียมทำเรื่องขอวีซ่าแล้ว  แต่โดน โฮสเท จ้า ....  โห ชีวิตลำบาก   ก็พักไปอีก จนมาเริ่มหาโฮสอีกทีเดือน กค , สค  ช่วงนั้น   แต่ก็เหอะ ชีวิต มันไม่ง่าย  อุปสรรคเสมอ  พอได้ติดต่อโฮส ก็พบว่า โฮสมีหลายตัวเลือก  และ ขอ reference  จากบ้านเก่า  เอาแล้ว ซวยแล้ว จะเอาที่ไหนมาให้    

เราไม่สามารถเอาจากบ้านเก่าได้ เราเลยขอให้พี่คนนึงที่เราเคยไปช่วยเค้าเลี้ยงลูก ให้รับรองให้หลังจากโฮสได้อีเมล์จากพี่คนนั้นแล้ว โฮสก็skype มาคุย  เราก็ถามเรื่องทั่วไป   แต่ ! ตกใจ โฮสบอกไม่ให้เอาหมูเข้าบ้านนะ    เราแบบเห้ย โฮสเป็นมุสลิม หรอ   อินี่ก็กลัวนะ กลัวอยู่กะเค้าไม่ได้  แต่ก็อย่ากระนั้นเลย   อินี่ก็ตอบโอเค  แค่ไม่กินหมูในบ้าน  สบาย ( เด่วไปหากินข้างนอกเอา ) 

ระหว่างนั้นก็รอคำตอบจากโฮส  ว่าเค้าจะเลือกคนไหน   ก็มีดราม่าเกิดขึ้น  มีคนมาบอกว่าเราไปแย่งโฮสเพื่อนเค้า --"    ตัวเพื่อนเค้าแมชกะโฮสนี้แล้ว   อินี่ก็งงค่ะ เราเลยแบบ เออ ยังไงก็แล้วแต่ โฮสเป็นคนเลือก โฮสเป็นคนตัดสินใจ    สรุปโฮสก็มาตัดสินใจเลือก เรา และ จะดำเนินการทำวีซ่า   แล้วคือแบบ เราก็เจ็บๆ นิด  ที่หาว่าเราไปแย่งโฮสเค้ามา  ( เรื่องนี้ หลังจากเราไปถึงสวีเดน แล้ว เราก็ข้องใจ ถามโฮสแบบเปิดใจ เลยว่าได้คุยกะคนชื่อนี้ มั้ย  โฮสก็นั่งไล่ชื่อคนที่คุย มาสามสี่คน   เค้าถามเราว่ามีอะไรหรอ  เราก็เลยเล่าให้เค้าฟัง   คำตอบของโฮสคือ ทีแรกเค้าจะเลือกคนนั้น  แต่คนนั้นยังไม่สามารถเดินทางได้ในตอนนั้น  โฮสจึงมาเลือกเราเพราะเราสามารถเดินทางได้ทันที )  

พอรู้ว่าได้แมชกับโฮสปุ๊ป ก็ไปบอกแม่    แม่พูดสั้นๆว่าเอาอีกแล้วเหรอ ไม่เข็ดรึไง   เซอร์ไพร้สกว่านั้นอีก บอกแม่ไปว่า โฮสไม่กินหมูนะ  เปนมุสลิม  แม่ถึงกับมอง แล้วถามว่า เอาจิงเหร๊อะ ??  คิดดีๆนะเฟ้ย 

หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร  ติดตามตอนต่อไป