Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

2559 05 28 โรคตาแห้ง กรอ.จ.กพ หุ่นระบำชากังราว



 วันเสาร์ บ่ายสองโมง-บ่ายสามโมง วันดีเวลาดี ที่เราจะได้มาพบกัน ในรายการ " คุณหมอ ขอคุย (เรื่องดี ๆ ) "
สถานีวิทยุชุมชน เครือข่ายประชาชนกำแพงเพชร 100.25 mHz.
ดำเนินรายการโดย นพ.พนมกร ดิษฐสุวรรณ์
โทรศัพท์ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่ หมายเลข 055 - 714 417  

วันเสาร์นี้ คุยกันเรื่อง
๑. ความรู้สุขภาพ ... โรคตาแห้ง น้ำตาเทียม
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=25-05-2016&group=4&gblog=122

๒. ข้อคิดความเห็น เกี่ยวกับบ้านเรา ... สรุปการประชุม กรอ.จ.กพ หุ่นระบำชากังราว นวัตกรรมหนึ่งเดียวในโลก
https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1240871732595167.1073742165.100000170556089&type=3

https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1240871732595167.1073742165.100000170556089&type=3

๓. ข่าวสารการจัดงานในบ้านเรา  :

- วันเสาร์ ๒๘พค.๕๙ เวลา ๑๘.๐๐ น. การแข่งขันฟุตบอล กำแพงเพชรเอฟซี-ลำพูนวอริเออร์
ณ สนามชากังราวสเตเดี้ยม(ริมปิง)  ประตูเปิดและจำหน่ายบัตรเวลา ๑๗.๐๐ น.เป็นต้นไป (บัตรราคา ๕๐ บาท)
https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.813659008649777.100000170556089&type=3

- วันเสาร์ ๒๘พค.๕๙ (เสาร์ที่สองและที่สี่ของเดือน) เวลา ๑๘.๐๐– ๒๑.๐๐ น. ถนนคนเดิน “ฅนกำแพง”
//on.fb.me/24Aq5a8
https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1313045535377786.1073742195.100000170556089&type=3

- วันเสาร์ ๒๘ พค.๕๙ โครงการบรรพชาอุปสมบท ๗๗๐ รูป  ณ วัดคูยาง พระอารามหลวง จังหวัดกำแพงเพชร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกำแพงเพชร ศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร โทรศัพท์ ๐๕๕ - ๗๐๕๑๗๗ – ๙
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1045031005584792&set=a.123329937754908.32760.100002337089129&type=3&theater

- วันพฤหัสบดีที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙ เวลา ๐๗.๑๙ น. พิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์จำนวน ๓๐ รูป
และเจริญพระพุทธมนต์ ณ วัดคูยาง พระอารามหลวง จังหวัดกำแพงเพชร
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1045042265583666&set=a.123329937754908.32760.100002337089129&type=3&theater

“””””””””””””””””””””””””””””””
- เชิญร่วมบริจาคโลหิต  ณ ห้องรับบริจาคโลหิต ตึก 3 ชั้น 2 รพ.กำแพงเพชร ทุกวัน เวลา 08.30 - 16.00 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)  สอบถามรายละเอียด โทร 055 - 714 223 - 5 หรือ 081- 443 2550
https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.482651328417215.132977.100000170556089&type=3

- เชิญร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนการจัดตั้ง ห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารี จ.กำแพงเพชร
https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1110300495652292.100000170556089&type=3
- เชิญร่วมบริจาค จักรยาน (ใหม่-เก่า) โครงการ “สองล้อเพื่อน้อง ของขวัญเพื่อโลก" @ กำแพงเพชร
https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1133734349975573.100000170556089&type=3
- ขอสนับสนุน สถานีวิทยุเครือข่ายประชาชนกำแพงเพชร ( สคพ. ๑๐๐.๒๕ MHz)    
https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1240372449311762.100000170556089&type=3
- ตลาดเกษตรกร หน้าสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ทุกวันศุกร์ เวลา ๐๗.๐๐ - ๑๗.๐๐ น
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.625007547622776.1073741882.146082892181913&type=3
- ท่องเที่ยวเทศบาลเมืองฯ ด้วยรถไฟฟ้า จุดขึ้นรถบริเวณลานโพธิ์ ไม่ต้องจองล่วงหน้า และ ฟรี   
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.611450205645177.1073741877.146082892181913&type=3

๑. ความรู้สุขภาพ ... โรคตาแห้ง น้ำตาเทียม

"ตาแห้ง"
6 อาการ สัญญาณโรคตาแห้ง
1. คันตา แสบตา ระคายเคืองตา
2. รู้สึกเหมือนมีฝุ่นอยู่ในตา
3. แพ้แสง แพ้ลม
4. บริเวณตาขาวมีสีแดงจากการอักเสบ
5. ตามัวในบางขณะ
6. รู้สึกไม่สบายตาเมื่อตื่นนอน


สุขภาพตา โดย ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย All About Eye by RCOPT
https://www.facebook.com/AllAboutEyebyRCOPT/posts/959051797545393:0

"ตาแห้ง" อีกภาวะที่พบได้บ่อยทางจักษุวิทยา โดยเฉพาะยุคที่ต้องทำงานผ่านหน้าจอกันทั้งวัน มาเรียนรู้กันเพิ่มเติมจาก บทความนี้ โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต

ตาแห้ง (Dry eye หรือ Xerophthalmia) เป็นภาวะที่ฟิล์มน้ำตา หรือ Tear film ที่ฉาบอยู่บริเวณผิว/เนื้อเยื่อส่วนหน้าของลูกตา (Ocular surface) มีจำนวนหรือคุณภาพไม่เพียงพอที่จะหล่อลื่นผิว/เนื้อเยื่อส่วนหน้าของลูกตา จึงก่อให้ผิว/เนื้อเยื่อส่วนหน้าของลูกตาเกิดการระคายเคือง จึงก่อให้เกิดอาการแสบตา ตาแห้ง ระคายเคืองตา ไม่สบายตา

ในภาวะปกติ ฟิล์มน้ำตาที่ผิว/เนื้อเยื่อส่วนหน้าของลูกตามีด้วยกัน 3 ชั้น จากชั้นนอกสุดไปถึงชั้นในสุด ได้แก่
1. ชั้นไขมัน สร้างจากต่อมที่เรียกว่า Meibomian gland ที่อยู่ภายในเปลือกตา/หนังตา
2. ชั้นสารน้ำ สร้างจากต่อมน้ำตาที่เรียกว่า Lacrimal gland
3. ชั้นน้ำเมือก สร้างจากเซลล์ที่เรียกว่า Goblet cell ในเยื่อบุตาและในกระจกตา

ทั้งนี้
- หากน้ำตาชั้นไขมันบกพร่อง มักเกิดจากโรคของเปลือกตา/หนังตาที่มีการเสียหายของต่อม Meibomian gland (เช่น ผู้ป่วยโรค Rosacea/โรคผิวหนังชนิดหนึ่ง โรคเปลือกตา/หนังตาอักเสบเรื้อรัง) ซึ่งเรียกว่า ภาวะต่อม Meibomian ไม่ทำงาน (Meibomian gland dysfunction เรียกย่อว่า ภาวะ MGD)
- หากชั้นสารน้ำบกพร่อง จะเกิดภาวะ Keratoconjunctivitis sicca เรียกย่อว่า ภาวะ KCS เช่น ในโรค Sjogren (โรคโอโตอิมมูน/โรคภูมิต้านตนเองชนิดหนึ่งซึ่งมีผลให้ต่อมต่างๆที่มีหน้าที่สร้างสารหล่อลื่น/สารน้ำ เสียหายทำงานได้น้อยลง จึงส่งผลให้เกิดภาวะเนื้อเยื่อต่างๆแห้งผิดปกติ) ภาวะต่อมน้ำตาไม่ทำงาน, ภาวะตาปิดไม่สนิทจากอัมพาตของกล้ามเนื้อใบหน้า, ตลอดจนโรคเอดส์
- หากขาดน้ำเมือก มักพบใน ภาวะลูกตาได้รับภยันตรายจากสารเคมี,โรคออโตอิมมูน/โรคภูมิต้านตนเอง, ภาวะขาดวิตามินเอ, โรคริดสีดวงตาเรื้อรัง ตลอดจนจากการแพ้ยาต่างๆที่ทำให้เกิดความผิดปกติของผิวหนังรอบ ๆตาร่วมกับเยื่อบุตา (เช่น โรคสะตีเวนส์จอห์นสัน/Steven’s Johnson syndrome)

** ตาแห้งมีสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงจากอะไร?

สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงของตาแห้ง ได้แก่

- มีการสร้างน้ำตาน้อยกว่าปกติ จากพยาธิสภาพของต่อมต่างๆที่สร้างน้ำตา (อ่านเพิ่มเติมในบทความ กายวิภาคและสรีรวิทยาของตา หัวข้อ กายวิภาคและสรีรวิทยาของระบบน้ำตา)
- ส่วนประกอบของน้ำตาผิดปกติ เนื่องจากน้ำตาระเหยเร็วกว่าปกติ ทำให้น้ำ ตาค่อนข้าง Hypertonic /มีความเข้มข้นมากเกินไป (บางคนใช้คำว่า เค็มเกินไป = too salt) น้ำตาชนิดนี้จะทำลายปลายประสาทที่มาเลี้ยงเยื่อบุตาและกระจกตา ทำให้ทำงานไม่ได้สมดุล จึงมีการสร้างน้ำตาน้อยลง
- อายุมากขึ้น เซลล์ต่อมน้ำตาจะเสื่อมเช่นเดียวกับเซลล์ทุกชนิดของร่างกาย การสร้างน้ำตาจึงน้อยลง
- เป็นโรคเบาหวาน เพราะจะส่งผลให้เกิดการอักเสบโดยไม่มีการติดเชื้อของเซลล์ต่อมน้ำตา จึงสร้างน้ำตาลดลง
- ทำ เลสิก (Lasik) มา ซึ่งการทำ เลสิก จะมีการตัดเส้นประสาทที่มาเลี้ยงกระจกตา (Corneal nerve) ทำให้ไม่มีตัวกระตุ้นให้สร้างน้ำตา ทำให้การสร้างน้ำตา ลดลงชั่วคราวช่วง 1-6 เดือนแรก หลังจากนั้นการสร้างน้ำตาก็จะกลับมา
- ใช้คอนแทคเลนส์/เลนส์สัมผัส (Contact lens) พบได้ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ใช้ ที่มีภาวะตาแห้ง
- ตาที่ได้รับอุบัติเหตุทำให้หนังตา ไม่แนบกับผิวลูกตา น้ำตาจึงระเหยได้ง่าย ตาจึงแห้งง่าย
- การใช้ยาบางชนิดประจำ เช่น ยาหยอดตารักษาต้อหิน ยารับประทานที่มีฤทธิ์ต้านการทำงานของระบบประสาท (Anticholinergic drug) รวมทั้งประสาทต่อมน้ำตา จึงลดการสร้างน้ำตา เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาคลายเครียด ยารักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ยารักษาโรคพาร์กินสัน (Parkinson disease) ยาบรรเทาโรคหวัด ยารักษาโรคภูมิแพ้ในกลุ่มแอนติฮีสตามีน (Antihistamine) เป็นต้น

** ตาแห้งมีอาการอย่างไร?
อาการที่เข้ากับโรคตาแห้ง ได้แก่
-มีความรู้สึกฝืดในตาเหมือนไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง
-ระคายเคืองตา
-ไม่สบายตา เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา
-ตาพร่า แพ้แสง
-ตามัวลง อาจเห็นภาพๆเดียวซ้อนเป็น 2 ภาพได้

ทั้งนี้ อาการต่างๆที่กล่าวข้างต้น จะเป็นมากขึ้นเมื่อใช้สายตามากขึ้น เช่น อ่านหนังสือ ขับรถ ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ หรือ ดูทีวี อยู่ในสิ่งแวดล้อมบางภาวะ เช่น ที่มีลมพัดแรง อยู่บนเครื่องบิน อยู่ในห้องแอร์ เป็นต้น

***แพทย์วินิจฉัยภาวะตาแห้งได้อย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยภาวะตาแห้งได้จาก
จากอาการ และประวัติที่มีปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวข้างต้นในหัวข้อสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง
ตรวจบริเวณใบหน้ารอบๆดวงตา เพื่อดูโรคต่างๆที่อาจเป็นสาเหตุ เช่น
-ลักษณะของโรค Rosacea
-ภาวะหนังตาที่ผิดปกติ
-ขนตาที่เขี่ยผิวลูกตา
-ดูขอบหนังตาเพื่อดูรูเปิดของต่อม Meibomian
-ดูผิวกระจกตาที่ไม่เรียบ
-ร่วมกับเมือกที่ผิวลูกตามีลักษณะผิวปกติ
ซึ่งในรายที่เป็นรุนแรง ผิวกระจกตาจะขรุขระบางลง จนบางรายมีรอยทะลุของกระจกตาได้ อาจมีการตรวจเฉพาะพิเศษอื่นๆเพิ่มเติม เช่น เพื่อดูคุณภาพของน้ำตา เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นกับ อาการผู้ป่วย สาเหตุ และดุลพินิจของจักษุแพทย์

**ตาแห้งมีผลเสียอย่างไร?
ภาวะตาแห้ง นอกจากก่อให้เกิดอาการไม่สบายตา แสบตา เคืองตา ตาสู้แสงไม่ได้ ทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่แล้ว อาจก่อให้เกิดพยาธิสภาพอย่างอื่น เช่น
-กระจกตาถลอก ผิวกระจกตาอาจหลุดลอกออกมา ยิ่งก่อให้เกิดความเจ็บ ปวดมากขึ้น อีกทั้งมีโอกาสติดเชื้อต่างๆได้ง่ายขึ้นด้วย เช่น เชื้อแบคทีเรีย เป็นต้น เนื้อเยื่อชั้นเนื้อเยื่อบุผิว (Epithelium) ของเยื่อตา และของกระจกตามีการเปลี่ยนแปลง (Squamous metaplasia) ผิวลูกตาจะดูไม่สดใส กระจกตาเป็นแผล เกิดเป็นจุดๆทั่วไป (Punctale keratitis) ซึ่งทำให้เจ็บตา ตาสู้แสงไม่ได้
-กระจกตาเป็นแผล ติดเชื้อต่างๆได้ง่าย (Corneal ulcer)
-มีหลอดเลือดเกิดใหม่เข้ามายังกระจกตา (Corneal neovascularization) ทำให้กระจกตาขุ่นขาว ไม่ใส ทำให้ตาแดง และตาพร่ามัวลง
-เมื่อเป็นตาแห้งแบบที่รุนแรงนานๆเข้า กระจกตาจะเกิดเป็นแผลเป็น บางลง และบางรายถึงขั้นกระจกตาทะลุได้

*** รักษาภาวะตาแห้งอย่างไร?
แนวทางการรักษาภาวะตาแห้ง มักจะแนะนำทำเป็นขั้นๆไป คือ
1. ปรับสิ่งแวดล้อม หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ หลีกเลี่ยงสถานที่มีฝุ่นละออง ควันบุหรี่ ที่เป่าผมไม่ให้ใกล้ตา หลีกเลี่ยงการใช้พัดลม หรือ อยู่ในห้องแอร์นานๆ หากจำเป็นต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ควรจัดโต๊ะและเครื่องคอมพิวเตอร์ ตลอดจนการใช้แว่นตาที่เหมาะสม
2. รักษาโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น เปลือกตา/หนังตาอักเสบ ทำให้มีการทำลายต่อม Meibomian ซึ่งหากมีภาวะหนังตาอักเสบ ควรรักษาความสะอาดขอบตา ลดการใช้ยาต่างๆที่ทำให้มีการสร้างน้ำตาน้อยลง ดังได้กล่าวแล้วในหัวข้อ สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง เป็นต้น
3. การชดเชยน้ำตา ด้วย
ใช้น้ำตาเทียม ซึ่งอาจเป็นรูปของน้ำใส เป็นเจล หรือ ขี้ผึ้ง
- แบบน้ำใสใช้ง่าย ไม่ทำให้ตามัว แต่ต้องหยอดบ่อย เพราะยาหมดอย่างรวดเร็ว
- แบบเจล หรือ ขี้ผึ้งอยู่ในตาได้นานกว่า แต่อาจเหนียวเหนอะหนะ ทำให้ตามัวลงมักนิยมใช้ก่อนนอน

น้ำตาเทียมชนิดใส มี 2 แบบ คือ
- ชนิดมีสารกันเสีย มักบรรจุในรูปแบบเป็นขวด สามารถใช้ได้นานถึงประมาณ 1 เดือน
- ชนิดรูปแบบที่เป็นกะเปาะ ไม่มีสารกันเสีย จึงใช้ได้ไม่เกิน 24 ชม. มักทำในรูปกะเปาะพลาสติกเล็กๆ มีน้ำตาเทียมอยู่ 4-8 หยด
ในกรณีตาแห้งมากต้องใช้น้ำตาเทียมบ่อยเกินวันละ 4 ครั้ง ควรใช้แบบไม่มีสารกันเสีย หากใช้แบบมีสารกันเสียวันละหลายๆหยด ตัวสารกันเสียอาจทำอันตรายต่อผิวกระจกตาได้
4. ใช้ยาที่เป็นสารน้ำเหลืองจากเลือด (Serum) ของตัวเราเอง เรียกว่า Autologus serum ในปัจจุบันพบว่าการใช้น้ำเหลืองจากเลือดของเราเอง อาจช่วยลดการอักเสบของเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆของลูกตาและต่อมน้ำตา เพราะมีสารต่อต้านเชื้อโรค ตลอดจนสารเร่งการฟื้นตัวกลับคืนสู่ปกติของเนื้อเยื่อได้ดีขึ้น
5. ใช้เครื่องช่วยที่เรียกว่า Moist chamber เป็นวัสดุคล้ายแว่นตาเพิ่มความชุ่มชื้นให้ลูกตา (ไม่เป็นที่นิยม และยังไม่มีจำหน่ายในบ้านเรา)
ภาวะตาแห้ง ขาดความสมดุลของผิวตา มักจะก่อให้เกิดการอักเสบแบบไม่ติดเชื้อได้ จึงอาจต้องให้ยาหยอดตาในกลุ่มสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบชนิดไม่ติดเชื้อได้ ซึ่งต้องใช้อย่างระมัดระวัง ภายใต้การดูแลและควบคุมของแพทย์
6. ปัจจุบันมีการใช้ยากดภูมิคุ้มกันต้านทานโรค (Immunosuppressant) บางชนิด เช่น ยา Cyclosporine ชนิดหยอด เพื่อลดการอักเสบชนิดไม่ติดเชื้อของเนื้อเยื่อของลูกตาและของต่อมน้ำตา เป็นต้น
7. อาหารที่มี โอเมกา 3 (Omega 3 fatty acid) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ อาจช่วยลดการอักเสบ

ในบางคนอาจช่วยให้ภาวะตาแห้งดีขึ้นได้การพยายามลดการระเหยของน้ำตาด้วยวิธีผ่าตัด หรือ ปรับกายวิภาคของเนื้อ เยื่อส่วนต่างๆของตา เช่น
8. การอุดท่อระบายน้ำตา (Punctual plug) เป็นการอุดบริเวณช่องทางที่ไหลออกของน้ำตา (Punctum) ลงสู่โพรงจมูก ซึ่งมีทั้งชนิดอุดชั่วคราว และชนิดอุดถาวร (Punctal cautery) ใช้จี้บริเวณช่องทางที่น้ำตาไหลออกจากตา ซึ่งเป็นการอุดบริเวณไหลออกของน้ำตาแบบถาวรไปเลย
9. ปัจจุบันมีการใช้คอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษที่เรียก Scleral lens ซึ่งมีความโค้งที่แตกต่างจากคอนแทคเลนส์ธรรมดา ทำให้อุ้มน้ำตาอยู่ได้มากขึ้น
10. การเย็บเปลือกตา/หนังตา บน-ล่าง เข้าหากันบางส่วน (Tarsorrhaphy) ในผู้ป่วยบางรายที่มีความผิดปกติของเปลือกตา/หนังตา

*** ดูแลตนเองอย่างไร? ควรพบแพทย์เมื่อไร?
การดูแลตนเอง คือ เมื่อมีอาการดังกล่าวในหัวข้อ สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง และอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ควรพบจักษุแพทย์ แต่ถ้ามีตามัว เห็นภาพไม่ชัดเจน ควรต้องรีบพบจักษุแพทย์ภายใน 24 ชั่วโมงเสมอ เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยหาสาเหตุที่ชัดเจน เพื่อการรักษาแต่เนิ่นๆ
เมื่อทราบว่า เป็นภาวะตาแห้ง การดูแลตนเอง การพบจักษุแพทย์ คือ
-ปฏิบัติตามจักษุแพทย์ และพยาบาลแนะนำ
-ใช้น้ำตาเทียมอย่างถูกต้องตามจักษุแพทย์/แพทย์แนะนำ
-ป้องกัน รักษา ควบคุมโรคที่เป็นปัจจัยเสี่ยง
-ปรับพฤติกรรมที่เป็นปัจจัยให้เกิดภาวะตาแห้ง เช่น ในเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์ รู้ จักใช้แว่นตาเพื่อป้องกันแสงแดด ฝุ่นละออง และเลิกสูบบุหรี่ เป็นต้น
-สังเกตการใช้ยาควบคุมโรคอื่นๆ และการใช้ยาต่างๆ ว่า มีผลต่อภาวะตาแห้งหรือ ไม่ เพื่อแจ้ง แพทย์ พยาบาล เภสัชกร เพื่ออาจปรับเปลี่ยนยา
-รู้จักวิธีที่ถูกต้องในการใช้คอนแทคเลนส์ เมื่อต้องใช้คอนแทคเลนส์
-กินอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ให้ครบถ้วนในทุกวัน (จำกัด แป้ง หวาน เค็ม ไขมัน กินผัก ผลไม้ เพิ่มขึ้น) เพื่อลดโอกาสเซลล์ต่างๆรวมทั้งเซลล์ของลูกตา และต่อมน้ำ ตาเสื่อมก่อนวัย
-กินอาหารมีโอเมกา 3 อย่างพอเพียง ถึงแม้การศึกษาต่างๆยังไม่ชัดเจนว่ามีประโยชน์ในการรักษาหรือป้องกันภาวะตาแห้งอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เพราะยังไม่พบโทษจากสารอาหารชนิดนี้ อาหารที่มีโอเมกา 3 สูง เช่น ปลาทะเล (เช่น trout, salmon, tuna, cod, mackerel, herring) และไข่ที่ผสม โอเมกา 3
-พบจักษุแพทย์ก่อนนัด หรือ รีบพบจักษุแพทย์ เมื่อมีอาการผิดปกติทางตาต่อ เนื่องและไม่ดีขึ้นหลังการรักษา โดยเฉพาะเมื่อมีปัญหาทางสายตา หรือ ตามัวลง

***ป้องกันตาแห้งได้อย่างไร?
-การป้องกันภาวะตาแห้ง คือ การหลีกเลี่ยง งด เลิก และการป้องกัน รักษา ควบคุม สิ่งต่างๆที่เป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง ดังกล่าวแล้วในหัวข้อ สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง เช่นเดียวกับที่ได้กล่าวแล้วในหัวข้อ การดูแลตนเอง ที่สำคัญ คือ
-กินอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ให้ครบถ้วนในทุกวัน ร่วมกับการออกกำลังกายสม่ำ เสมอ เพื่อป้องกันโรคต่างๆที่เป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงของภาวะตาแห้ง
-รู้วิธีที่ถูกต้องในการใช้คอนแทคเลนส์เมื่อจะใช้คอนแทคเลนส์
-เลิกบุหรี่ ไม่สูบบุหรี่
-รู้วิธีที่ถูกต้องในการใช้งานคอมพิวเตอร์
-รู้จักใช้แว่นตาเพื่อปกป้องลูกตา




๒. ข้อคิดความเห็น เกี่ยวกับบ้านเรา ... กรอ.จ.กพ หุ่นระบำชากังราว นวัตกรรมหนึ่งเดียวในโลก
ผมสรุปเอาเอง .. ประชุม กรอ.จ.กพ ครั้งที่ ๓/๒๕๕๙  
วันศุกร์ ๒๗ พค.๕๙ เวลา ๑๓.๓๐ น. ห้องซุ้มกอ ชั้น ๔ ศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร

ข้อเสนอ เรื่องสืบเนื่อง และ ประเด็นที่น่าสนใจ ที่ผมจะนำเข้าที่ประชุมฯ ครั้งนี้ ได้เสนอครบทั้ง ๓ ประเด็น ^_^

* เสนอโครงการ หุ่นระบำชากังราว (สรุป ๒ หน้า) อัตลักษณ์ใหม่ของ จ.กำแพงเพชร

ท่านประธาน ท่านคณะกรรมการ กรอ. และ ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
ก่อนที่ผมจะเสนอโครงการ หุ่นระบำชากังราว จะขอเรียนให้ทราบว่า ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการนี้ ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการ
เพียงแต่ผมได้พูดคุยรับรู้เกี่ยวกับโครงการนี้จากคุณสิริจิต คณะหุ่น Mommy puppet และ เห็นว่าน่าสนใจ
แต่ผมเองไม่มีความสามารถ จึงต้องขอพึ่ง กรรมการ กรอ.ทุกท่าน ให้ช่วยผลักดันโครงการนี้  

ถ้ามองในแง่การตลาด หุ่นระบำชากังราว .. ถือว่า เป็นสินค้าที่มีจุดเด่น มีเอกลักษณ์ มีความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร
ทั้งรูปแบบตัวหุ่น การแต่งกาย วิธีการชักเชิดหุ่น ใช้งบประมาณ สี่แสน บาท ใช้เวลา ๑ ปี ตั้งแต่เริ่มจนสามารถแสดงออกงานได้
- การดำเนินการแบ่งเป็น ๓ ช่วง
๑. การศึกษาค้นคว้า ข้อมูลศิลปะวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับ ระบำชากังราว โบราณสถาน ลายปูนปั้น โบราณวัตถุ เทวสตรี เป็นต้น
๒. workshop การฝึกหัดระบำชากังราว เรียนรู้เรื่องชุด การเย็บชุด ท่ารำ ความเป็นมา ต้องรำได้ก่อนถึงจะเชิดหุ่นได้  
    กลุ่มเป้าหมายหลักคือ นักเรียนและผู้ปกครองที่ศูนย์จริยศึกษา ผู้สนใจ(สมัครฟรี)
    จะมีการอบรม ครั้งละ ๕ วัน โดยวิทยากรคณะหุ่นระดับประเทศ เดินทางมาให้ความรู้
๓. การแสดงจริง ในโรงเรียน เทศกาล เวทีศิลปะ  ( ไม่จำเป็นต้องแสดงเฉพาะหุ่นระบำชากังราว แต่นำองค์ความรู้ไปสร้างหุ่น เพื่อประกอบเรื่องราวที่อยากนำเสนอ)

ยกตัวอย่างโครงการ และ แนวคิดการต่อยอด ๕ ประเด็น
๑. ตั้งแสดง หุ่นต้นแบบ ๕ ตัว - โครงสร้างหุ่น การตกแต่ง ผ้า ลวดลาย ปักวิจิตรงดงาม (ต้นทุน ๒หมื่นบาทต่อตัว)
    นำไปเก็บรักษาไว้ เช่น พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ศาลากลาง มรภ.กพ เรือนไทยฯ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
๒. หุ่นที่ระลึก เพื่อมอบให้ในนามของส่วนราชการ อปท. เอกชนฯลฯ
    โดย อาจลดต้นทุนบางส่วน เพื่อลดราคาหุ่น เป็นการสร้างงาน อนุรักษ์ศิลปะหัตถกรรม และ ประชาสัมพันธ์
๓. ร่วมแสดง กับ ระบำชากังราว ซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๕ จนเป็นการแสดงประจำจังหวัดเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป
    เช่น การแสดงเชิดหุ่น+คน ในงานประจำปี งานจังหวัด ร่วมกับ มรภ.กพ นำไปร่วมแสดงในต่างประเทศ
    ท่าน วธ.จ เสนอว่าการแสดง หุ่น + คนจริง แสดงร่วมกัน สัก ๕๐ คน ในงานสมโภชน์รัตนโกสินทร์
         จัดโดยกระทรวงศิลปวัฒนธรรม ที่ สนามหลวง ทุกปี อาจส่งบันทึกกินเนส การแสดงหุ่น+คน มากที่สุดในโลก
    เทศกาลหุ่นโลก ซึ่งจัดในประเทศไทย และ ต่างประเทศ
    (คุณศิริจิต เป็น คกก.สมาพันธ์หุ่นนานาชาติ ศูนย์ประเทศไทย (UNIMA) เป็นองค์กรภาคเอกชนที่ร่วมกับยูเนสโก
    ก่อตั้งมานานกว่า 86 ปี ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก)
๔. การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การโฆษณาประชาสัมพันธ์จังหวัด
    เชื่อมโยงการท่องเทียว เช่น ไปชมเทวสตรี สำริด(พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ)  และ ลายปูนปั้น (อุทยานประวัติศาสตร์)
    นำไปแสดง เช่น พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ มรภ.กพ เรือนไทยฯ ตลาดย้อนยุค ถนนคนเดิน
    การขายสินค้าของที่ระลึก รูปปั้น ฉากถ่ายภาพ วาดภาพ หรือ โปสการ์ด ฯลฯ
    คุณสิริจิต ได้นำหุ่นระบำชากังราว เข้าในโครงการพัฒนาสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์แบรนด์ มรดกพระร่วง ของ อพท.
๕. เชื่อมโยงการเรียน การสอน สร้างภูมิปัญญา ให้เด็ก เยาวชน ประชาชนทั่วไป เพื่อการศึกษา นำไปดัดแปลง ประกอบการเล่าเรื่อง
    เช่น นิทานท้าวแสนปม การประหยัดน้ำ ให้ความรู้สุขภาพ เรื่องจราจร อุบัติเหตุ
    แสดงหุ่น ร่วมกับ ลิเก ดนตรี หรือ การแสดงแสงเสียง

สิ่งเหล่านี้ จะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องอาศัยการริเริ่มผลักดัน จาก ท่านผู้ว่า รองผู้ว่า หัวหน้าส่วนราชการ แล้วต่อยอดจาก ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม
เป็นความร่วมมือกันทุกภาคส่วน ตรงตามนโยบายประชารัฐ ซึ่ง
จึงอยากจะเชิญชวน คกก. กรอ.จังหวัด ทุกท่าน ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับจังหวัดกำแพงเพชร

โครงการสร้างนวัตกรรม หุ่นระบำชากังราว (หนึ่งเดียวในโลก) อัลบั้ม FB    //bit.ly/1NEDYyZ
โครงการสร้างนวัตกรรมหุ่นระบำชากังราว ExecutiveSummary (ย่อ ๒ หน้า)  //bit.ly/1VeK76I
โครงการสร้างนวัตกรรมหุ่นระบำชากังราว FULL.pdf (เต็มฉบับ ๙ หน้า) //bit.ly/1sMm7gr

................ สรุปเบื้องต้น
- การเสนองบประมาณราชการ ต้องรอเสนอเข้าปีงบ ๖๑ หรือให้เสนอในนามของ สนง.วธ.จ เข้าที่ประชุม กบง.จ. เพื่อใช้งบพัฒนาจังหวัด
- อาจลองเสนอผ่านไปทาง อบจ.กพ น่าจะตรงและได้รับการสนับสนุนง่ายกว่า
- ท่าน อธิการบดี มรภ.กพ เสนอว่า เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และใช้งบไม่มาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยกันจัดสรรงบมาทำ

** เสนอโครงการปรับภูมิทัศน์ วงเวียนต้นโพธิ์
๑. เปลี่ยนเป็นระบบไฟจราจร  (วงเวียนอยู่อย่างเดิม ?)  ปัจจุบัน รถยนต์เยอะ รถติด ทำให้ต้องเสีย ตร.จราจร ๑ - ๒ ท่าน เพื่อมาอำนวยความสะดวก โบกรถให้สัญญาน
๒. วงเวียน ซึ่งมี ศิลาจารึก ร.๖ ตั้งอยู่ มี สองทางเลือก
๒.๑ เอาวงเวียนออก
- ย้ายศิลาจารึกไปเก็บไว้ ที่พิพิธภัณฑ์
- ย้ายศิลาจารึก ไปไว้ที่หอนาฬิกา
๒.๒ วงเวียน อยู่อย่างเดิม  
- น้ำพุอยู่อย่างเดิม แต่ปรับทิศทาง ไม่ให้น้ำพุ ไปโดนศิลาจารึก
- น้ำพุอยู่อย่างเดิม แต่ ย้ายศิลาจารึกไปไว้ที่หอนาฬิกา
- นำพุ เอาออก ปรับโครงสร้าง ปรับพื้นที่ราบตกแต่งให้คนเดินเข้าไปชม ไปสักการะได้
๓. ศิลาจารึก ร.๖ ซึ่งเป็น เป็นโบราณวัตถุ ขึ้นทะเบียนแล้ว มี สองทางเลือก
- ของจริงไว้ที่วงเวียน หรือ หอนาฬิกา แล้วออกแบบทำเป็นศาล หรือ ศาลา ให้กันแดดกันฝนได้ดีขึ้น
- ย้ายของจริง ไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ แล้วสร้างจารึกจำลองมาไว้แทน (จารึกจำลอง จะผ่านพิธีกรรม ทั้งทางพุทธและพราหม์)
........... สรุปเบื้องต้น ประธานให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เทศบาลฯ ตำรวจจราจรฯ แขวงการทางฯ พิพิธภัณฑ์ฯ เพื่อปรึกษาหาแนวทางแก้ไข

*** No Foam
ตัวอย่างจังหวัดชัยนาท รณรงค์ไม่ใช้โฟมบรรจุอาหาร เริ่มโครงการ ๒๕๕๘ โดยความร่วมมือระหว่าง
จังหวัดชัยนาท  และ บริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จก.(มหาชน) ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์เกรช  (บรรจุภัณฑ์ชานอ้อย)
๑. ผวจ.ให้ส่วนราชการ งดใช้โฟมในการประชุมส้มนาของส่วนราชการ
๒. ทีมงาน บริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม  บรรยาย ให้ความรู้ ตามส่วนราชการ ทำป้ายประชาสัมพันธ์ สติ๊กเกอร์รณรงค์  NOFOAM
๓. รณรงค์การงดใช้โฟมในงานกิจกรรมของจังหวัด เช่น งานปั่นจักรยานในแต่ละเดือน
๔. สสจ.ชัยนาท ประกาศเป็นองค์กรต้นแบบประกาศ NOFOAMของจังหวัดชัยนาท  และ รับผิดชอบทำกิจกรรมร่วมกับผู้ประกอบการร้านค้า
๕. นโยบายตลาดถนนคนเดิน ต้องปลอดโฟม และ ตั้งจุดขายบรรจุภัณฑ์ชานอ้อย เพื่อให้ผู้ค้าและลูกค้าสะดวกในการซื้อบรรจุภัณฑ์ชานอ้อย  
............. สรุปเบื้องต้น
- มรภ.กพ ได้งบทำวิจัย โนโฟม ในโรงอาหารของ มรภ.กพ
- สสจ.กพ ประกาศเป็นหน่วยงาน โนโฟม ได้รับรางวัลจากกระทรวงฯ

ปล.เพื่อนผมเป็นกรรมการบริษัทบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) ผลิตภัณฑ์ “เกรซ ซิมเปิล” และได้ทำโครงการร่วมกับจังหวัดและเอกชนหลายแห่ง ยินดีมาช่วยถ้ามีหน่วยงานไหนสนใจ

https://www.faceboo//www.manager.co.th/Weekly54/ViewNews.aspx?NewsID=9570000092263&TabID=3&
https://www.facebook.com/gracz.co.th

**** วาระ ๔. เรื่องสืบเนื่องจากการประชุม ครั้งที่ ๒/๒๕๕๙ วันอังคาร ๑๙ มค.๕๙
๑. - การขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ "กล้วยไข่กำแพงเพชร"  
..............อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ตรวจสอบเอกสารกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ถ้าเอกสารเรียบร้อยน่าจะขึ้นทะเบียนได้ใน ๖ เดือน

๒. ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จ.กพ บริเวณเรือนจำเก่า (ทัณฑสถานวัยหนุ่ม) ความคืบหน้า ?
............ รอการอนุมัติให้ใช้พื้นที่จากกรมราชทัณฑ์ ( ส่งหนังสือไปเมื่อ ๒๘ธค.๕๘)

๓. การปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณเกาะกลางน้ำปิง จังหวัดกำแพงเพชร ความคืบหน้า ?
.............เทศบาลฯ จัดงบประมาณ สร้างถนนในเกาะ (ปี๕๙ ถนนลูกรัง ปี๖๐ ถนนแอสฟัสคอนกรีตและปรับภูมิทัศน์ ปลูกต้นไม้ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง งบ ๕ แสน)
.............ประธานฯ เสนอให้เปิดปิดเกาะเป็นเวลา เพื่อป้องกันปัญหาใช้เป็นแหล่งมั่วสุม
.............สำหรับอาคารศาลเจ้า การประชุมสภาเทศบาลเมืองฯ นำออกจากการพิจารณา (ยังไม่รับมอบอาคาร) ให้ตรวจสอบความแข็งแรงของอาคารก่อน (เทศบาลฯประสานกับโยธาฯ)
.............ประธานหอการค้าฯ การพัฒนาปรับปรุงควรทำแบบแปลน เพื่อจะได้รู้ว่ารูปแบบที่ออกมาจะเป็นอย่างไร แล้วค่อยทำไปที่ละส่วนเท่าที่ได้


ส่วนประเด็นที่ ๔ - ๖ ไม่มีการนำเสนอในที่ประชุมฯ
๔. รายงานดัชนีความก้าวหน้าของคน (HAI) ปี๒๕๕๘  ลำดับที่ ของจังหวัดกำแพงเพชร    โดยเฉพาะ สุขภาพ 75 การศึกษา     70    

๕. การสร้างทางรถไฟ ผ่าน จ.กพ ... (เส้น นครสวรรค์ -กพ-ตาก-แม่สอด ) (North-South Economic Corridor: NSEC)
มีข่าวเรื่องเส้นทางรถไฟ พิษณุโลก-สุโขทัย-ตาก-แม่สอด (East-West Economic Corridor: EWEC) ไม่ผ่านกำแพงเพชร ?
- ท่อขนส่งน้ำมัน ผ่าน จ.กพ จะมีผลอะไร? จะทำอย่างไรให้เกิดผลดีกับกับเศรษฐกิจ ไม่ใช่แค่มีท่อผ่าน ?

๖. การท่องเที่ยว หาจุดขายใหม่ เช่น
- หุ่นระบำชากังราว สอนการทำหุ่น ทำชุด วิธีรำ การแสดงหุ่น + คน เชื่อมโยงการท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ อุทยานฯ ภาพวาด โปสการ์ด
- เที่ยวไปกินไป ตลาดชุมชน ตลาดเทศบาล ตลาดศูนย์ ตลาดริมปิง ตลาดไนท์ ร้านอาหารเด่นดังที่ต้องกิน
- ตลาดชุมชน หรือ ถนนคนเดิน บริเวณสะพานเก่า ที่ว่าการอำเภอเก่า ตอนนี้ มี ตลาดย้อนยุค (เทศบาลนครชุม) ถนนฅนกำแพง (เทศบาลเมือง)
- วัดพระบรมธาตุ สวดมนต์ข้ามปี ลอยกระทงสายหมื่นดวง โปรโมทเพิ่มขึ้น
- ศูนย์แสดงสินค้า โอทอป ( เอาพื้นที่แสดงสินค้าเกษตร แกลอรี่ภาพวาดภาพถ่าย นักท่องเที่ยวแวะพัก-ถ่ายภาพ )
- SME หรือ OTOP ชนิดไหน startup - rising star - turn around
- งานประจำปี นบพระ กล้วยไข่ น่าจะมีการศึกษาวิจัย ผลกระทบทางเศรษฐกิจฯ ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ กระตุ้นการท่องเที่ยวการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ?

"""""""""""""""""""""
รายงานการประชุมฯ อย่างเป็นทางการ โหลดไปอ่านเล่น ๆ ให้เย็นใจ ^_^
รายงานประชุมกรอ.จ.กพ1-59.pdf  //bit.ly/1TndF2A
รายงานประชุม กรอ.จ.กพ.2-59.pdf  //bit.ly/25992vl 
โครงการสร้างนวัตกรรมหุ่นระบำชากังราว หนึ่งเดียวในโลก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
1.    หลักการและเหตุผล
การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมภาคบริการ ที่มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจของไทย เพราะนอกจากจะสร้างรายได้โดยมีมูลค่าเป็นอันดับหนึ่งของการค้าบริการรวมของประเทศแล้ว ยังเป็นอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดธุรกิจที่ต่อเนื่องอีกมากมาย อาทิ โรงแรมและที่พัก ภัตตาคารร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก การคมนาคมขนส่ง เป็นต้นซึ่งก่อให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน และการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น รัฐบาลเห็นถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวที่มีต่อการเติบโตชองเศรษฐกิจในประเทศ จึงมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในประเทศ ทำให้เกิดกระแสความนิยมการท่องเที่ยววิถีไทย ประเพณี และวัฒนธรรมดั้งเดิม
หุ่นไทย คือ หนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรม และนาฏศิลป์อันทรงคุณค่า รวมไว้ซึ่งศาสตร์แขนงต่างๆ เช่น จิตรกรรม ประติมากรรม กลศาสตร์ นาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์ และวรรณศิลป์ เข้าไว้ด้วยกัน  
หุ่นระบำชากังราว จะเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการหุ่นของเมืองไทย โดยนำเอาข้อดีของหุ่นประเภทต่างๆ มารวมไว้ในตัวหุ่นตัวเดียวกัน โดยรูปลักษณ์นำแบบอย่างความสวยงามมาจากหุ่นละครเล็ก  ความคล่องตัวกลไกบางอย่างตามแบบหุ่นกระบอก เชื่อมต่อบางส่วนด้วยวิธีการของหุ่นสาย เครื่องแต่งกาย เสื้อผ้าศิราภรณ์ รวมทั้งการแสดงท่าทางร่ายรำ และดนตรี ก็นำแบบมาจากการแสดงระบำชากังราวต้นตำรับของจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อสะท้อนอัตลักษณ์ศิลปะของจังหวัดกำแพงเพชร สร้างความแตกต่าง ในการแสดงงานทางศิลปะที่ไม่เหมือนใคร เป็นนวัตกรรมหุ่นหนึ่งเดียวในโลก
    MOMMY PUPPET   เป็นคณะหุ่นไทยร่วมสมัย ที่ใช้หุ่นนิทานเป็นสื่อในการสอนเด็กอย่างได้ผล ถูกนำไปใช้ในฐานะเพื่อนผู้เยียวยาจิตใจ ให้ความสุขกับผู้ป่วยเด็กเรื้อรังที่จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์และพยาบาลในโรงพยาบาลตลอดเวลาที่โรงพยาบาลศิริราช  เป็นนักพัฒนาการกระตุ้นเด็กๆที่มีความต้องการพิเศษในสถาบันราชานุกูล มูลนิธิ The Rainbow Room ฯลฯ และยังเป็นนักกิจกรรมนำเด็กๆทำกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในโรงเรียนและห้องสมุดทั่วกรุงเทพมหานคร สืบเนื่องจากการทำงานสร้างสรรค์การใช้สื่อศิลปะหุ่นเพื่อพัฒนาเด็ก เยาวชน และครอบครัวมาโดยตลอด จึงได้รับเชิญให้เป็น คณะกรรมการจัดตั้งสมาพันธ์หุ่นนานาชาติ ศูนย์ประเทศไทย ( UNIMA – Union Internationale de la Marionette ) ด้วย        
ระบำชากังราว เป็นผลงานสร้างสรรค์ของภาควิชานาฏศิลป์ มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร ศิลปะการแต่งกาย เครื่องประดับ เสื้อผ้า ศิราภรณ์ เลียนแบบมาจากรูปปั้นเทวสตรีที่ปรากฏอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร ด้านท่ารำก็เป็นการนำท่าทางจากพุทธลีลาที่เป็นลักษณะเด่นที่ปรากฏในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เช่น ท่าปางลีลา ท่าปางสัตยาธิษฐาน มาประดิษฐ์เป็นนาฏลีลาภาษานาฏศิลป์ เคลื่อนไหวไปกับท่วงทำนองเพลงคิดค้นจากเครื่องดนตรีที่มีมาแต่โบราณ นับว่าระบำชุดนี้ได้ถ่ายทอดศิลปะ วัฒนธรรม และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ของเมืองกำแพงเพชรเป็นอย่างดี
ผู้ประดิษฐ์ท่ารำ               อาจารย์เยาวลักษณ์ ใจวิสุทธิ์หรรษา
ผู้ประดิษฐ์ทำนองเพลง       อาจารย์ศิริชัยชาญ ฟักจำรูญ
ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย    อาจารย์รุ่งธรรม ศรีวรรธนศิลป์

2.    วัตถุประสงค์ของโครงการ
 2.1 สร้างนวัตกรรมหุ่นระบำชากังราว โดยประดิษฐ์คิดค้นกลไก และลักษณะการชักเชิดขึ้นมาใหม่ ให้ง่าย และสอดคล้องต่อการร่ายรำในท่วงท่านาฏศิลป์ไทย เพื่อเป็นสื่อในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ    (เป็นนวัตกรรมหุ่นหนึ่งเดียว ไม่มีที่ไหนในโลก)
  2.2 สร้างสรรค์การแสดงหุ่นไทยร่วมสมัย ชุดระบำชากังราว เพื่อทำการแสดงร่วมกับงานประเพณีต่างๆของจังหวัด เช่น ประเพณีนบพระ-เล่นเพลง เทศกาลสารทไทยกล้วยไข่เมืองกำแพง มหกรรมการแสดงดนตรีและนาฏศิลป์นานาชาติ รวมไปถึง เป็นตัวแทนของจังหวัดกำแพงเพชรในงานท่องเที่ยวระดับประเทศ งานวัฒนธรรมระดับประเทศ ฯลฯ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม และโบราณสถานอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร (จุดขายใหม่ของจังหวัดกำแพงเพชร)
2.3 สร้างหุ่นไทยร่วมสมัย ให้สำนักศิลปะ และวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร ใช้แสดง ร่วมกับ นักแสดงระบำชากังราว เป็นการแสดงผสมผสานหุ่นกับคนจริง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดกำแพงเพชรให้เป็นที่รู้จัก และยอมรับในระดับสากล
2.4 เกิดการพัฒนานวัตกรรมทางความคิด เพื่อต่อยอดสู่การพัฒนาสินค้าและบริการ สร้างมูลค่าเพิ่มทางการท่องเที่ยวในจังหวัด รวมทั้งสามารถนำความรู้การสร้างหุ่นการชักเชิดหุ่นไปสร้างสรรค์หุ่นในรูปแบบใหม่ เพื่อนำไปใช้กิจกรรมอื่น ๆ เช่น การเรียนการสอนในโรงเรียน หรือ การแสดงเรื่องราวนิทานพื้นบ้าน ความรู้ทางประวัติศาสตร์ เป็นต้น
...............................

โครงการสร้างนวัตกรรม หุ่นระบำชากังราว (หนึ่งเดียวในโลก) ..
ถ้าได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ ( ผวจ. สนง.วัฒนธรรมฯ สนง.ท่องเที่ยวฯ มรภ.กพ กรอ. หอการค้า ฯลฯ ) ลงทุนด้วยเงิน ๔ แสนบาท ระยะเวลาดำเนินการ ๑ ปี ..
แต่ ผลที่ได้ อาจเป็น จุดเปลี่ยนของจังหวัด สามารถต่อยอดได้อีกเยอะ เช่น การสร้างหุ่นเพื่อการศึกษา การแสดงประกอบเรื่องเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ การแสดงระบำหุ่นเชิดร่วมกับผู้แสดงระบำชากังราว การขายสินค้า การท่องเที่ยว ฯลฯ
ก็คงต้องมาช่วยกันลุ้นว่า จะมีใครสนใจ สนับสนุน บ้างหรือเปล่า ?

ปล. ข้อมูลบางส่วนจากเอกสารโครงการสร้างนวัตกรรมหุ่นระบำชากังราวสะท้อนอัตลักษณ์ศิลปะกำแพงเพชร เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว..
หุ่นระบำชากังราว จะเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการหุ่นของเมืองไทย เนื่องจากการออกแบบที่นำเอาข้อดีของหุ่นประเภทต่างๆ มารวมไว้ในตัวหุ่นตัวเดียวกัน เพื่อความสวยงาม และคล่องแคล่วในการชักเชิด โดยรูปลักษณ์นำแบบอย่างความสวยงามมาจากหุ่นละครเล็ก ความคล่องตัวกลไกบางอย่างตามแบบหุ่นกระบอก เชื่อมต่อบางส่วนด้วยวิธีการของหุ่นสาย เครื่องแต่งกาย เสื้อผ้าศิราภรณ์ รวมทั้งการแสดงท่าทางร่ายรำ และดนตรี ก็นำแบบมาจากการแสดงระบำชากังราวต้นตำรับของจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อสะท้อนอัตลักษณ์ศิลปะของจังหวัดกำแพงเพชร สร้างความแตกต่าง ในการแสดงงานทางศิลปะของท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร

...............................

"ระบำหุ่นชากังราว" อัตลักษณ์ใหม่ ของ จ.กพ " หนึ่งเดียวในโลก "
แนวทางดำเนินการสนับสนุน ผลักดันให้เกิดขึ้น
๑. งบประมาณ ขอจากส่วนกลาง กระทรวงวัฒนธรรม แต่ถ้าไม่ได้ น่าจะหางบสนับสนุนภายในจังหวัด (ราชการ อบจ. หรือ เอกชน)
- โดยมี สนง.วธ จ.กพ หรือ มรภ.กพ เป็น เจ้าของโครงการ ออกหนังสือเชิญ เวลาจัดงาน จัดการประชุม
๒. การศึกษาค้นคว้า บันทึกเรื่องราวความเป็นมา (องค์ความรู้) ทั้งรูปแบบชุดการแต่งกาย ท่ารำ  (ก่อนแสดงจะมีการเล่าความเป็นมา ให้ผู้ชมฟัง)
๓. การสร้าง หุ่นแบบใหม่ ที่ผสมผสานการสร้างหุ่น การเชิดหุ่น ทั้งของไทยและของญี่ปุ่น เป็นหุ่นแบบใหม่ หนึ่งเดียวในโลก
๔. ระยะเวลาดำเนินโครงการ ประมาณ ๑ ปี มีการฝึกอบรมครั้งละ ๕ วัน/เดือน จำนวน ๓ ครั้ง ระหว่างนั้น ก็จะมีกิจกรรมต่อเนื่อง แล้วนำมาส่ง/สอบถามในครั้งต่อไป

การดำเนินการแบ่งเป็น ๓ ช่วง
๑. การศึกษาค้นคว้า เช่น การเสวนา เรื่องศิลปะวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับ ระบำชากังราว เช่น โบราณสถาน ลายปูนปั้น โบราณวัตถุ เทวสตรี เป็นต้น
๒. workshop การฝึกหัดระบำชากังราว เรียนรู้เรื่องชุด การเย็บชุด ท่ารำ ความเป็นมา ต้องรำได้ก่อนถึงจะเชิดหุ่นได้  จะมีคณะหุ่น ๔ คณะ มาสอนเกี่ยวกับเทคนิคการสร้าง การเชิดหุ่น กลุ่มเป้าหมายหลักคือ นักเรียนและผู้ปกครองที่ศูนย์จริยศึกษา ผู้สนใจ(สมัครฟรี)
๓. การแสดงจริง ในโรงเรียน เทศกาล เวทีศิลปะ  ( ไม่จำเป็นต้องแสดงเฉพาะหุ่นระบำชากังราว แต่นำองค์ความรู้ไปสร้างหุ่น เพื่อประกอบเรื่องราวที่อยากนำเสนอ)
    เช่น นายสมนึก ปาปะเค (วัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร) เสนอแนวคิด การแสดง หุ่น + คนจริง แสดงร่วมกัน สัก ๕๐ คน ในงานสมโภชน์รัตนโกสินทร์ จัดที่สนามหลวง ทุกปี อาจส่งบันทึกกินเนส การแสดงหุ่น+คน มากที่สุดในโลก

การนำเสนอโครงการให้ผู้เกี่ยวข้อง
๑. ผวจ./รอง/ปลัดจ.  อบจ. ท่องเที่ยว วัฒธรรม  อุทยาน พิพิธภัณฑ์ ศูนย์จริย มรภ.กพ ชมรมท่องเที่ยว
๒. สื่อมวลชน หนังสือพิมพ์ ทีวี โซเชี่ยวมีเดีย สื่อสิ่งพิมพ์ (โปสเตอร์ แผ่นพับ)
๓. เชื่อมโยงสิ่งที่เกี่ยวข้อง ช่วย ปชส.โครงการ เช่น การแสดงระบำชากังราว (มรภ.กพ) ภาพวาด (เผด็จ ร้านไม้ไทย) ภาพถ่าย (โป้ง ชมรมถ่ายภาพ จ.กพ) ศูนย์จริยศึกษา งานศิลป์ในสวน โครงการศิลปะดนตรีวัฒนธรรม (อบจ) ตลาดย้อนยุค
๔. การเรียนการสอน ที่เกี่ยวข้อง เช่น มรภ.กพ ครุศาสตร์ เด็กปฐมวัย ร.ร.มัธยม  ร.ร.ประถม

.........................




Create Date : 29 พฤษภาคม 2559
Last Update : 29 พฤษภาคม 2559 22:14:24 น. 1 comments
Counter : 779 Pageviews.  

 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาทักทาย สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: nokyungnakaa วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:16:07:06 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]