ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ
ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )
หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป ) นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ
ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ
นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )
ปล.
ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com
ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..
|
สำหรับชาวเซียร์รา รีโอน ที่มีข่าวทางสื่อต่างๆ จริงๆ แล้วเค้าไม่ใช่ผู้ป่วยหรือไม่ใช่ผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาค่ะ เค้าเป็นผู้เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโรคฯ สำหรับชาวต่างชาติที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือในระเทศที่มีการติดเชื้อดังกล่าว ที่เข้ามาพักอาศัยและทำธุรกิจอยู่ในประเทศไทย ทางกระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการเฝ้าระวัง
- ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๒๓ ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่ประเทศไทยได้ประกาศเป็นเขตติดโรค ซึ่งรวมทั้ง ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา จะต้องมาแสดงตน และสำแดงเอกสารสุขภาพตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ณ สนามบิน หรือ จุดผ่านแดนต่างๆ ก่อนที่จะผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
- ผู้ที่เดินทางมาจากเขตติดโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา จะได้จัดการตรวจวัดอุณหภูมิ และบันทึกข้อมูลของผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดทุกคน และติดตามสอบถามอาการต่อเนื่องทุกวันจนกว่าจะพ้นระยะพักตัวของโรค
- กรมควบคุมโรค ได้เสนอให้โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา เป็นโรคติดต่ออันตรายให้ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา เล่ม131 ตอนพิเศษ 154 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2557 หรือ พ.ร.บ. โรคติดต่อ การประกาศให้เป็นโรคติดต่ออันตราย จะทำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการป้องกันควบคุมโรคได้อย่างเข้มข้น ซึ่งมาตรการการคัดกรองผู้เดินทางทั้งจุดผ่านแดนทางบก ท่าเรือ และท่าอากาศยาน เป็นการเสริมมาตรการป้องกันควบคุมโรคให้เข้มงวดมากกว่าเดิม ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อต่อการเดินทางและการค้าระหว่างประเทศ แต่มีผลดีต่อประชาชนโดยรวม มาตรการทางกฎหมายตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ ๒๕๒๓ ที่ดำเนินการ เช่น
1) การดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุม ณ ช่องทางเข้าออกประเทศ โดยเจ้าพนักงานสาธารณสุขประจำด่านฯ สามารถตรวจตรายานพาหนะ ผู้เดินทาง สิ่งของหรือสัตว์ที่มากับพาหนะ รวมทั้งควบคุม การกำจัดสิ่งอันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในพาหนะ เป็นต้น ในกรณีที่มีโรคติดต่ออันตราย หรือโรคติดต่อต้องแจ้งความเกิดขึ้นหรือมีเหตุสงสัยว่าได้มีโรคติดต่อดังกล่าวเกิดขึ้น ให้บุคคลต่างๆ เช่น เจ้าบ้าน เจ้าของพาหนะ ผู้ให้การดูแลรักษา แจ้งต่อเจ้าพนักงานสาธารณสุขหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ และ
2) มาตรการการตรวจคัดกรอง กักกัน และรักษา โดยให้เจ้าพนักงานสาธารณสุขมีอำนาจดำเนินการให้คนหรือสัตว์ซึ่งป่วยหรือมีเหตุสงสัยว่าป่วยเป็นโรคติดต่ออันตราย เป็นผู้สัมผัสโรค หรือเป็นพาหะของโรคติดต่ออันตราย มารับการตรวจ การชันสูตรทางแพทย์ หรือการรักษา หรือคุมไว้สังเกต ณ สถานที่ซึ่งเจ้าพนักงานสาธารณสุขกำหนด และให้มีอำนาจแยกกักผู้นั้นไปรับการรักษาในสถานพยาบาลหรือในที่เอกเทศ จนกว่าจะได้รับการตรวจและการชันสูตรทางแพทย์ว่าพ้นระยะติดต่อของโรคหรือหมดเหตุสงสัย เป็นต้น
- จากการการดำเนินการคัดกรองผู้เดินทาง และการติดตามอาการผู้เดินทางเป็นเวลา 21 วัน ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2557 ถึง 22 พฤศจิกายน 2557 ได้ทำการคัดกรองและติดตามอาการผู้เดินทางทั้งหมด 3,143 ราย (ประเทศกินี 890 ราย, ประเทศไลบีเรีย 121 ราย, ประเทศเซียร์ราลีโอน 91 ราย, ประเทศไนจีเรีย 1,614 ราย, ประเทศดีอาร์คองโก 240 ราย, ประเทศเซเนกัล 166 ราย, ประทศมาลี 17 ราย และ อื่นๆ 4 ราย)
- ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากผู้เดินทางเป็นอย่างดี กรมควบคุมโรค ยังได้จัดทำคำแนะนำสุขภาพแจกให้กับผู้เดินทางจากพื้นที่ที่มีการระบาด (Health Beware card) พร้อมกับคำชี้แจงกฎหมายควบคุมโรคของไทยสำหรับกรณีการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา (Health Regulation Regarding Ebola outbreak) ภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศส เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้เดินทางจากประเทศที่กำลังมีการระบาดอีกด้วย
- สำหรับผู้ที่เดินทางมาจาก 3 ประเทศที่มีการระบาดหนักของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา คือ ไลบีเรีย กินี และ เซียร์รา ลีโอน กรมควบคุมโรคได้เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรอง และติดตามผู้เดินทางตามมาตรการทางสาธารณสุข โดยจะมีเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ โดยสำนักโรคติดต่อทั่วไป และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 กรุงเทพฯ ไปส่งผู้เดินทางทั้ง 3 ประเทศ ถึงที่พัก รวมทั้งติดตามโทรสอบถามอาการเจ็บป่วยทุกวัน มีการติดตามไปเยี่ยมและวัดอุณหภูมิกายหรือวัดไข้ ทุกวันจันทร์และวันศุกร์ จนกว่าจะครบ 21 วัน หลังเดินทางมาจากพื้นที่ระบาด หรือ เดินทางออกนอกประเทศ (ในกรณีที่ไม่ครบ 21 วัน)
- ในกรณีผู้เดินทางมาจากประเทศระบาดอื่นๆ เช่น ไนจีเรีย ดีอาร์คองโก หลังเดินทางมาถึงประเทศไทยผู้เดินทางจะต้องโทรมาแจ้งที่อยู่ที่ชัดเจนและเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อสะดวก สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 กด 9 ช่วงเวลา 08.00 - 17.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ ซึ่งเจ้าหน้าที่สายด่วนฯ 1422 จะส่งต่อข้อมูลให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ผู้เดินทางอาศัยอยู่ไปติดตามต่อไป ค่ะ