No matter what life brings, I just believe that... Everything happens for the best.

Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
18 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
ล่ารักนักรบมาไซ (The White Masai) : รักหลงทาง

รีวิวหนังสือที่อ่านตามเกม RRR หรือ Rainy Read Rally ต่อ ... ใครที่สงสัยว่ามันคืออะไรคลิกที่ลิงก์ข้างล่างได้เลยค่ะ

- กระทู้เปิดตัว

- กระทู้ปัจจุบัน ((ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.))


เล่มนี้อ่านตามโจทย์

15-8. [อั๊งอังอา] อ่านหนังสือ 1 เล่ม ของนักเขียนที่ไม่เคยอ่าน หรือนักเขียนใหม่ที่มีผลงานตีพิมพ์ชิ้นแรกในช่วงปี 2552

ได้ 15 คะแนน ^^


((ความจริงอ่านเล่มนี้จบเป็นเล่มแรกของเกมเลย ตอนแรกจะเอาไว้ในโจทย์ 20-5. [piccy] อ่านหนังสือรวม 3 เล่ม จากคนละประเทศ นับจากสัญชาติคนแต่ง จะเป็นฉบับแปลหรือไม่แปลก็ได้ แต่ขี้เกียจรอให้ครบ 3 เล่มแล้วอ่า ^^"))




เรื่อง : ล่ารักนักรบมาไซ (The White Masai)
เขียนโดย : โครินเน ฮอฟมันน์
แปลโดย : วิภาดา กิตติโกวิท





รายละเอียดจากปกหลัง

เรื่องจริงที่เกิดขึ้นในเคนยาระหว่างโครินเน ฮอฟมันน์ สาวนักธุรกิจจากสวิสเซอร์แลนด์ ตกหลุมรักนักรบมาไซ ขณะไปท่องเที่ยวในเคนยากับคนรักหลังจากที่ได้ฝ่าฟันอุปสรรคนานา เธอก็ย้ายเข้าไปอยู่ในกระท่อมดินที่หมู่บ้านของเขา แ ละใช้ชีวิตในเคนยา 4 ปี จากนั้นความฝันของเธอก็ค่อยๆ สลายลง จนกระทั่งเธอต้องหนีกลับบ้านเกิดพร้อมลูกสาววัยขวบเศษ ซึ่งเกิดจากความรักที่ดูเหมือนจะมั่นคงระหว่าง หญิงชาวยุโรปผิวขาวกับนักรบหนุ่มมาไซ

จากการเผชิญหน้ากับสัตว์ป่าในระยะเผาขน ไปถึงความยากแค้นลำเค็ญของการดำรงชีวิตในป่า หรือ โรคภัยไข้เจ็บ ทุโภชนาการ ความอดอยาก พิธีกรรมที่ต้องทำร้ายร่างกาย และเหนือสิ่งใดๆ คือ อารมณ์รักหลง ที่มีต่อมนุษยชาติ : ด้านหนึ่งย้ำเน้นว่าเราล้วนเป็นส่วนหนึ่งในนั้น ทว่าอีกด้านหนึ่งก็ให้ภาพว่าเรา ช่างแปลกแยกแตกต่างกันมากเหลือเกิน

* ขอบคุณรูปภาพจาก เว็บไซต์ของสนพ.สันสกฤต


...


หนังสือเล่มนี้ของสนพ.สันสกฤตแปลจากหนังสือที่เขียนจากเรื่องจริงอีกแล้วค่ะ

เป็นเรื่องราวของสาวชาวสวิส "โครินเน่ ฮอฟมันน์" ที่เดินทางไปเที่ยวเคนย่ากับแฟนหนุ่ม แต่เธอกลับตกหลุมรัก "ลเกตินกา" นักรบชาวแซมบารู ((บนปกเขียนว่ามาไซอะ แต่จริงๆ แล้วมันคนละเผ่ากัน แต่ใกล้เคียงกัน))

ตอนอ่านนี่...เหวอมากๆ ค่ะ เพราะโครินเน่เห็นหน้าลเกตินกาแว่บเดียว คุยกันก็ไม่รู้เรื่อง แต่ตกหลุมรักเขาหัวปักหัวปำขนาดที่ว่า ตลอดระยะเวลาที่อยู่เคนย่ากับแฟน เธอมองหาแต่เขา พอรู้ว่าเขาติดคุก ก็ไล่ตามเดินทางข้ามเขตระหกระเหินไปช่วยเขา พอกลับไปสวิสเซอร์แลนด์ เธอยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง ขายกิจการ ขายที่อยู่ หอบเงินมาที่เคนย่า เพื่อจะมาอยู่กับเขา ทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้ตกลงอะไรกันเลยง่ะ

พอกลับมาก็ไม่เจอลเกตินกา ต้องตามหาเขาอยู่อีกนานหลายสัปดาห์กว่าจะได้เจอกัน

ไอซ์สารภาพว่าไม่เข้าใจ "ความรัก" ของโครินเน่เลยสักนิดเดียว เพราะ...เธอพูดกับเขาไม่รู้เรื่อง และความสุขกับสัมผัสทางกายก็ไม่มี ... นักรบไม่จูบปากผู้หญิง เวลามีเพศสัมพันธ์ก็คือ จึ๊กๆๆ สามทีเขาก็เสร็จล่ะ เลยงงๆ ว่ารักกันแบบไหนฟะ

แต่โครินเน่ก็ตะเกียกตะกายไปอยู่กับลเกตินกาจนได้ ลเกตินกาก็รับเธอมาอยู่ด้วย อยู่กันแบบพื้นเมืองจริงๆ นอนบ้านที่สร้างจากไม้และโคลนที่เรียกว่า "มันยัตตา" กลางป่ากลางเขา

โครินเน่ต้องเผชิญหน้ากับความแร้นแค้น ((ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหาร)) สัตว์ป่าในระยะประชิด ความห่างไกลจากความเจริญ ความเจ็บป่วยรุนแรง ((เป็นทั้งมาลาเรีย หิด แท้งลูก ฯลฯ)) พิธีกรรมพื้นเมืองที่เธอไม่เข้าใจ และความวุ่นวายกับระบบราชการของเคนย่า

ดูเหมือนว่าโครินเน่จะพยายามแก้ไข และอดทนมาตลอด เพราะคำเดียวสั้นๆ ว่า "เธอรักเขา" และอ่านๆ ไปก็รู้สึกว่าลเกตินกาก็รักเธอมากเช่นกัน เขายอมทำอะไรหลายๆ อย่างเพื่อเธอ ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งที่นักรบแซมบารูส่วนใหญ่ไม่ทำกัน ((ตักน้ำ ซักผ้าให้ หลังๆ ก็จูบกับเธอด้วย))


โครินเน่พยายามลงหลักปักฐานที่เคนย่า เธอกับลเกตินกาแต่งงานกันโดยถูกกฎหมาย ((เรื่องเอกสารวุ่นวายมาก)) และโครินเน่ก็เปิดร้านขายอาหารที่นั่นด้วย

โครินเน่และลเกตินกามีลูกสาวด้วยกันคนหนึ่งคือ "นาปิไร ((Napirai))"

ปัญหาใหญ่ที่ทำให้โครินเน่ตัดสินใจเลิกกับลเกตินกาและหนีกลับสวิสเซอร์แลนด์ก็คือ ลเกตินกาไม่ทำงานและหึงหวงเธออย่างมาก เขาไม่พอใจเวลาที่โครินเน่คุยกับใคร และคิดอยู่ตลอดว่าโครินเน่จะไปนอนกับผู้ชายอื่น หรือ นาปิไรไม่ใช่ลูกของเขา

....

อ่านแล้วรู้สึกว่ามันเป็นการเขียนด้วย "มุมมองฝ่ายเดียว" ของโครินเน่น่ะค่ะ เธอคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร หลายๆ ครั้งไอซ์อดรู้สึกไม่ได้ว่า เธอเองก็ "ดูถูก" เขาอยู่ลึกๆ คิดว่าตัวเองเหนือกว่า เก่งกว่าอยู่เช่นกัน

ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกมึนๆ กับความคิดและการกระทำของเธอ ซึ่ง...ยอมรับนะคะว่าเธอเก่งในการปรับตัว เก่งในการที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นโดยไม่งอมืองอเท้า ทำทุกอย่างเต็มที่ มุ่งมั่นกับสิ่งที่ต้องการ แต่...อืม...ไมรู้สิคะ ไอซ์ไม่เข้าใจ "ความรัก" ที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของ "ความเข้าใจกัน" ของสองคนนี้น่ะค่ะ


พิธีกรรมและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับชาวมาไซและแซมบารู ถูกถ่ายทอดผ่านสายตาของโครินเน่ ไอซ์รู้สึกว่ามันไม่ค่อยชัดเจน เพราะผู้เล่าเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเช่นกัน และไอซ์ก็ไม่รู้สึกว่าเธอพยายามจะเข้าใจสักเท่าไหร่ยังไงไม่รู้แฮะ แหะๆๆๆ

....

ปัญหาใหญ่ของหนังสือเล่มนี้ที่ทำเอาไอซ์เกือบวางหลายครั้งก็คือ "สำนวนแปล" ค่ะ ... ให้อารมณ์ google translate มากๆ ... ก็ไม่รู้นะคะว่าต้นฉบับมันทื่อประมาณนี้หรือเปล่า วิธีเว้นวรรคก็แปลกๆ แต่อ่านแล้วเหมือนกำลังท่องอะไรอยู่ก็ไม่รู้

ยกตัวอย่างหน้าแรกเลยละกัน

"อากาศอุ่นจัดของเขตร้อนโอบกอดในนาทีที่เราแตะพื้นสนามบินมอมบาซา และฉันรู้สึกจากส่วนลึกว่านี่คือแผ่นดินของฉัน ฉันจะอยู่ที่นี่ได้เหมือนอยู่บ้าน อย่างไรก็ตาม บรรยากาศวิเศษนี้ก่อมนต์ขลังต่อฉันเท่านั้น ความเห็นของมาร์โค คู่รักของฉัน กระชับกว่า เขาว่า "ที่นี่เหม็นจริง!..."

หรือ

"นาปิไรเป็นภาพแห่งสุขภาพที่สมบูรณ์"

อะไรทำนองนี้อะค่ะ กระตุกๆ ทื่อๆ อ่านแล้วรู้เลยว่าภาษาอังกฤษมันเขียนยังไง อ่านไปหงุดหงิดไป เฮ่อ

...

สรุปว่าเนื้อหาน่าสนใจแบบแปลกๆ ดีค่ะ

....


ขอแปะภาพในหนังสือหน่อย ภาพมาจากสนพ.สันสกฤตนะคะ


ภาพลเกตินกาค่ะ ... นักรบเผ่าแซมบูรูจะใช้ดินสีแดงทาตบแต่งร่างกาย




มันยัตตา ที่อยู่อาศัยของชาวแซมบูรู




โครินเน่ นาปิไร ลเกตินกา




....


หลังจากที่โครินเน่กลับสวิสเซอร์แลนด์แล้ว เธอยังเขียนหนังสือต่ออีกสองเล่มนะคะ


Back from Africa



เกี่ยวกับชีวิตของเธอเมื่อกลับมาอยู่ยุโรปแล้ว

และ

Reunion in Barsaloi



เมื่อเธอกลับไปพบกับลเกตินกาอีกครั้งหลังจากเวลาผ่านไปสิบสี่ปี


ได้เห็นรีวิวในเว็บต่างประเทศแล้วไม่เวิร์คอะค่ะ บอกว่าขาด dynamic ... ส่วนตัวไอซ์ ไอซ์ไม่สนใจอยากอ่านเรื่องของเธอต่อแล้วง่ะค่ะ แหะๆๆๆ


ส่วนนี่คือรูปของนาปิไรและโครินเน่



ดูมีความสุขดีอะค่ะ เท่าที่อ่านในรีวิวบอกว่า เล่ม Reunion in Barsaloi คนอ่านผิดหวังที่โครินเน่ไม่ได้พานาปิไรไปพบพ่อด้วย ... ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาก็ห่างเหินกันไปมากแล้ว ไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว


....


อย่างไรก็ตามเรื่อง The White Masai ได้ทำเป็นหนังด้วยนะคะ ((คิดว่าเป็นหนังเยอรมัน)) น่าดูทีเดียว




ภาพในหนัง ดูดีมากเลย แสงสวย สดใส












มีความรู้สึกว่า หนังน่าสนใจกว่าหนังสือแฮะ ^^"





Create Date : 18 กรกฎาคม 2552
Last Update : 18 กรกฎาคม 2552 0:10:37 น. 13 comments
Counter : 10946 Pageviews.

 
เรื่องของความรัก...มีเรื่องที่คาดไม่ถึงอยู่มากมาย และบางที่ความรักกับความเข้าใจ และการเดินไปด้วยกันนั้น มันเหมือนเป็นเส้นขนานที่ไม่อาจจะมาบรรจบกันได้...คาดว่าเป็นหนังที่น่าดูอีกเรื่องครับ

มีความสุขกับวันหยุดนะครับ


โดย: p_pyai วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:1:14:46 น.  

 
เอ่อ..อ่านรีวิวแล้วดูภาพก็..เอ่อ..ยังไงดีล่ะ
ก็แอบคิดคล้ายๆคุณไอซ์นิดนึงนะ..รักกันง่ายไปเปล่า

แต่ความรักมันพูดยากอ่ะนะ..ไม่เจอกับตัว ก็คงไม่รู้





โดย: nikanda วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:23:28 น.  

 
เรื่องความรักนี่มันไม่มีเหตุผลจริงๆนะคะ บางทีก็ทำให้คนตาบอด บางทีก็ทำให้คนตาสว่าง เฮ้ออ

เคยดูหนังเรื่องนี้แล้วค่ะ ถึงจะไม่เข้าใจความรักของนางเอก แต่ก็ชื่นชมกับความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวของเธอมากเลย เป็นอป.คงไม่กล้าทำอย่างนั้นแน่ๆ ถือว่าผู้เขียนก็ใช้ชีวิตได้คุ้มมากเลยนะคะ ได้ทำสิ่งที่ใจปรารถนา ผลลัพธ์จะออกมายังไงก็คงเป็นประสบการณ์ชีวิต แถมด้วยลูกสาวน่ารักหนึ่งคน แต่สงสารที่น้องหนูไม่ได้อยู่กับพ่อจริงๆ

สรุปเราขอใช้ชีวิตบนเส้นทางปลอดภัยไม่เสี่ยง ไม่ทำตามpassionดีกว่า อิๆ^^


โดย: อป (apple_cinnamon ) วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:9:08:58 น.  

 
สนุกมากค่ะหนังสือเล่มนี้ ชอบค่ะ


โดย: นักเดินทางพเนจร (นักเดินทางพเนจร ) วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:31:52 น.  

 
เออดี ซื้อมาดองนานข้ามชาติแล้วเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องอ่านเอง

ใบปิดหนังสวยมั่ก หนังน่าจะน่าดูกว่าหนังสือจริงๆ ด้วย


โดย: ปราณธร วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:04:51 น.  

 
เห็นด้วยว่าหนังน่าดูกว่า

เล่มนี้มันจะคล้ายกรณีแอนนากับพระเจ้ากรุงสยามรึเปล่า?
ฝ่ายหญิงเอาไปเล่าแบบเอียงๆ ไปตามประสา
เพราะยังไงๆ มันก็คงไม่กระทบพวกมาไซเท่าไหร่
เหมือนฟังเรื่องฝ่ายเดียว ชาวโลกตต. ก็เชื่อแหม่ม
(ต้องให้ลเกตินกาเขียนหนังสือฝ่ายเขามาอีกเล่ม ถึงมันส์)


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:3:58:18 น.  

 
อ้อก็ดูอันที่เป็นหนังนั่นแหละค่ะ

เศ้รานะ เครียดด้วยอะค่ะ

เหมือนจะอ่านเจอในเล่ม 2 ของหนังสือเค้าว่า ลเกตินกา แต่งงานใหม่แล้วก็มีลูกใหม่แล้วเหมือนกันนี่คะ???


โดย: aorp วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:02:49 น.  

 
มาเม้นท์ในบล็อกนะคะ

อ่านที่รีวิวแล้วก็รู้สึกแปลกๆ กับการรักของตัวเอกฝ่ายหญิงเหมือนกันค่ะ แต่เค้าอาจจะเรียกว่ารักแรกพบกระมังนะคะ

ส่วนเรื่องอื่นๆ เห็นด้วยว่ามาจากฝ่ายเดียว


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 21 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:08:28 น.  

 
ยังไม่เคยอ่านเล่มนี้เลย แต่เห็นแล้วก็อยากอ่านนะคะ
(อยากอ่านด.ญ.เดียรีด้วย ฮาๆ )

อ่านรีวิวแล้วรู้สึก ยังไงไม่รู้เหมือน มึนๆ
ไม่ได้มึนที่พี่ไอซ์รีวิวนะ มึนๆสับสนๆ 55 อธิบายไม่ถูก

ถึงขนาดยอมทุกอย่าง ทิ้งทุกอย่าง มาให้กับความรัก

แต่คนเราก็มองค่าของความรักไม่เท่ากัน ก็..อ่านะ งึมงำ มึนๆ 55


โดย: เอ็ม จุด เอ็ม IP: 112.143.52.168 วันที่: 21 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:38:49 น.  

 
ได้อ่านแล้วเหมือนกันค่ะพี่ไอซ์
ไปเจอที่ห้องสมุดในสถาบันเกอเธ่
เลยสอยมาอ่านเล่น
^^

หนังเป็นภาษาเยอรมันค่ะ
แต่ว่า ...มันแอบน่าเบื่ออ่ะค่ะ
สนุกเป็นช่วงๆ แต่มีตอนน่าเบื่อเยอะอยู่เหมือนกัน
ฉากที่มีอะไรก็ก็ถ่ายชัดยังกับเป็นหนังโป๊เลยค่ะ
ตอนนั้นนั่งดูกับโฮสน้อง
ต้องปิดเลยทีเดียว เพราะเค้าถ่ายได้นานมากๆ
>///<
แต่ก็น่าหามาดูนะคะ
คนที่เล่นเป็นนางเอกสวยดีค่ะ แหะๆ (ดูแค่นั้นเลยเนอะ...)


โดย: AgarwaeN's (fern-eva ) วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:52:00 น.  

 
ดูหนังเรื่องนี้แล้วเศร้ามาก่ะสงสารพระเอกอ่ะณู้ทั้งรู้ว่านางเอกไปแล้วไม่กลับมาอีกก็ปล่อยให้ไปสุภาพบุรุษมาก


โดย: นูตา IP: 112.142.151.171 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:16:11:23 น.  

 
ดู Index รายชื่อหนังสืออื่นๆ ที่ไอซ์ได้รีวิวไปแล้วตามลิงก์ข้างล่างค่ะ

- หนังสือภาษาอังกฤษ
Index Bookshelf : English Books

- หนังสือแปล
Index Bookshelf : Translated Books

- หนังสือภาษาไทย
Index Bookshelf : Thai Books


โดย: Clear Ice วันที่: 8 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:55:08 น.  

 
อ่านแล้ววางไม่ลง ต้องซื้อเล่ม 2,3 ต่อเลย คนแปลใช้คำสวยด้วยละมั่งค่ะ



โดย: เบิร์ด IP: 124.121.176.206 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2554 เวลา:19:07:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Clear Ice
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




Friends' blogs
[Add Clear Ice's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.