No matter what life brings, I just believe that... Everything happens for the best.

Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
3 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
The Burning Wire : อ่านบ่อยจน "รู้" พล็อตแล้วว่าจะหักมุมตรงไหนยังไง ^^"

ใช้เวลาอ่านเล่มนี้นานมากๆ เลยค่ะ จบซักที >_<



หนังสือ : The Burning Wire
ผู้เขียน : Jeffery Deaver
สนพ. : Hodder Paperbacks
จำนวนหน้า : 457 หน้า
ภาษา : อังกฤษ





รายละเอียดจากปกหลัง

ที่บ้าน
ในห้องทำงาน
บนถนน

ฆาตกรไร้ความปรานีและอาวุธพร้อมที่จะลงมือ ไฟฟ้ามีอันตรายเท่ากับมีความสำคัญ และใช้ความอัจฉริยะเพียงส่วนเสี้ยวก็สามารถสร้างความแตกตื่นและความตายได้แล้ว

ขณะเดียวกัน อาชญากรคนหนึ่งในจำนวนน้อยคนที่รอดพ้นจากการถูกลินคอร์น ไรห์มจับกุม - นักฆ่าที่รู้จักกันดีในชื่อ "นักทำนาฬิกา (Watchmaker)" - ได้วางแผนฆ่าคนบริสุทธิ์ ซึ่งยังไม่สามารถระบุตัวเหยื่อได้...

ไรห์มจะต้องจัดการกับสองคดีในเวลาเดียวกัน ขณะที่ทั้งสองคดีนี้กำลังมุ่งสู่ผลลัพธ์แห่งความตาย


จากไอซ์ :

เล่มนี้เป็นเล่มที่ 9 ในซีรียส์ที่มี Lincoln Rhyme เป็นตัวเอก เรียงตามลำดับดังนี้ค่ะ

The bone collector
The coffin dancer
The empty chair
The stone monkey
The vanished man
The twelth card
The cold moon
The Broken Window


สำหรับเล่มนี้ ... เริ่มต้นมามีสองคดีค่ะ

หลังจากจบเล่ม The Broken Window ตอนท้ายเล่มก็มีเกริ่นแล้วล่ะค่ะว่า ตัวร้าย "นักทำนาฬิกา (Watchmaker)" ที่รอดจากการจับกุมของไรห์มจากเรื่อง The cold moon จะกลับมามีบทบาทอีก เล่มนี้ดูเหมือนว่านักทำนาฬิกาจะอยู่ที่แม็กซิโก โดยวางแผนที่จะฆาตกรรมใครสักคน ซึ่งไรห์มก็จะต้องร่วมมือกับตำรวจแม็กซิโก และ แคธรีน แดนซ์ ... ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในเล่มนั้น ((และมีซีรียส์ของเธอเองในเรื่อง The Sleeping Doll และ Roadside Crosses))

อีกคดีที่เข้ามาพร้อมกันก็คือ มีใครคนหนึ่งใช้ "ไฟฟ้า" เป็นอาวุธในการฆ่าคน ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง และเป็นอาวุธที่ร้ายกาจ ... มีการสงสัยไปต่างๆ นานาว่า อาจจะเป็นผู้ก่อการร้ายก็ได้ เพราะมีการส่งจดหมายถึงผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ให้ปิดการจ่ายไฟฟ้า ไม่อย่างนั้นก็จะฆ่าคนไปเรื่อยๆ เหตุเกิดใกล้ๆ กับวัน Earth Day และตำรวจก็จับกระแสใน Cloud Zone ((ในอินเตอร์เน็ต)) ได้ประมาณนั้นด้วย ... ไรห์มจะต้องหยุดอาชญากรคนนี้ให้ได้ก่อนที่จะมีคนตายมากขึ้น


เรื่องจะดำเนินไปตามสไตล์ของซีรียส์นี้นะคะ ช่วง 80% แรกของเรื่องคือการปูเรื่องเพื่อนำไปสู่การหักมุมในช่วง 20% หลัง ... อาจจะเป็นเพราะไอซ์อ่านงานของ Deaver มาเยอะมากก็ได้ เล่มนี้ไอซ์เลยไม่ใช่แค่ "เดา" พล็อตได้ค่ะ แต่ "รู้" เลยว่า พล็อตจะเป็นยังไง -_-"


นอกจากนั้น...ก็สารภาพอย่างตรงไปตรงมาว่า อ่านอย่างทรมาน T^T เพราะตัวร้ายใช้ "ไฟฟ้า" เป็นอาวุธในการก่ออาชญากรรม ปัญหาก็คือ...วิชาไฟฟ้าเป็นวิชาที่ไอซ์เกลียดดดดดมาตั้งแต่ม.ต้นแล้ว พอมีการอธิบายทฤษฎีต่างๆ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับ arc flash, grid, juice - กระแสไฟฟ้า การเหนี่ยวนำ ฯลฯ ไอซ์ก็มึนหัวไปหมด อ่านข้ามก็ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะไม่รู้เรื่อง ... ปกติไอซ์จะชอบเก็บคำใบ้ไปพร้อมๆ กับไรห์ม แต่สำหรับเล่มนี้ ยอมแพ้ T^T

ไปหาข้อมูลเพิ่มเรื่อง arc flash มาเรื่องเดียว เพราะมันอยู่ต้นๆ เรื่องเลย หลังจากนั้นก็...อ่านอย่างเดียว เข้าหัวมั่งไม่เข้าหัวมั่ง ฮา




และ...ตัวหนังสือก็จะเล็กไปไหนคะ ขนาด 1 มิลลิเมตรนี่ ทำเอาตาแทบเหล่




ปกติเรื่องของ Deaver เล่มที่สนุกๆ หนาประมาณนี้หรือหนากว่านี้ ไอซ์ไม่เคยอ่านเกิน 3 วัน แต่เล่มนี้ปาเข้าไปสองสัปดาห์ได้มั้งคะ เฮ่อ


ในส่วนของตัวละคร ... เล่มนี้เหมือนกับเอาตัวละครทุกตัวโผล่มาหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นเหล่าตำรวจ FBI ที่มีบทบาทจากเล่มก่อนหน้าในซีรียส์ หรือกระทั่งตัวละครที่มีเล่มเดี่ยวๆ ของตัวเองอย่าง แคธรีน แดนซ์ หรือ Parker Kincaid ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์เอกสาร/ลายมือ จากเรื่อง The Devil's Teardrop ((เล่มนี้เก่ามากแล้วค่ะ ไอซ์อ่านนานแล้วเลยไม่มีรีวิว เป็นเล่มเดี่ยว สนุกนะคะ ไอซ์อยากให้ Deaver เขียนเรื่องของ Kincaid เดี่ยวๆ อีกจัง)) มากันพร้อมหน้าพร้อมตา ตัวละครอื่นๆ ในซีรียส์อย่าง Ron ก็มีบทเด่นมากขึ้น และตัวไรห์มเองก็มีการเปลี่ยนแปลงนะคะ แต่จะเปลี่ยนแปลงยังไง เดี๋ยวจะไปเขียนในสปอลย์ค่ะ ฮา


โดยรวมแล้ว...เล่มนี้ก็เลยกลายเป็นเล่มที่ไอซ์ชอบน้อยที่สุดในชุดนี้ค่ะ ... พล็อตและการดำเนินเรื่องไม่ได้อ่อนนะคะ แต่ไม่ถูกใจไอซ์เท่านั้นเอง อีกอย่าง...ไม่ใช่แค่เดาพล็อตได้ค่ะ แต่รู้แกวจริงๆ ว่าจะดำเนินเรื่องไปทางไหนยังไง และจะหักมุมยังไง

สำหรับคนที่ชอบอ่านแนวสืบสวน-สอบสวน เล่มนี้ไม่เลวร้ายนะคะ แต่ไอซ์ที่เป็นแฟนของ Deaver ส่วนตัวรู้สึกว่าเล่มนี้มัน drop และมุกตันชอบกลค่ะ ^^"




สปอยล์ :

อืม...ไม่รู้เพราะว่าอ่านใกล้ๆ กับเรื่อง Roadside Crosses หรือเปล่า เลยรู้สึกว่าพล็อตเรื่องคดีโดยรวมแล้วเหมือนกันเลย แถม timeline ในเรื่อง เรื่องนี้เกิดหลังเรื่อง Roadside Crosses อีก

ตอนต้นเรื่องเปิดมาเลยว่า ตัวร้ายคือ Ray Galt ที่ต้องการให้โรงงานหยุดการจ่ายไฟเพราะตัวเองเคยทำงานใน grid และเป็นมะเร็ง แต่ก็นึกอยู่แล้วว่าไม่น่าจะใช่ เพราะ demand แต่ละครั้งมันปัญญาอ่อนมาก คือ...สิ่งที่เรียกร้องเป็นสิ่งที่อ่านแล้วก็รู้ว่า "ทำไม่ได้" หรอก เพราะมันจะสร้างความเสียหายใหญ่มาก และก็มีการฆ่าคนก่อนถึงเส้นตายอีก

และ...นึกๆ อยู่แล้วว่า ยังไง Watchmaker ก็จะต้องเป็นตัวร้ายเด่น มันจะไปโผล่ในเม็กซิโก มีบทจิ๊บๆ จ๊อยๆ ได้ไง

ดังนั้นก็เลยรู้อยู่แล้วว่า คนก่อคดีไฟฟ้านี่ก็จะต้องเป็น Watchmaker นี่แหละ โดยวางแผนซับซ้อนที่จะล่อให้ไรห์มสืบผิด และสร้างแพะรับบาปถึงสองชั้น ชั้นแรกก็คือเรย์ อีกชั้นก็คือ CEO ของบริษัทผลิตไฟฟ้า ((ประมาณว่า ให้เรย์เป็นแพะเพราะต้องการฆ่าคนเกี่ยวกับพลังงานทดแทน)) แต่ทั้งหมดนี้จริงๆ แล้วเป็นฝีมือของ Watchmaker ที่ได้รับการจ้างวานมาจากคนในบริษัทไฟฟ้านั่นแหละ เพื่อล้ม CEO และครอบบริษัท ส่วนตัวเขาก็ต้องการจะฆ่าไรห์ม

แน่นอนว่า...ไรห์มก็ชนะใสในตอนท้าย Watchmaker ถูกจับ

ในเล่มนี้อาการของไรห์มไม่ดีนักและเกิดอาการช้อค ...ตอนท้ายไรห์มไปทดลองรักษาด้วย stem cell จนเคลื่อนไหวแขนได้แล้ว ก็จะต้องมาดูต่อไปว่า เล่มหน้าเขาจะขยับส่วนไหนได้บ้าง








ดู Index รายชื่อหนังสืออื่นๆ ที่ไอซ์ได้รีวิวไปแล้วตามลิงก์ข้างล่างค่ะ

- หนังสือภาษาอังกฤษ
Index Bookshelf : English Books

- หนังสือแปล
Index Bookshelf : Translated Books

- หนังสือภาษาไทย
Index Bookshelf : Thai Books







Create Date : 03 มีนาคม 2554
Last Update : 3 มีนาคม 2554 11:37:33 น. 3 comments
Counter : 2147 Pageviews.

 
อ่า หนังสือเล่มหนา + ตัวหนังสือเล็ก อ่านไปคงชวนปวดหัวไป ยิ่งเป็นสืบสวนด้วยเนี่ย สมองทำงานหนักมากเลยนะคะ


ท่าทางเล่มนี้เราคงอ่านลำบากเหมือนกัน เพราะลำพังให้พวกกระบวนการพิสูจน์หลักฐานที่พูดๆ มาตั้งกะเล่มแรก บางทีเรายังมึนเลย


แต่ถ้าแปลออกมาก็ไม่พลาดจะสอยมาไว้ในครอบครองหรอกค่ะ


โดย: ลูกปลาสีชมพู IP: 58.9.23.253 วันที่: 3 มีนาคม 2554 เวลา:18:48:16 น.  

 
แนวนี้อ่านแล้วบางครั้งก็กลัวนะคะ


โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:14:32:41 น.  

 
อ้าว ดร็อปเหรอ?

แต่ไม่มีแปล แถมตัวอักษรเล็กขนาดนี้ ขอผ่านง่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:18:44:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Clear Ice
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




Friends' blogs
[Add Clear Ice's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.