เสร็จจากซีรีย์ร้านอาหารในทริป 3 วัน 2คืนที่ระยองไปแล้ว วันนี้จะพามาแนะนำร้านอาหารค่ำเบาๆ ง่ายๆ แถวๆบ้านครับพักนี้ตอนเย็นๆ ไม่อยากกินอาหารหนักๆส่วนใหญ่ตอนเย็นๆพักนี้จะไปหาร้านข้าวต้มทานครับอย่างวันนี้เป็นร้านข้าวต้มที่ใกล้บ้านมากๆครับ ถึงจะเป็นร้านข้าวต้มเล็กๆ แต่มีประวัติที่ยาวนานมากๆครับใบ้ให้นิดนึงว่าถ้าเคยเรียนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เมื่อซัก 15-20ปีที่แล้วจะต้องรู้จักร้านนี้ดีแน่ๆครับ

ร้านข้าวต้ม ม.เกษตร  ตรงข้ามเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์

ร้านข้าวต้ม ม.เกษตร ตั้งอยู่หน้า“ร้านถ่ายรูปจักรวาล” ตรงข้ามกับ “ห้างเซ็นทรัลรัตนธิเบศร์” ครับถ้ามาจากทางสี่แยกแคลายมุ่งหน้าสะพานพระนั่งเกล้าให้วิ่งออกคู่ขนานตรงที่เลยจากตึกบริษัทไทยประกันชีวิตและซอยวัดสมรโกฐิมานิดนึงครับที่ตรงกับซอยวัดสมรโกฐิจะเป็นทางเข้าทางด่วนก่อนเลยไปนิดนึงจะเป็นทางออกไปวิ่งคู่ขนานครับ พอออกไปวิ่งคู่ขนานแล้วให้หาที่จอดรถริมฟุตบาทได้เลยครับร้านข้าวต้มม.เกษตร อยู่ตรงหน้าร้านถ่ายรูปจักรวาลครับจริงๆตรงหน้าร้านถ่ายรูปจักรวาลจะเป็นเวิ้งใหญ่ๆ สามารถจอดรถได้ประมาณไม่ถึง 10คันครับ แต่ต้องระวังรถของลูกค้าร้านถ่ายรูปด้วยนะครับ

ร้านข้าวต้ม ม. เกษตร ดั้งเดิมตั้งอยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฝั่งทางด้านถนนงามวงศ์วานส่วนจะตั้งอยู่ตรงไหนแน่ๆบ้างนั้นเจ้าของบล็อกไม่แน่ใจครับแต่ที่แน่ๆเจ้าของบล็อกเคยไปทานร้านตั้งอยู่ที่ปั๊มน้ำมันเชลส์ปากซอยท่านผู้หญิงพหลฯที่ตอนนี้กลายเป็นคอนโดมิเนียมไปแล้วครับ

เจ้าของบล็อกจำไม่ได้แน่แล้วว่าเมื่อก่อนนี้รสชาติอาหารของร้านข้าวต้มม.เกษตร เป็นอย่างไรบ้างจำได้แต่ว่าเป้นร้านใหญ่ มีโต๊ะนั่งเป็นสิบโต๊ะเลยทีเดียวแล้วร้านข้าวต้ม ม.เกษตรก็หายไปจากที่ตั้งเดิมพักใหญ่ๆจนเจ้าของบล็อกมาเห็นว่าร้านข้าวต้ม ม.เกษตร มาเปิดใหญ่ที่หน้าร้านถ่ายรูปจักรวาลตรงข้ามห้างเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์นี่แหละครับ

ร้านข้าวต้มม.เกษตรที่มาเปิดใหม่นี้เปิดเป็นร้านเล็กๆครับ เรียกว่าส่วนของตัวร้านเล็กมากๆมีขนาดประมาณ 2 เมตร คุณ 4 เมตรเท่านั้น ในพื้นที่ของร้านนี้ยังแบ่งมาเป็นพื้นที่วางโต๊ะอาหารอีก5-6 โต๊ะ และมีโต๊ะที่วางอยู่ริมฟุตบาทอีกประมาณ 10 โต๊ะได้

เจ้าของบล็อกดูๆแล้วความอุดมสมบูรณ์ของอาหารสดที่วางโชว์อยู่หน้าร้านนี่ด้อยลงไปมากๆเจ้าของบล็อกจำได้ว่าอาหารที่โชว์หน้าร้านเก่าที่ตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นั้นอุดมสมบูรณ์มากๆละลานตาไปหมดไม่รู้ว่าจะเลือกสั่งเมนูไหนดีเลย

เวลาเราไปกินข้าวต้มส่วนใหญ่เราจะสั่งอาหารพื้นๆที่คนส่วนใหญ่กินกับข้าวต้มนะครับ ไม่ได้เน้นซีฟู๊ดเพราะฉะนั้นเมนูที่เรากินจะไม่ได้หรูหราอะไรนะครับ

เมนูแรกที่สั่งมาทาน  ยำไข่ดาว ราคา 70 บาท

เรียกได้ว่าสมกับราคาครับเพราะใส่ไข่ดาวทอดใหม่ๆ กรอบๆ มาถึง 3 ฟองทีเดียว น้ำยำรสเปรี้ยว หวาน มีเผ็ดนิดๆแบบที่ชอบ ทำให้กินได้เพลินๆ ไม่เผ็ดมาก เพราะถ้าเผ็ดมากเจ้าของบล็อกไม่ถนัดกินเผ็ดมากทีไรเหงื่อออกเต็มหัวเลยคราบ

เมนูที่สอง  ยำสามกรอบ ราคา 80 บาท

อาหารร้านนี้ราคาอยู่ที่ 70 – 80บาทเท่านั้นเองครับ ถือว่าราคาพอประมาณครับแล้วปริมาณก็เยอะทีเดียวครับสำหรับยำสามกรอบจานนี้เค้าใส่ปลาหมึกกะตอยแห้งทอดกรอบ หมูแผ่นแบบหวานและกระเพาะปลาทอดกรอบให้มาอย่างเยอะทีเดียวคราบน้ำยำก็เป็นแบบเดียวกับยำไข่ดาวครับ รสเปรี้ยว หวาน มีรสเผ็ดนิดๆแต่ถ้าเป็นยำสามกรอบรสชาติจะออกเค็มมากกว่ายำไข่ดาวนิดหน่อยเพราะเค้าจะใส่หมึกกะตอยแห้งทอดกรอบที่มีรสเค็มๆด้วยทำให้มีรสชาติที่แตกต่างไปจากจานที่แล้วด้วยครับ

เมนูที่สาม ยำผักกาดดอง ราคา 70 บาท

สั่งเมนูยำๆ มาเยอะหน่อยเพราะว่ากินอาหารรสเผ็ดน้อยๆ จะช่วยให้เจริญอาหารดีครับ อิอิแต่ถึงว่าเมนูนี้ก็เป็นเมนูยำๆ แต่รสชาติของยำจานนี้ก็แตกต่างจากยำ 2จานที่แล้วครับ ถึงแม้จะใช้น้ำยำที่เหมือนกันเนื่องจากผักกาดดองจะมีรสชาติทีเป็นเอกลักษณ์ที่ออกเปรี้ยวๆ เค็มๆ พอเอามาทำยำแล้วก็จะได้ยำที่มีรสเปรี้ยวๆเค็มๆ เผ็ดๆ รสชาติแตกต่างจาก 2 เมนูที่แล้วครับ

เมนูที่สี่เป็นเมนูที่ขาดไม่ได้เมื่อมากินข้าวต้มครับ  ใบปอทอดกรอบ ราคา 80 บาท

เมนูนี้แล้วแต่คนชอบครับเพราะรสชาติของใบปอจะมีรสชาติติดขมๆหน่อยๆ ถ้าคนไม่ชอบรสขมจะไม่ชอบเลยครับใบปอทอดกรอบจะเอาใบปอมาทอดอีกครั้งแล้วนำไปผัดกับกระเทียมเจียวกรอบๆรสขมหน่อยๆของใบปอจะถูกกลบด้วยความหอมของกระเทียมเจียวครับ

เมนูสุดท้ายเป็นเมนูประจำเวลามาทานข้าวต้มนอกบ้าน   คะน้าหมูกรอบ ราคา 80 บาท

เมนี้เจ้าของบล็อกพยายามทำเองที่บ้านก็ได้รสชาติที่ไม่เหมือนกับเวลามาทานนอกบ้านครับก็จะทำที่บ้านพอแก้ขัดเท่านั้น แต่ถ้าอยากจริงๆก็จะออกมาทานข้างนอกครับ เมนูนี้ผักคะน้ากรอบมากๆครับ แต่หมูกรอบนี่ออกจะแข็งไปนิดนะครับ รสชาติถูกใจมากๆครับ ออกเค็มๆ หวานๆครับ

Chubby Lawyer Café …………………………………. ร้านอร่อย........ ตามใจฉัน