เชฟป้อม หรือ คุณธนรักษ์ ชูโต ได้รับสมญานามว่าเป็น “เชฟกระทะเหล็กเมืองไทย ประเภทอาหารจีน” มีประสบการณ์ในวงการอาหารมากว่า 30 ปี ส่วนมากจะรู้จักและอาจจะเคยได้ชิมฝีมือของเชฟป้อมที่  “ร้านเชฟป้อม” บนถนนพระราม 3 มาแล้วก็ได้

ร้านเชฟป้อมคิชเช่น เจริญนคร 57/1

วิธีการมาที่ร้านเชฟป้อมคิชเช่นก็มาง่ายๆครับ เจ้าของบล็อกใช้เส้นทางถนนสาธรข้ามมาฝั่งธนบุรี พอลงสะพานสาธรก็ชิดซ้ายแล้ววนไปติดไฟแดงรอเลี้ยวขวาหน้า Sena Fest พอเลี้ยวขวาก็ตรงมาเรื่อยๆเลยครับจนถึงปากซอยเจริญนคร 57/1 ร้านเชฟป้อมคิชเช่นจะอยู่ริมถนนหน้าปากซอยเจริญนคร 57/1 เลยครับ สังเกตง่ายๆร้านเชฟป้อมคิชเช่นอยู่ตรงข้ามปั้มน้ำมันเอสโซ่ครับ เลยร้านมาประมาณ 200 เมตรจะมีที่จอดรถของร้านอยู่ซ้ายมือติดถนนเลยครับ มีคนดูแลให้เป็นอย่างดีเลยครับ

วันที่ไปร้านเชฟป้อมคิชเช่นปรากฎว่าเชฟป้อมไม่อยู่ครับต้องลงไปทำงานที่ภูเก็ตแต่ได้ให้เชฟตูนซึ่งเป็นผู้ช่วยของเชฟป้อมมาพูดคุยกับเจ้าของบล็อกแทน "ร้านเชฟป้อมคิชเช่น" ร้านนี้จะค่อนข้างต่างกับ "ร้านเชฟป้อม"  ที่พระรามสามมากนะครับทั้งเรื่องของการตกแต่ง และเรื่องของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แต่ในเรื่องของวัตถุดิบก็ยังคง concept  เดิมเหมือนที่ร้านที่พระรามสามคือวัตถุดิบทุกอย่างต้องสด  ใหม่ และมีคุณภาพ

ร้านเชฟป้อมคิชเช่น ถนนเจริญนครเชฟป้อมตั้งใจให้เป็นร้านที่สบายๆผสมโมเดิร์นนิดๆจากสไตล์การตกแต่งร้านที่ใช้ทีดำ ส้มและทอง เอาใจกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นและวัยทำงานด้วยเมนูติ่มซำที่เป็นเมนูแบบดั้งเดิมและเมนูที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่โดยทีมงานของทางร้าน "เชฟป้อมคิชเช่น" ที่ใช้ของคุณภาพดีเยี่ยมชนิดที่ว่าติ่มซำขนานแท้ที่ฮ่องกงยังต้องชิดซ้ายไปเลยครับ

และไม่ใช่ว่าเป็นติ่มซำคุณภาพพรีเมี่ยมแล้วราคาจะต้องพรีเมี่ยมไปด้วยนะครับราคาก็ยังอยูในระดับที่ทุกๆคนสามารถจ่ายได้ (กระซิบดังๆว่า.... ถูกกว่านั่งเครื่อง low cost ไปกินที่ฮ่องกงซะอีกครับ) นอกจากเมนูติ่มซำคุณภาพดีเยี่ยมแล้วทางร้านเชฟป้อมคิชเช่นก็ยังมีอาหารอิ่นๆให้เลือกชิมอีกมากมายหลายอย่างรวมทั้งเป็ดย่าง หมูกรอบ หมูแดง ที่ทำกันใหม่ๆสดๆ ในครัวเปิดของทางร้าน โดยเชฟป้อมลงทุมติดตั้งเตาย่างเป็ดขนาดใหญ่เพื่อจะได้มีเป็ดย่าง หมูแดงหมูกรอบ เสิร์ฟให้กับลูกค้าแบบสดๆ ใหม่ๆ ทีเดียวครับ

เกริ่นมานานแล้ว มาดูกันซิว่าเชฟป้อมกับทีมงานเลือกเมนูอะไรมาให้ชิมบ้างนะครับ

เมนูแรก ขนมจีบกุ้งกระจกเสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มกะปิฮ่องกง ราคา 86 บาท

แค่เมนูแรกก็เล่นเอาติ่มซำฮ่องกงอายเลยครับ ขนมจีบที่อัดแน่นด้วยกุ้งตัวใหญ่คับปาก เจ้าของบล็อกไม่แน่ใจว่ามีกี่ตัวนะครับแต่เท่าที่เห็นด้วยตาและสัมผัสด้วยลิ้นคาดว่ามากกว่า 2-3 ตัวแน่ๆครับ ได้รสชาติของกุ้งแบบเต็มๆ เน้นๆ กันเลยครับขนาดของขนมจีบก็คับปากมากๆครับต้องแบ่งเป็น 2 ส่วนถึงจะเข้าปากได้ แป้งที่ห่อก็นุ่มๆแต่ไม่แฉะนะครับที่ฮ่องกงยังมีบางร้านแป้งขนมจีบจะแฉะๆ ทำให้ติดกับเข่งครับ ที่เด็ดที่สุดเห็นจะเป็นน้ำจิ้มครับ เชฟตูนแนะนำว่าเป็นน้ำจิ้มทีทำจากกะปิฮ่องกงรสจะไม่เค็มเท่ากะปิไทย ตอนแรกไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเข้ากันหรือเปล่าแต่พอลองกินคู่กับน้ำจิ้มแล้วเข้ากันดีมากๆเลยครับ ทำให้ขนมจีบมีรสชาติขึ้นไปอีก

เมนูที่สองเป็นเมนูติ่มซำแบบดั้งเดิม ฮะเก๋าเชฟป้อม ราคา 86 บาท

แป้งฮะเก๋าเหนียวๆ นิ่มๆ รสสัมผัสหยุ่นนิดๆเข้ากันกับไส้ที่เป็นกุ้งเป็นตัวๆ ปรุงรสแล้วใส่มาแบบเน้นๆเลยครับ แป้งฮะเก๋าก็ไม่แฮะด้วย อร่อยได้อย่างเต็มปากเต็มคำไม่ต้องกลัวติดกระดาษรองแข่งเลยครับ

เมนูที่สาม เตี๋ยวหลอดกรอบๆ ราคา 100 บาท

เดาเอานะครับว่าเมนูนี้จะต้องผ่านการดัดแปลงโดยเชฟป้อมมาแล้วแน่ๆ เพราะส่วนมากเราจะเห็นก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้หมูแดง ไส้กุ้งสับธรรมดาๆ แต่ก๋วยเตี๋ยวหลอดเมนูนี้เป็นไส้กุ้ง (น่าจะสับหยาบๆ) ทอดกรอบนะครับ แผ่นก๋วยเตี๋ยวเป้นแบบที่ถวิลหามานานแล้วเพราะมีส่วนผสมของแป้งข้าวเจ้ามากกว่าแป้งมันทำให้แผ่นก๋วยเตี๋ยวไม่เหนียวหนืดแต่จะนุ่มๆ เหนียวนิดๆ ไส้กุ้งทอดกรอบก็ยังกรอบอยู่ถึงแม้จะนำไปนึ่งกับแผ่นก๋วยเตี๋ยวแล้ว แล้วยังมีน้ำราดรสออกเค็มนิดๆ ช่วยเสริมรสของแผ่นก๋วยเตี๋ยวให้มีรสชาติมากขึ้นอีกครับ

เมนูที่สี่ เปาเขาหิมะ ราคา 120 บาท

เมนูนี้เชฟตูนนำเสนอครับแล้วบอกว่าจะมีเซอร์ไพรส์ด้วย .... แล้วก็เซอร์ไพรส์จริงๆด้วยครับ เปาที่สั่งมาจานนี้ดูหน้าตาเหมือนเป็นของหวานเพราะมีส่วนผสมหวานๆ กรอบๆ และอัลมอนด์โรยหน้ามา ...... แต่จริงๆแล้วสเมนูนี้เป็นเมนูเปาไส้คาว ....ไส้หมูแดงครับ แถมรสที่ไม่หวานมากของหน้าเปาเข้ากันได้ดีกับรสเค็มๆ หวานๆ หอมกลิ่นพะโล้นิดๆของไส้หมูแดง ทำให้ไม่รู้สึกว่ากินเปาแบบหวานๆอยู่ครับ สั่งเมนูนี้มาก็ทำให้กินเมนูคาวได้อีกนะครับ อิอิอิ

เมนูที่ห้าเป็นเมนูที่ทางร้านเชฟป้อมแนะนำอีกแล้วครับ ห่ามสุ่ยเกาะ ราคา 79 บาท

เมนูนี้เป็นเมนูของทอดครับ แป้งด้านนอกจะคล้ายๆแป้งซาลาเปาทอด มีรสสัมผัสเหนียวแต่นุ่ม ไส้ด้านในเป็นไส้แบบคาวแต่มีกลิ่นและรสของผงกระหรี่นิดๆ ทำให้ไม่รู้สึกเลี่ยนหรือเบื่อเลยครับ

เมนูที่หกเป็นเมนูคาวเมนูสุดท้ายที่สั่งมาทาน เผือกทอดไส้ไหล ราคา 86 บาท

หลายๆคนคงงงๆนะครับ เพราะโดยปกติเมนูเผือกทอดในติ่มซำทั่วไปจะเป็นเมนูหวานมากกว่าเมนูคาว แต่เผือกทอดจานนี้เป็นเมนูคาวครับ เพราะมีไส้ลาวาที่อยู่ข้างในที่ทำจากไข่เค็มรสหวานไม่มาก มันๆ เค็มนิดๆ จริงๆจะต้องกัดให้แตกในปากครับจะได้รับรู้ถึงไส้ลาวาอย่างเต็มที่.... มันเจ้มจ้นมากกกกกกกก

เมนูที่เจ็ดเมนูของหวานอย่างแรก เปานมสด ราคา 79 บาท

แป้งซาลาเปาเมนูนี้จะแตกต่างจากซาลาเปาทั่วๆไปนะครับ คือจะไม่ฟูนุ่ม แต่จะออกแนวเหนียวนุ่มมากกว่านะครับ แป้งจะมีรสหวานนิดๆแล้วยังมีไส้คัสตาร์ดรสหวานๆอยู่ด้านในด้วยครับ

เมนูที่แปดเป็นเมนูใหม่ของทางร้านยังไม่ได้วางขายนะครับแต่เชฟป้อมนำมาให้ชิมก่อน เชฟตูนบอกว่ายังไม่ค่อยถูกใจเชฟป้อมแต่เจ้าของบล็อกคิดว่าสวยทั้งหน้าตาและรสชาติแล้วครับ เปาชอคลาวา

เมนูนี้เป็นซาลาเปารสชอคโกแลตแบบบางๆเท่านั้นใช้ทองคำแบบที่กินได้ที่มีใบรับรองว่าทานได้จริงซึ่งต้องสั่งเข้ามาจากเมืองนอกแปะอยู่บนลูกซาละเปาเพิ่มความหรูหราไฮโซ ด้านในจะเป็นไส้ลาวาหวานนิดๆ มันๆ เค็มๆ เข้ากันกับแป้งซาลาเปารสชอคโกแลตมากๆครับ

เมนูสุดท้ายก็เป็นเมนูใหม่จากทางร้านครับคาดว่าคงยังไม่ได้ตั้งชื่อ เป็นสลัดหอยเชลส์กับซอสคล้ายๆซอสเพสโตกับส้มและมะม่วงราดด้วยครีมสลัด

เมนูนี้จัดมาอย่างอลังการเลยครับ มีดรายไอซ์ด้วย เสียดายที่กล้องไม่สามารถจับควันของดรายไอซ์ได้ ไม่อย่างนั้นจะเห็นว่าอลังการกว่านี้อีกครับ เมนูนี้ถึงแม้จะเป็นเมนูคาวแต่พอลองชิมดูแล้วจะให้ความสดชื่นอย่างมากจากมะม่วงและส้ม ถึงแม้จะมีหอยเชลส์อยู่ด้วยแต่ก็ถูกนำไปคลุกซอสที่มีรสชาติคล้ายๆซอสเพสโต้ก็เลยทำให้ไม่รู้สึกว่ากำลังรับประทานของคาวอยู่เลยครับ

ร้านเชฟป้อมคิชเช่น เป็นร้านอาหารที่ให้ความสำคัญกับทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตกแต่งร้าน วัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม เมนูที่หลากหลายกับราคาที่ไม่แพงจนเกินไป หน้าตาของอาหารที่ชวนรับประทานและที่สำคัญที่สุดรสชาติอร่อยเด็ดทุกเมนูเลยจริงๆครับ

Chubby Lawyer Cafe' ................................ ร้านอร่อย ...... ตามใจฉัน