Group Blog
พฤษภาคม 2559

1
2
3
4
6
7
8
9
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
ทนายอ้วนชวนเที่ยว - ดี๋ใจยิ่งแล้ว ... แขกแก้วมาเยือนอีกเตื้อ - วัดพระยืน ลำพูน
สถานที่ท่องเที่ยว : วัดพระยืน ลำพูน, ลำพูน Thailand
พิกัด GPS : 18° 34' 32.55" N 99° 1' 13.64" E







วัดถัดมาที่ได้ไปเที่ยวมาเมื่อมีโอกาสได้มาจังหวัดลำพูนคราวล่าสุดเป็นวัดที่เพิ่งจะเคยได้ยินชื่อ (ความจริงวัดทุกๆวัดในจังหวัดลำพูนนอกจากวัดพระธาตุหริภุญไชยก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อตอนหาข้อมูลเที่ยวนี่แหละครับ) แต่วัดนี้นอกจากจะเพิ่งเคยได้ยินชื่อจากการหาข้อมูลท่องเที่ยวแล้ว ยังมาได้ยินชื่อวัดนี้จากวัดพระธาตุหริภุญไชยด้วย ก็เลยคิดเอาไว้ว่าต้องมาเที่ยววัดนี้ให้ได้เลยครับ



วัดพระยืน คุ้มเวียงยอง ลำพูน



การเดินทางมาวัดพระยืน จ.ลำพูน  ก็ไม่ยากครับ จากจังหวัดเชียงใหม่ใช้เวลาประมาณ 30– 40 นาทีเท่านั้น ใช้ถนนซุเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ – ลำปาง จะมีทางแยกเข้าตัวเมืองลำพูนแต่ทางแยกเข้าวัดพระธาตุหริภุญไชยมีหลายแยกมากครับจากการที่เจ้าของบล็อกเดินทางไปไหว้ที่วัดพระธาตุหริภุญไชย 2 – 3 ครั้งแนะนำว่าควรใช้เส้นทางถนนซุเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ – ลำปาง แล้วมาเลี้ยวเข้าตัวเมืองลำพูนที่แยก “ดอยติ”(ถ้านับแยกเข้าตัวเมืองลำพูนตั้งแต่ถึงจังหวัดลำพูนก็แยกที่ 3)แยกดอยติเป็ยแยกใหญ่ครับรถที่จะเลี้ยวขวาเข้าจังหวัดลำพูนจะต้องวิ่งชิดขวามาติดไฟแดง “เป็นอีกเลนหนึ่ง” ส่วนรถที่จะไปจังหวัดลำปางก็จะวิ่งซ้ายผ่านตลอดครับถ้าเลยแยกดอยติจะมีจุดสังเกตุคืออนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรึวิชัยขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนยอดดอยติครับ(ถ้ามาจากจังหวัดเชียงใหม่จะสังเกตยากหน่อยเพราะตรงนั้นเป็นโค้งขวาที่ใหญ่และยาวมากถ้าเดินทางมาจากจังหวัดลำปางจะเห็นชัดเป็นสง่าเลยครับ)



พอเลี้ยวขวาเข้าตัวจังหวัดลำพูนแล้วก็ขับตรงไปเรื่อยๆเลยครับจะเจอสามแยกใหญ่ๆแยกที่สองเป็นสามแยกที่แยกไปทางขวาครับสามแยกนี้ไม่มีชื่อนะครับแต่เป็นแยกที่จะเดินทางไปศูนย์ราชการของจังหวัดลำพูนเราเลี้ยวขวาเข้าไปแล้วขับตรงไปเรื่อยๆประมาณ 600 เมตรทางซ้ายมือคือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน เยื้องๆกับสำนักงานสาธารณสุขทางขวามือคือทางเข้าวัดพระยืนให้เลี้ยวขวามือเข้าไปตามทางเลยครับ



วัดพระยืน ตั้งอยู่บริเวณบ้านเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เป็นวัดโบราณสันนิษฐานว่าสร้างมาพร้อมๆกับการสร้างนครหริภุญไชยราวปี พ.ศ. 1213 หรือปีที่ 7 หลังจากที่ได้สร้างนครหริภุญไชย บางตำราก็ว่าวัดพระยืนเดิมชื่อ อรัญญิกการาม เป็นพุทธปราการทางทิศตะวันออกของนครหริภุญไชย (เจ้าของบล็อก :- แต่เจ้าของบล็อกคิดว่าไม่น่าจะใช่เพราะพุทธปราการด้านตะวันออกคือวัดอรัญญิกกรัมการาม หรือ วัดต้นแก้ว ซึ่งอยู่ใกล้ๆวัดพระยืน พุทธปราการน่าจะอยู่ล้อมเมืองไว้ไม่น่าจะตั้งอยู่ในแนวเดียวกันแบบนี้ แต่ก็อาจจะเป็นจริงก็ได้นะครับ เพราะว่าเดิมวัดอรัญญิกกรัมการาม หรือ วัดต้นแก้ว ไม่ได้อยู่ตรงข้ามกับวัดพระธาตุหริภุญไชยเหมือนในปัจจุบันนี้วัดต้นแก้วในปัจจุบันนี้เป็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ส่วนวัดต้นแก้วเดิมไม่ปรากฎว่าอยู่ตรงไหนแล้วครับ หลักฐานอีกชิ้นที่มีการกล่าวถึงวัดพระยืนก็คือ “ตำนานป่าแดง” เมืองเชียงตุง บันทึกเอาไว้ว่า วัดพระยืนนี้เป็นวัดหนึ่งใน 7 วัด ซึ่งเป็นพุทธปราการ) ถ้านับจนถึงปัจจุบันนี้วัดพระยืนก็มีอายุ 1300 ปีแล้วครับ



อีกตำรานึงก็ว่าวัดพระยืนเดิมชื่อ วัดพฤทธมหาสถาน สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 1606 – 1611 โดยพระเจ้าธรรมิกราช กษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญไชย






ตัววัดพระยืนจะอยู่คนละฝั่งแม่น้ำกวงกับวัดพระธาตหริภุญไชย จากประตูท่าสิงห์ วัดพระธาตุหริภุญไชย (ซุ้มประตูสีขาวหน้าพระวิหารที่มีสิงห์ 2 ตัว) จะมีสะพานไม้ทอดข้ามแม่น้ำแม่กวงปัจจุบันเป็นสะพานไม้ที่มั่นคงแข็งแรงมีหลังคาคลุมเรียกว่า “ขัวมุง” และมีถนนตัดตรงไปยังวัดพระยืนได้ ถนนเส้นนี้เป็นถนนโบราณปัจจุบันเป็นถนนสายวัฒนธรรมตัดผ่านชุมชนชาวยองที่อาศัยอยู่บริเวณตำบลเวียงยอง จ.ลำพูน





ประมาณปี พ.ศ. 1606 พระเจ้าอาทิตยราช (บางตำราออกพระนามว่าพระเจ้าธรรมิกราช) กษัตริย์ผู้ครองนครลำพูนลำดับที่ 32 ได้หล่อพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางประทับยืนสูง 18 ศอก ออกพระนามว่า “พระอัฎฐารส” แล้วอัญเชิญมาประดิษฐานไว้หลังพระวิหารวัดพระยืนพร้อมทั้งสร้างปราสาทสถูปเป็นที่ประดิษฐานพระพระอัฎฐารสด้วย





ในหนังสือตำนาลมูลศาสนา กล่าวไว้ว่า เมื่อ พ.ศ. 1912 พระเจ้ากือนากษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่ทรงนิมนต์พระสุมนเถระจากกรุงสุโขทัยขึ้นมาเพื่อเผยแพร่พุทธศาสนานิกายรามัญวงศ์ (ลังกาวงศ์เก่า) โปรดฯให้พระสุมนเถระพำนักอยู่ที่วัดพระยืน นครหริภุญไชย ในการนี้ได้ร่วมกับพระเจ้ากือนาปฎิสังขรณ์พระมณฑปละพระพุทธรูปยืนที่พระเจ้าอาทิตยราชสร้างขึ้นแล้วสร้างพระพุทธรูปยืนขึ้นอีก 3 องค์ ด้วยศิลาแลงมีขนาดเท่าๆกัน และนำไปประดิษฐานในซุ้มเจดีย์ทรงปราสาททั้ง 3 ทิศที่เหลือ จากบทร้อยกรองเรื่อง “นิราศหริภุญไชย” ที่แต่งขึ้นราวปี พ.ศ. 2060 กล่าวถึงเจดีย์วัดพระยืนว่าเป็นเจดีย์ทรงปราสาท มีโขงทะลุถึงกันทั้งสี่ด้าน ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป 4 องค์ อันหมายถึงพระพุทธเจ้าทั้ง 4 องค์ คือ พระกุกสันธะ พระโกนาคม พระกัสสปะ และพระสมณโคดม






ต่อมาเจดีย์ทรงปราสาทนั้นได้ทรุดโทรมและปรักหักพังลง ส่วนยอดพังลงมาจนถึงซุ้ม ส่วนพระพุทธรูปที่ประดิษฐานคงเหลือสมบูรณ์เพียงด้านทิศตะวันออกเพียงองค์เดียว ในปี พ.ศ. 2477 พระครูศีลวิลาส (พระคันธวงศ์เถระหรือครูบาวงษ์) เจ้าคณะจังหวัดลำพูนพร้อมด้วยเจ้าหลวงอินทยงยศ เจ้าผู้ครองนครลำพูน ได้ร่วมกันปฎิสังขรณ์เจดีย์ทรงปราสาทที่ปรักหักพังลงขึ้นมาใหม่โดยให้ “หนานปัญญาเมือง” ชาวบ้านหนองเส้งผู้เป็นช่างหลวงออกแบบและควบคุมการก่อสร้างขึ้นมาใหม่ โดยให้ก่อหุ้มคลุมพระเจดีย์เก่าไว้ภายใน (เป็นเหตุผลที่ห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้นไปบนลานประทักษิณ) แล้วเอาอิฐ หิน และดินของพระเจดีย์เก่าที่พังลงมานั้นถมกลับเข้าไปในเจดีย์ใหม่ โดยเจดีย์องค์ใหม่นี้ทำด้วยศิลาแลงและอิฐมีฐานสูงกว่าพระเจดีย์องค์เดิมมาก






เจดีย์วัดพระยืนในปัจจุบันเป็นศิลปกรรมแบบพม่าคล้ายเจดีย์วัดสัพพัญญูและอานันทเจดีย์ในประเทศพม่า จากพื้นดินสร้างลดหลั่นกันเป็นชั้นๆจนถึงชั้นลานประทักษิณ ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วและบันไดขึ้นถึงลานประทักษิณทั้ง 4 ด้าน มีเจดีย์บริวารองค์เล็กอยู่ทั้ง 4 มุม






ผังของเรือนธาตุของเจดีย์เป็นรูปสี่เหลี่ยม มีซุ้มจรนำขนาดใหญ่ทั้ง 4 ด้าน ยึดรูปแบบเดิมของพระเจดีย์เก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระยากือนา แต่ละด้านประดิษฐานพระพุทธรูปยืนสีทอง เหนือขึ้นไปเป็นมาลัยเถา 4 เหลี่ยมซ้อนกัน 3 ชั้น ยอดประดับด้วยฉัตร แล้วมียอดเล็กๆล้อมรอบยอดฉัตรอีก 4 ยอด






จุดที่น่าสนใจอยู่ที่เหนือลานประทักษิณใต้ฐานพระพุทธรูปยืนด้านหนึ่งมีการสร้างรูปปั้นนูนต่ำรูปเสือประดับไว้เพื่อระลึกถึงชื่อเดิมของวัดนี้คือ “วัดกู่เสือ” เพราะสมัยโบราณบริเวณวัดยังเป็นป่ารกทึบ มีเสือออกเพ่นพ่านอยู่เนืองๆ จึงมีการปั้นรูปเสือเอาไว้เพื่อระลึกถึง






ด้านหน้าของพระเจดีย์มีพระวิหารหลวงที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี มีการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2537 ตัวพระวิหารสร้างเป็น 2 ตอน ฐานล่างสูงประมาณ 4 เมตร ยาว 24 เมตร กว้าง 12 เมตร เดิมทางด้านเหนือมีมุขบันไดนาคขึ้นสู้พระวิหาร 2 ทาง มีห้องเล็ก 1 ห้อง ใช้เป็นที่สอนนักธรรม และมีระเบียงเดินได้รอบพระวิหาร







พระอุโบสถสร้างในสมัยพระเจ้ากือนา ได้รับการบูรณะใหญ่ครั้งล่าสุดราปี พ.ศ. 2470 กว่าๆ ราวบันไดทางเข้ามีตัวมอม ซึ่งเป็นสัตว์ในเทพนิยายของทางภาคเหนือ มีพระพุทธศักยมุนีศรีหริภุญไชย หรือ หลวงพ่อใหญ่ เป็นพระประธานประจำพระอุโบสถ (องค์ใหญ่สีทอง)













นอกจากนั้นบริเวณภายในวัดหลังพระเจดีย์และหลังพระอุโบสถยังมีซากโบราณสถานอีกมากมาย จากการศึกษาปรากฏว่าอิฐเหล่านั้นมีอายุย้อนขึ้นไปถึงสมัยพระนางจามเทวีเลยทีเดียวครับ



วัดพระยืน จังหวัดลำพูน เป็นวัดที่ประวัติอันยาวนานและมีสิ่งน่าชมมากมาย ทั้งภายในวัดก็มีบรรยากาศที่ร่มรืน เงียบสงบ ถ้าได้มีโอกาสมาเที่ยวจังหวัดลำพูนอย่าลืมแวะมาเที่ยว วัดพระยืน กันนะครับ





ขอบคุณ code เพลงจากบล็อก "ป้ากล้วย" ครับ







Chubby Lawyer Tour ………………………… เที่ยวไป.... ตามใจฉัน





SmileySmileySmiley




Create Date : 05 พฤษภาคม 2559
Last Update : 5 พฤษภาคม 2559 18:50:36 น.
Counter : 2514 Pageviews.

9 comments
  
ลำพูนวัดเยอะจริงง ๆ ค่ะ วัดเก่าแก่ สวย ๆ ทั้งนั้นเลย
โดย: mariabamboo วันที่: 5 พฤษภาคม 2559 เวลา:20:12:51 น.
  
วัดสวยมากค่ะน้องบอลล์
อ่านประวัติแล้วแต่ละสถานที่เก่าแก่ยาวนานจริงๆ
เพลงเพราะมากค่ะ
โดย: Banana Muffin วันที่: 5 พฤษภาคม 2559 เวลา:21:03:18 น.
  
มากราบพระด้วยค่ะคุณบอล
วัดพระยืนก็มีอายุ 1300 ปีแล้วนะคะ
นับเป็นวัดที่เก่าแก่ น่าอนุรักษ์และน่าไปเยือนมากค่ะ

โหวตท่องเที่ยวค่ะ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

ทนายอ้วน Travel Blog ดู Blog

..................................

ราตรีสวัสดิ์นะคะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 5 พฤษภาคม 2559 เวลา:23:46:12 น.
  
thx u crab
โดย: Kavanich96 วันที่: 6 พฤษภาคม 2559 เวลา:3:19:38 น.
  
มาแอ่วบ้านเวียงยอง (แต่บ่อแม่นบ้านยองเนาะ)
เคยเดินจากขัวมุงมาแถวนีนี่นา มาแค่ศูนย์ทอผ้าแล้วก็กลับ
วันนี้ได้แอ่วละ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ทนายอ้วน Travel Blog ดู Blog

โดย: ป้าทุยบ้านทุ่ง วันที่: 6 พฤษภาคม 2559 เวลา:12:22:18 น.
  
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ
โบสถ์สวยมากๆ
โดย: Raizin Heart วันที่: 6 พฤษภาคม 2559 เวลา:13:22:30 น.
  
สถาปัตยกรรมสวยงามเลยนะครับ มีอายุ 1300 ปี!! ผ่านยุคผ่านสมัยมานานมากจริงๆ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Mitsubachi Food Blog ดู Blog
แมวเซาผู้น่าสงสาร Food Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
mariabamboo Parenting Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Travel Blog ดู Blog
โดย: NaiKonDin วันที่: 6 พฤษภาคม 2559 เวลา:15:11:40 น.
  
พระพุทธรูปยืนสีทองอร่ามสีสันตัดกับเจดีย์ทรงประสาทจนดูขลังมากเลยครับ
โดย: แมวเซาผู้น่าสงสาร วันที่: 7 พฤษภาคม 2559 เวลา:21:59:31 น.
  
สงสัยต้องไปเจาะลึกลำพูนตามรอยคุณทนายอ้วนแล้ว แต่ละวัดนี่เด็ดๆ ทั้งนั้น ผมนี่นักเที่ยววัดตัวยงเลย
โดย: ไอฟายน้อย (Ces ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2559 เวลา:23:01:04 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทนายอ้วน
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?]