Dream Travel : เที่ยว Kansai ตอนที่ 2 : Shirakawa
อ่านตอนแรก
ตอนที่สอง
บล็อกตอนแรกห่างจากบล็อกตอนที่สองนานสักหน่อยนะคะ คือว่า "ติดซีรี่ย์ฝรั่ง" เลยไม่ได้อัพบล็อกกันเลยทีเดียว
สำหรับการเดินทางวันที่สองของเรา เป้าหมายก็คือ Shirakawa ko อันเป็นไฮไลท์ของการเดินทางครั้งนี้ค่ะ
เราเช็คเอาท์แต่เช้าเลยค่ะ ดูจากเวลาเดินรถไฟในเวบ Hyperdia แล้วเราจองตั๋วไปทาคายาม่าเพื่อนั่งรถบัสต่อไปชิารคาว่าให้ทันเที่ยวได้เต็มอิ่ม
ต้องขึ้นรถไฟจากสถานีโอซากา สาย Hida Wide No.25 To Takayama
เราก็ไปนั่งรอกันแต่เช้าเลยนะคะ เพราะเป็นตั๋วไม่กำหนดที่นั่ง ใครมาก่อนได้นั่งก่อน มีซื้อข้าวกล่องแบบญี่ปุ่น หน้าตาน่ากินไว้กินอร่อยๆ ระหว่างเดินทางด้วยค่ะ
เราไปนั่งรอที่เก้าอี้ตรงหัวขบวน แต่ปรากฏว่า เจ้าโบกี้ที่เป็นโบกี้ไม่กำหนดที่นั่งมันดันเลยออกไปอีก รู้ตัวเมื่อสาย เดินไปก็พบว่าคนต่อคิวกันยาวแล้ว
บทเรียนการขึ้นรถไฟด่วน ควรเช็คให้ดีว่าโบกี้ไม่กำหนดที่คือโบกี้ที่เท่าไหร่ และโบกี้นั้นจอดพอดีตรงเบอร์ไหนของชยชาลา (สถานีรถไฟใหญ่ๆ มีรถด่วนจอดหลายสาย บนชานชาลาจะมีเบอร์บอกค่ะว่าตรงนั้นเป็นที่จอดของโบกี้เลขที่เท่าไหร่ บางขวนไม่ได้จอดที่ต้นชานชาลาก็มี)
เมื่อไปช้ากว่าเขาเพราะเราไม่รู้ จึงต้องยืนกันไปค่ะ ผู้โดยยสารนั่งเต็มทุกที่นั่ง คนญี่ปุ่นก็นิยมไปเที่ยวทาคายาม่าและชิราคาว่าเช่นกัน
ตกลงกับพี่สาวว่า เราต้องยืนกินอาหารเช้าของเราเสียแล้วล่ะ เปิดผอบอาหารเช้าออกมา
น่าทานใช่มั้ยคะ ขอบอกว่ารสชาติก็ดีแบบญี่ปุ่นมากๆทีเดียว สองคนกินด้วยกันกล่องเดียวค่ะ ประหยัดเงินไว้จ่ายค่ารถไฟ
วิวจากหน้าต่างรถไฟขวน Hida wide ที่ชื่อนี้เพาะว่าเอกลักาณ์ของหน้าต่างอันกว้าง เห็นวิวได้กว้างนั่นเอง (แต่ถ้าไปเจอช่วงแดดส่อง และคนที่นั่งติดหน้าต่างไม่ชอบแดด ม่านก็ถูกปิดนะคะ อดดูวิวกันไป)
วิวธรรมชาติตามเส้นทางค่ะ สวยและสะอาดน่ามองมาก
จะว่าไป เส้นทางรถไฟบ้านเราก็มีวิวสวยๆ หลายเส้นนะคะ หากเรานิยมใช้รถไฟในการเดินทางมากขึ้น เชื่อว่าการรถไฟจะมีกำลังใจในการพัฒนาเส้นทางไปได้อีก รอๆ รอให้ประเทศเรามีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้ดีกว่านี้ ซึ่งไม่รู้ว่าอีกกี่ปีนะ เพราะอีกหน่อยสังคมของเราจะเป็นสังคมผู้สูงวัยมากขึ้น ฉะนั้นผู้เฒ่าหูตาฝ้าฟางขับรถเองไม่ได้ก็อาจจะมีมากขึ้นนะคะ
เมื่อถึงสถานีปลายทาง Takayama เราก็มองหาสถานีขึ้นรถบัสโนฮิค่ะ เดินออกจากสถานีมาแล้วไปทางซ้ายก็เจอ (ตรงหน้าสถานีมีศูนย์ให้ข้อมูลนักท่องเที่ยว สะดวกมาเลย)
เราซื้อตั๋วไปกลับนะคะ ระหว่างรอรถก็เอากระเป๋าไปฝากที่โรงแรม คืนนี้เรานอนที่วอชิงตันทาคยาม่า สะอาดและสะดวก ใกล้สถานีรถไฟมากๆ ค่ะ แนะนำเลยหากใครต้องการมาเที่ยวทาคายาม่า
ภาพบนนี้คือซาลาเปาไส้ถั๋วแดงค่ะ แต่ของกินขึ้นชื่อของแถบนี้คือเนื้อฮิดะ ดิฉันไม่ทานเนื้อหากไม่จำเป็น จึงเลือกทานไส้ถั่วแดง ระหว่างรอรถบัส ขณะรอก็ได้ยินบทสนทนาภาษาไทยจากคนรอบข้าง แสดงว่าคนไทยนิยมมาเที่ยวที่นี่มากเช่นกันนะคะ
วิวจากรถบัสค่ะ นั่งข้างหน้าจะได้เห็นวิวเต็มทาง ชอบจังสภาพภูมิประเทศที่มีเขาสูงสลับ ยอดเขามีสีขาวของหิมะปกคลุม สีของท้องทุ่งหญ้เป็นสีฟางแล้ว แบบนี้แหละคือฤดูหนาวที่อยากเห็น
พอรถจอดป้ายชิราคาว่า เราก็เดินที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว ได้แผนการเดินชมฉบับภาษาไทยมาด้วยค่ะ แต่สิ่งแรกที่เราทำเมื่อมาถึงคือ...
จับหิมะ มันช่างฟูนุ่มเหมือนแป้งเลยค่ะ
สะพาน De-Ai เป็นสะพานเชื่อมระหว่างทางเข้าหมู่บ้านกับตัวหมู่บ้านค่ะ
เมื่อเราข้ามสะพานไปก็จะพบหมูบ้านที่มีลักษณะพิเศษตามสถาปัตยกรรมของถิ่นนี้ค่ะ นั่นคือบ้านกัสโช และหมูบ้านนี้เป็นหมู่บ้านที่ยังมีบ้านกัสโชอยู่หลายหลังที่สมบูรณ์ ทางการจึงเสนอหมู่บ้านนี้ให้เป็นหมู่บ้านมรดกโลกค่ะ
จากรูป จะเห็นว่าหลังของบ้านทำทำจากวัสดุธรรมชาติแต่ต้องแข็งแรงพอที่จะทนต่อสภาพอากาศได้ อย่างที่ชิราคว่ามีปริมาณของหิมะตกหนัก หลังคาจึงต้องหนาแบบนี้ไงคะ
มาชมภาพกันเถอะ
เหมือนในนิทานนกกระเรียนกับชาวนาเลย แปลกใจอยู่อย่างหนึ่งว่า ญี่ปุ่นเขาสร้างที่ผิงไฟในบ้านเนื่องจากอากาศหนาวมากและอาจมีหิมะตก แต่ทางเหนือบนดอยของเรา ก่อไฟนอกบ้านแต่หิมะไม่ตก ทั้งที่บ้านของทั้งสองที่ใช้วัสดุที่ติดไฟในการสร้างบ้านเหมือนกัน
แหล่งน้ำธรรมชาติกับปลาคาร์พ
ตุ๊กตาหิมะค่า น่ารักดีนะ เด็กๆที่บ้านมาเห็นคงต้องดีใจแน่ๆ ตอนเด็กๆ เราก็อยากปั้นตุ๊กตาหิมะดูเหมือนในการ์ตูนจากเมืองนอกเหมือนกัน
แนะนำว่า ถ้าพบร้านใดในหมู่บ้านน่าเ้าก็เข้าไปลองทานอาหารหรือขนมกันนะคะ จะได้ช่วยรายได้ของชาวบ้านด้วย อย่างในรูปนี้เป๋นคาเฟ่เล็กๆ ค่ะ แต่ดิฉันไม่ได้เข้าไปอุดหนุน เพราะติดเรื่องเวลา อยากเดินชมรอบหมู่บ้าน เก็บอาหารตาก่อนอาหารท้อง
เดินขึ้นเขาเล็กๆ แต่ระยะทางยาวพอสมควร อยากขึ้นไปชมวิวข้างบนค่ะ เราจะได้เห็นภาพหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านเลย
ณ จุดนี้ ฟินมากค่ะ จริงๆ อยากลองพักค้างคืนที่นี่นะคะ แต่เรามีแผนว่าจะไปเดินตลาดเช้าที่ทาคายาม่า จึงต้องเลือกพักที่ทาคายาม่าแทน เมื่อเห็นว่าใกล้ห้าโมงอันเป็นเวลาที่รถบัสเที่ยวสุด ที่จะกลับไปทาคายาม่า เราจึงเร่งฝีเท้าจากยอดเนินไปที่ป้ายรถเมล้โดยไว ขาลงสบายกว่ากว่าขาขึ้นมากมายค่ะ
รสบัสก็เช่นกันนะคะ เราต้องไปต่อคิวเพื่อขึ้นรถนะคะ
เมื่อรสบัสมาถึงทาคายาม่า เราก็ออกหาของกิน ทีนี้ เขาร้ำำลือว่า มาทาคายาม่า ต้องมากินเนื้อฮิดะ เลยขอลองหน่อยนะ (แม้จะไม่กินเนื้อวัว แต่ก็อดใจไม่ลองไม่ได้)
จำชื่อร้านที่ไปทานไม่ได้ค่ะ แต่ถ้าเดินจากซอยข้างธนาคารซากุระไปเรื่อย จะเจอร้านเองแหละ ร้านจะมีป้ายรูปวัวแขวนอยู่
เมื่อได้ชิมเนื้อฮิดะแล้ว ขอบอกว่ามันนุ่ม ละมุนมาก บวกกับรสชาติน้ำซุปหวานหอมด้วยแล้ว โอ๊ยฟินกันไปค่ะ
ใครชอบเนื้อวัว ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงนะคะ มื้อนี้เราจ่ายหนักเอาการค่ะ ทานเป็นเซ็ตกับพี่สาวคนละเซ็ท ค่าฟินจบกันที่ 8000 กว่าเยน (เฮือก)
คืนนี้อิ่มสบายท้อง หลับสบายใจ แล้วพรุ่งนี้ เราไปเดินตลาดเช้าของทาคายาม่ากันนะคะ
Create Date : 25 มกราคม 2559 |
Last Update : 29 มกราคม 2559 10:56:02 น. |
|
4 comments
|
Counter : 961 Pageviews. |
|
|