ตามที่ใจหวังมันสงบลง เหมือนคลื่นลมท่ามกลางพายุที่จู่ ๆ ก็หายเกรี้ยวกราด อยู่ดี ๆ ก็เหมือนมีใครมากดเปิดสวิตซ์ไฟในหัว ทำให้ความเศร้าหมองที่มีมัน
เจือจางลง อย่างที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ
หรือว่าเราจะยอมรับความจริงได้แล้ว ไอ้ความคิดถึงมันก็ยังมีบ้าง อยากกลับไป
พูดเล่นกัน war กัน นู่นนี่นั่นกันขำ ๆ เหมือนเดิมจัง อยากได้บรรยากาศแบบนั้น
กลับมา บรรยากาศของเพื่อนที่พูดเล่น ปรึกษาพูดคุยขำ ๆ ฮา ๆ ได้เหมือนเดิม
การสู้มันดีกว่าการหนีมากเลยนะ เพราะตอนนี้เข้าใจแล้วว่า ความจริงยังไงมันก็
เป็นความจริงอยู่วันเย็นค่ำ จะหลอกตัวเองไปทำไมกันนะ จะเสียเพื่อนเพราะ
ความรู้สึกไม่ตรงกันทำไม สู้เปลี่ยนความรักที่เคยมีเป็นความหวังดีที่มีต่อกัน
จะไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าเรารักเค้าจริง ๆ เราก็ต้องอยากเห็นเค้ามีความสุขสิ แต่ที่
ผ่านมาเพราะเรารักตัวเองรึเปล่าเราถึงอยากเข้าไปเป็นเจ้าของ อยากได้รับ
ความรักตอบนู่นนี่นั่น
พอคิดบวกแล้วมันก็ดีมากเลยนะ ใจมันสงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็รู้ตัวดีว่า
เมื่อไหร่ที่ไม่มีสติอีก อารมณ์เหล่านั้นมันก็อาจจะถูกกิเลสกวนให้ขุ่นขึ้นมาอีก
ฉะนั้น สติสำคัญมาก พอมีสติก็ไม่บ้า ปัญญาเกิด
เก็บความรู้สึกดี ๆ ที่เคยได้รับไว้สิคะตัวเธอ แล้วก็อย่าตกลงไปในกับดักของ
ความรัก โดยไม่พิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ให้ดีแบบนี้อีก
หวังว่าพรุ่งนี้และวันต่อ ๆ ไป จะคิดได้แบบนี้ไปตลอด สาธุ ไปบวชเลยดีมั้ยเนี่ย 555+