Group Blog
 
All blogs
 

You Were My Light















You Were My Light


 



ทุกอย่างหมุนติ้วไปหมด ผมสับสนกับทุกสิ่งในตอนนี้
มันเหมือนกำลังดูหนังแฟลชแบ็ค
เรียบเรียงข้อมูลในหัวสมองไม่ถูกว่าอะไรเกิดขึ้นก่อนหรือหลัง
ผมพยายามนั่งนิ่งๆ ประคองหัวสมองที่ปวดตึ้บๆให้อยู่กับคอ
ไม่นานผมก็เริ่มจำได้ เมื่อคืนนี้เราเริ่มปาร์ตี้กันค่ำๆ เมาทั้งเหล้าทั้งยา
สุดท้ายก็เย็ดกันมั่วซั่วนี่นา พอถึงตอนนี้ผมก็เริ่มมองรอบตัว
ผมนอนกอดใครอยู่เนี่ย
? เธอเป็นผู้หญิงผิวแทน ผมหยิก
ดูโทรมๆ ผมจำเธอไม่ได้ และไม่คิดว่าเคยรู้จักกันมาก่อน
คนที่นอนกันเกลื่อนตรงนี้ เป็นเพื่อนผม 2 คน นอกนั้นใครวะ
?



ช่วงชีวิตนึงของผม ออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก
ด้วยสาเหตุที่จนด้วยปัญญาจริงๆ แม้ว่าผมตั้งใจจะสร้างชีวิตใหม่ตั้งแต่อายุ14
แต่นั่นก็เป็นเพียงฝันลมๆแล้งๆของเด็ก เอาเข้าจริงผมอยู่กับฝันได้ 3เดือน
ทุกอย่างก็พังทลายหมด ไหนล่ะชีวิตใหม่
?
ไหนล่ะอนาคตที่ดีที่ผมฝันถึง
?
ทิ้งบ้านทิ้งโรงเรียนมาเพื่อสิ่งที่เอื้อมไม่ถึง จะกลับไปก็อายเขา
ทุกอย่างจบไปแล้วหลังจาก 3เดือนแห่งความโอหังของเด็กคนนึง
ผมไม่ตัดใจแค่นั้นหรอก ทันทีที่ผมกลายเป็นโฮมเลส ผมไม่โทษใคร
คิดอย่างเดียวว่าจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปยังไง
เร่ร่อนอยู่กับกีตาร์ตัวเดียวมาหลายวัน ที่นอนก็ไม่มี
แต่ผมก็ไม่รู้สึกย่ำแย่นัก มันยังพอมีความสนุกอยู่บ้าง
จนผมได้พบเพื่อนที่สังคมกากบาทหัวพวกนี้ไว้ว่าขยะสังคม จะยังไงก็ตาม
เขาช่วยเหลือผม พาผมไปอยู่ในดงคนแปลกๆ แต่ผมไม่มีอะไรต้องเครียดหรอก
ผมไม่เหลืออะไรแล้วในตอนนั้น ไปก็ไป



เดวี่เป็นผู้หญิงหากิน
ชื่อเทวีแต่ฝรั่งเรียกกันเดวี่ๆๆ ผมรู้จักเธอหลังจากปาร์ตี้มั่วๆจบลง
เธอเป็นคนที่อยู่ในอ้อมกอดผมโดยที่ผมไม่รู้จักมาก่อน
เช้าวันนั้นผมตื่นขึ้นมาด้วยความแฮงค์ที่สุดในชีวิต
แล้วผมก็เด็กที่สุดในฝูงเพื่อนด้วยสิ เรื่องของผมในตอนนั้นดูเหมือนจะน่าเวทนา
เพื่อนๆเห็นว่าผมเป็นเด็กที่หลงมาจากกรุงเทพ ไม่รู้เรื่องอะไร มันก็จริง
ผมเล่นกีตาร์เปิดหมวกได้แค่นั้นแหละ
มาอยู่ที่นี่เพื่อนๆก็มักจะคิดว่าผมไม่เหมาะกับความเป็นขยะ
พวกนั้นเลยนั่งคิดนอนคิดว่าผมควรจะทำอะไรดี



พอตื่นกันหมดเราก็มานั่งคุยกัน
เดวี่เป็นเพื่อนของเพื่อนอีกที
เธอผู้นี้เริ่มต้นกับผมโดยการพาผมไปแนะนำตัวกับเพื่อนๆเธอที่ทำวงดนตรี
พาผมออกจากที่ตรงนั้น ไปอยู่กับเธอและเพื่อนๆ


บ้านของเดวี่เป็นห้องเช่าแคบๆ
มีแค่เตียงกับโต๊ะแต่งหน้า วันไหนต้องรับแขกที่ห้องผมก็ต้องออกไปเดินเล่น
คืนแรกผมหลับด้วยความอ่อนเพลีย เดวี่เธอกลับมาตอนเที่ยง
เอามาม่ามาให้ผมห่อนึง ส่วนตัวเธอเองบอกว่ากินกับแขกมาแล้ว อยู่แบบนี้เรื่อยๆ
วันนึงผมได้กินแค่มาม่า บางวันโชคดีก็ได้ 2 ห่อ
วันไหนที่เดวี่ไม่โดนแมงดาไถมากนักเธอก็จะได้ค่าตัวอยู่ที่ 300 บาท
เพราะเธอไม่ใช่เป็นคนสวย วันไหนได้เงินเต็มๆเธอก็จะซื้อกับข้าวกับปลามากินกัน


(ผมมารู้ทีหลังว่าวันที่หมดได้กินมาม่า วันนั้นเธอต้องอด
ที่เธอบอกว่ากินกับแขกมาแล้วนั้นเป็นเรื่องโกหก
)
จนเด็กแถวนั้นมันเวทนา
แล้วชวนผมไปขอกระดูกหมูที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเขาทิ้งเป็นถุงๆหลังร้าน
ผมเก็บกระดูกไว้ ไม่กินก่อน รอมาม่าของเดวี่แล้วเรากินด้วยกัน
ชีวิตช่วงนั้นผมก็มีความสุขอยู่ในระดับเพียงพอเลยทีเดียว




นั่นเป็นความทุกข์ยากลำบากของเรา ก่อนที่ผมรวมวงได้
ชีวิตกลับฟื้นขึ้นอีกครั้ง ผ่านไปไม่นานผมก็ตั้งตัวได้
ผู้หญิงคนนี้ที่ใครๆเหยียดหยาม เธอได้ให้ชีวิตใหม่แก่ผม



.....


 



ในช่วงเวลานั้น
ผมเป็นเพียงแค่เด็กอ่อนโลกที่ไม่เคยรู้อะไรที่อยู่ในฉากหลังเลยสักอย่าง
เพื่อนผู้ให้คนนี้ ช่างมีชีวิตที่ย่ำแย่
ชีวิตวัยเด็กของเธออยู่ในครอบครัวที่แตกร้าว
จนกระทั่งวันนึงพ่อของเธอได้กระทำการฆาตรกรรมภรรยา ต่อหน้าลูก
ลงท้ายคือแม่ตายพ่อติดคุก เดวี่ใชัชีวิตแบบเด็กเร่ร่อนจนกระทั่งมาขายตัว
เป็นเวลาหลายปีที่ต้องนอนข้างถนนบ้าง ในเรือบ้าง ทำให้เธอเป็นโรคปอดชื้น
และในที่สุดก็เรื้อรัง ผมไม่เคยรู้ว่าเธอต้องต่อสู้กับโรคร้ายมานานมากแล้ว
ผู้หญิงคนนึงที่มองเห็นคนเป็นคน ช่วยเหลือผมมามากที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมา
ชี้ทางให้ผมจนวันนึงผมมีงานล้นมือจนไม่มีเวลาดูแลเธอ
เราไม่ได้รักกันแบบชู้สาว เราเป็นเพื่อนที่สนิท และผมไว้ใจมากที่สุด
แต่ด้วยความที่ผมพยายามรับงานให้มากเข้าไว้ จึงไม่มีเวลา
ผมและเพื่อนในวงเริ่มห่างจากเธอออกไปเรื่อยๆ เราไม่เคยลืมเธอ
ยังคุยกันอยู่เลยว่าไม่นานพวกเราก็รวมเงินซื้อบ้านได้แล้ว
เอาเดวี่มาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน
เธอจะได้ไม่ต้องลำบากใช้ชีวิตแบบนั้นอีกต่อไป แต่มันก็สายเกินไป
เราได้ข่าวว่าเดวี่เสียชีวิตด้วยโรคปอดบวม และน้ำท่วมปอด
พวกเราไปได้แค่ทันวันเผา เงินที่เพื่อนสาวๆเรี่ยไรได้มีไม่มาก
งานศพจึงเป็นอะไรที่เกิดขึ้นแค่เฉพาะสิ่งจำเป็น
ผมเสียใจที่ไม่ได้มีเวลาพูดคุยและดูแลเธอผู้มีพระคุณให้มากกว่านี้




ทุกวันนี้ผมไปเยี่ยมที่ไว้อัฐิเธออยู่บ่อยๆ
ผมพูดเสมอว่าไม่มีแกก็ไม่มีฉันในวันนี้
หวังว่าคำพูดนั้นจะสื่อถึงดวงวิญญาณของเธอที่อาจจะมีอยู่ที่ไหนสักแห่ง
นี่หรือชีวิตของผู้หญิงที่ใครต่อใครประณาม
ตั้งแต่ผมเกิดมายังไม่เคยเห็นใครที่จิตใจประเสริฐเท่าเธอมาก่อนเลย เพื่อนเอ๋ย
ไม่ว่าใครจะรังเกียจเดียดฉันท์แกยังไง แก่แกคือผู้หญิงสูงค่าสำหรับฉันเสมอ


 


 



จบ



เด็กชายชีวิตบรรลัย


 


 








 

Create Date : 28 กันยายน 2549    
Last Update : 28 กันยายน 2549 5:49:27 น.
Counter : 516 Pageviews.  

ศพแมวในกล่องข้าว Cat's corpse on meal box









แย่มากๆ
แค่คิดจะเขียนเรื่องนี้ก็แป้กแล้วว่ะ



ศพแมวในกล่องข้าว



จะเขียนลงไดมานานละ
ไม่เอาดีกว่า มันเรื่องของเพื่อนผมด้วยน่ะ แต่แบบนี้ค่อยยังชั่ว
เขียนไปก็ไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นใคร


 



เพื่อนผม ชื่อดา
ดาเป็นผู้หญิงที่หดหู่ โลกของเธอเป็นสีดำ ผมเป็นเพื่อนใหม่สุดของเธอในตอนนั้น
ก็เลยยังไม่รู้สาเหตุ แต่ผมสนใจเธอมาก เพราะเธอโศกเศร้าได้ตลอดเวลา
และเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายที่สุดเท่าที่เคยเจอมา




เพื่อนของผมทุกคนที่นั่นและตัวผมเอง ล้วนมีปูมหลังที่เลวร้ายทั้งนั้น
คบกันไปสักพักพวกเราก็มาตั้งวงแลกกันเล่าเรื่องแย่ๆที่เจอมา
พอมาถึงเรื่องของเธอ เราทุกคนขนลุกมากๆ ผม ในใจไม่เชื่อ ผู้หญิงคนนี้โกหกแน่ๆ
โกหกโรคจิตซะด้วยสิ



เรื่องมีอยู่ว่า



เล่าลำบากวุ้ย-*-

เท้าความจากสมัยก่อนที่ดาจะเกิด ไม่รู้จะพูดยังไงดี
แต่พ่อของดากับพี่ชายของดา คือคนเดียวกัน แม่เป็นกะหรี่ขี้ยา
ธรรมดาของพัทยาอะนะ ไม่นานแม่ก็ตั้งท้อง ได้ลูกผู้ชาย ชีวิตย่ำแย่ลงเรื่อยๆ
ร่างกายทรุดโทรมจากงานและยา สุดท้ายก็ทำงานไม่ได้
ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างเหี่ยวแห้ง



เธอนอนกับลูกชายตอนที่เขาอายุ
12 และดำเนินต่อไปเรื่อยๆราวปีกว่าเธอก็ตั้งท้อง กับลูกชายตัวเอง
เด็กในท้องก็คือดาเพื่อนผม พ่อของดาเริ่มเกิดอาการเสียสติ
เพราะที่แม่ทำกับเขานั้นก็ผิดมากแล้ว เขายังทำให้แม่ท้อง
เขาฆ่าตัวตายหลังจากดาเกิดมาได้ไม่กี่วัน เนื่องจากเหตุการณ์นี้
ทำให้แม่ของดาเสียใจอย่างมาก
เฝ้าแต่โทษลูกสาวว่าเป็นสาเหตุทำให้สามีและลูกชายตัวเองต้องตาย



เหลือแค่แม่ลูกอีกครั้ง
หากแต่แม่ลูกคู่นี้ สัมพันธ์กันด้วยความแค้น



แม่ผู้กลั่นแกล้งลูกสาวต่างๆนาๆ ยังไม่หยุดบั่นทอนชีวิตตน
จากที่ติดยาก็เริ่มติดเหล้าด้วย ดาเล่าให้ผมฟังภายหลังว่าแม่พูดเสมอเวลาเมา
"ถ้าไม่กลัวติดคุก กูฆ่ามึงไปนานแล้ว"
ถ้อยคำเลวๆทำร้ายจิตใจดามาตลอด
ปลูกฝังให้ดาเป็นคนเย็นชาและเกลียดแม่ยิ่งกว่าใครๆ ยิ่งลูกสาวเกลียดเท่าไหร่
แม่ยิ่งแค้นมากขึ้นเท่านั้น อยู่ด้วยกันมาหลายปีสองแม่ลูกมีแต่เอาชนะกัน
ดาจะได้เปรียบหน่อยเพราะชาวบ้านแถวนั้นเข้าข้าง
แม่ของดาเป็นที่รังเกียจของทุกๆคน
แต่ผลจากการที่เกิดมาในครอบครัวแบบนี้ก็ทำให้ดาไม่มีเพื่อน
เลี้ยงแมวไว้ก็อยู่แต่กับแมว รัก เอ็นดู และพูดกับมันเหมือนเป็นเพื่อน



9ขวบเท่านั้น ในเวลานั้น
เด็กหญิงได้แมวน้อยเป็นเสมือนเพื่อนและทุกสิ่งที่ขาด
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แม่เริ่มลดเลเวลของความชิงชังลง เริ่มพูดดีกับลูก
ก่อนไปโรงเรียน แม่ทำกับข้าวกล่องให้ดาทุกเช้า
แต่ดานั้นไม่เคยไว้ใจและวางใจเธอแม้สักนิดเดียว เป็นแบบนี้อยู่ร่วม 3เดือน



เช้าวันนั้น
แม่ตื่นเช้ามาทำกับข้าวให้ลูกอย่างปกติ กลิ่นเครื่องเทศหอมฟุ้งทั่วบ้าน
พอถึงเวลาที่ดาต้องไปทำงาน ดาจะเช็คข้าวแมวทุกครั้ง ถ้าหมดแล้วจะเติมให้
แต่ครั้งนี้ข้าวไม่ลดลงเลย ด้วยความที่ไม่ได้คิดอะไรดาก็ไปโรงเรียนตามปกติ
พักกลางวันก็หยิบข้าวกล่องออกมากินตามปกติ แต่เมื่อเธอเปิดขึ้นมา
มันคือแมวสุดที่รัก อบกับเครื่องเทศอย่างตั้งใจ
เธอกรีดร้องครั้งสุดท้ายและหมดสติไป



2วันที่ดาหลับอยู่ที่โรงพยาบาล
และเมื่อเธอตื่นขึ้นมา มีเพียงอาการหวาดผวาคนรอบข้าง
เรื่องแบบนี้รุนแรงไปสำหรับเด็ก 9ขวบ ใช้เวลานานมากกว่าเธอจะหายหวาดกลัว
แต่นับจากวันนั้นเธอก็พูดไม่ได้อีกต่อไป กลายเป็นคนใบ้



ผ่านไปปีเดียวแม่ดาก็ตาย
หมดเวรหมดกรรมกันไป ดาเริ่มพูดได้อีกครั้งเมื่ออายุ 14 ก่อนที่ผมจะเจอเธอ 1ปี




เวลานั้นพวกเราเป็นกลุ่มเด็กบ้านแตกที่รวมตัวกัน อยากมีความฝันบ้าง
อยากมีกำลังทำมัน



ณ บ้านที่พวกเราอยู่คืนนั้น
หลังจากที่ดาเล่าเรื่องของเธอจบ มีคนนั่งร้องไห้กอดคอกัน
เป็นเรื่องที่แย่จนผมไม่เชื่อน่ะ แต่พอเวลาผ่านไป ได้คุยกับใครแถวนั้น
ศึกษากันมากขึ้นก็รู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ สังคมอะน้า...



จบ



เด็กชายชีวิตบรรลัย











 

Create Date : 21 กันยายน 2549    
Last Update : 23 กันยายน 2549 2:25:00 น.
Counter : 273 Pageviews.  

บทนำแห่งความลับของผม










ผมอยู่กับไดอารี่และบล็อกมาก็นาน



บล็อกที่นี่เป็นบล็อกไทยอันแรกของผม

ความตั้งใจของผมคือผมต้องการที่ว่างๆ เอาไว้ใส่ความเลวร้าย

มีไดอารี่นิ ทำไมไม่ไปอัพในนั้น
?

บังเอิญว่ามีคนรู้จักผมเยอะ และศัตรูก็เยอะ

สิ่งที่ผมจะเขียนนี้เป็นความลับที่ผมปิดบัง

แต่เรื่องแบบนั้นไม่สมควรเก็บไว้คนเดียว










ผมยังเป็นเด็กนัก เมื่อเทียบกับกาลเวลายาวนานแห่งวิวัฒนาการมนุษย์
ความเลวร้ายที่เด็กคนนึงเจอมา ไม่สามารถเล่าให้ใครฟังได้หรอก ณ
วันนี้ผมมีวัยวุฒิ คุณวุฒิ
เพียบพร้อมที่จะใช้ชีวิตของตนเองอย่างใจตนกำหนด
มีเพื่อนฝูงและคนรู้จักมากพอควร ผมเป็นที่พึ่งของใครต่อใคร
ผมเป็นหัวหน้าครอบครัว ผมไม่อาจเปิดเผยความเลวร้ายในอดีต



ผมเป็นเด็กที่นั่งอยู่ในซอกหลีบแห่งความอ่อนแอเสมอ


 


 


 



สังคมโสโครก สิ่งชั่วร้ายแอบแฝงปนเปไปทั่วทุกแห่งหน
มันเกิดกับผมและใครอีกหลายๆคน
เรื่องพวกนี้จำเป็นต้องเปิดเผยสู่โลกกว้าง
จะต้องมีคนรู้ว่ามันยังมีแบบนี้อยู่ในสังคม
เสียดายที่ผมไม่สามารถเปิดเผยตัวได้ แต่ว่าถ้าเป็นในนี้
?
ผมทำได้ ไม่มีใครรู้จักหน้าค่าตา ไม่มีชนชั้น ไม่มีฐานะทางสังคม
ไม่มีนิติกรรม ไม่มีอะไรมาค้ำคอผม ผมจึงจะเล่า



ผมเป็นสื่อที่ชั่วร้าย เปนผู้ชายสองฉาก


 





อย่างว่าอะนะ
ในนี้ไม่มีใครรู้จักผม คำพูดของผมหยาบคาย

ตรงไปตรงมาตามความรู้สึก

คอมเมนท์ทุกคนผมอ่าน แต่ผมจะไม่ตอบกลับ

อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้เขียนบล็อกเพื่อให้คนมาสงสารหรือสมเพช

แต่ถ้าคอมเมนท์คุณมาแนวนั้นผมก็ไม่ลบ

ผมจะไม่ทำอะไรนอกจากเขียนและอ่าน



ขอบคุณ



เด็กชายชีวิตบรรลัย


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 







 

Create Date : 21 กันยายน 2549    
Last Update : 21 กันยายน 2549 22:18:31 น.
Counter : 229 Pageviews.  


ความลับของผม
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ไม่ติดต่อใครใดๆทั้งสิ้น
Friends' blogs
[Add ความลับของผม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.