ขนมเทียน (หนึ่งในขนมทำบุญสารทเดือนสิบ)
ปลายสัปดาห์ที่จะถึงนี้เป็นวันงานบุญสารทเดือนสิบค่ะ ที่บ้านของหนูแดงจะมีประเพณีการทำบุญให้กับบรรพบุรุษ แต่ละบ้านจะมีการทำขนมเยอะเลย หนึ่งในขนมวันสารทคือขนมเทียนค่ะ ขนมเทียนเหมือนกับในวันตรุษจีนหรือวันไหว้ของชาวไทยเชื้อสายจีนนั่นล่ะค่ะ
ย้อนไปเมื่อสมัยเด็ก หนูแดงไปมายะลากรุงเทพปีละสองถึงสามครั้ง คุณพ่อเป็นคนยะลาและเป็นปกติเหมือนสมัยนี้ที่เวลามีงานบุญประเพณีก็มักจะพาคุณแม่กับลูกๆลงมาเยี่ยมบ้าน มาหาคุณปู่คุณย่า มาก่อนจะถึงวันทำบุญสามสี่วันทำให้ลูกๆได้ซึมซับกับประเพณีท้องถิ่น
หนูแดงเคยนั่งดูคุณย่าทำขนมช่วงก่อนจะถึงวันสารท เคยได้วุ่นวายมากกว่าหยิบจับช่วยคุณย่าตามประสาเด็กซน(มาก) โดนดุบ่อยเพราะผู้ใหญ่จะกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ซนแบบลิงเรียกพี่เลยล่ะ
คุณย่าจะทำขนมเยอะ หนูแดงมักจะหยิบมาทานก่อนคนอื่นเสมอ อยู่แผนกทดสอบรสชาติขนมค่ะ อร่อยทุกครั้งแหละ ส่วนหนึ่งที่ทำเยอะเพราะนอกจากเอาไปวัดแล้วจะได้ฝากเพื่อนบ้าน แล้วก็ใส่ถุงให้หนูแดงเอากลับมาทานที่กรุงเทพด้วย ขนมของคุณย่าเสียยากอาจจะเพราะกวนไส้แห้ง การใช้วัสดุธรรมชาติก็คงจะช่วยได้ด้วย และที่สำคัญคือสดใหม่ ยิ่งเวลาเห็นหนูแดงเอาใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆคุณย่าจะหัวเราะเสียงดังแบบคนใต้เลย คงไม่นึกว่าเด็กกรุงเทพฯท่าทางกินยากๆแบบหนูแดงจะกินขนมแบบนี้ได้มั้ง
จนกระทั่งคุณพ่อย้ายลงมาประจำที่ปักษ์ใต้ ได้มีโอกาสไปซนบ่อยทุกสัปดาห์ คราวนี้ไม่ต้องรองานบุญ เวลาที่อยากทานคุณย่าจะทำให้เลยค่ะ อิ่มด้วย อร่อยด้วย แล้วก็อ้วนเอาๆจนถึงทุกวันนี้เลย 555
คุณย่าหลายคนจะบอกว่าเป็นคนดุ ท่านสร้างเนื้อสร้างตัวมาเองจากลูกจ้างกรีดยางกระทั่งมีสวนผลไม้ มีสวนยาง มีร้านขายของ เลยอาจจะทำให้เสียงดัง แต่หนูแดงไม่กลัวคุณย่า ไม่รุ้ทำไมเหมือนกันที่ไม่กลัว หลานคนอื่นรวมถึงน้องชายก็กลัวนะ แต่หนูแดงเฉยๆ รึอาจจะเพราะเป็นหลานสาวคนเดียวที่เดินไปไหนมาไหนกับย่าตลอดก็ได้ค่ะ เลยทำให้ไม่รุ้สึกว่ากลัวคุณย่า (...เคยกลัวใครบ้างล่ะฉันน่ะ)
เล่าเรื่องใบตองต่อ เห็นกองอยู่นี่ไปเหมายายแก่ๆมาค่ะ ไปตลาดเพื่อหาใบตองนี่หล่ะ เจอยายแก่ๆคนหนึ่งมัดตะไคร้ขาย ข้างตัวมีใบตองเป็นพับๆอยู่ ถามราคายายบอกว่า "มัดละ 20 บาท" หนูแดงกับพี่ชายสตั๊นท์ไป 3 วินาที 20 บาทนี่ถือว่าถูกมากๆๆๆๆๆ พี่ชายบอกว่าซื้อเท่าที่ขนไหวพอ เอา 3 มัดเพราะเราต้องไปซื้อของอย่างอื่นอีกหลายอย่าง แต่พี่ชายนั่นล่ะที่สงสารยายเดินกลับไปเหมาหมด ... สุดท้ายต้องขนกันมาใส่รถก่อน ไม่สามารถที่จะเดินต่อได้เพราะเหมามาซะเยอะ ไม่มีมือจะถือรายการอื่น เหนื่อยเลย
พอกลับมาถึงบ้านจัดการนำใบตองแผ่ออกผึ่งลม เวลาห่อขนมจะได้ไม่แตกง่าย พี่ชายบอกว่าเราโชคดีได้ใบตองกล้วยน้ำว้า เวลานึ่งขนมจะหอม ใบตองกล้วยตานีใช้สำหรับทำงานประดิษฐ์ สีสวย เหนียว ไม่ตอกง่าย แต่เวลานึ่งขนมจะไม่หอมเท่าใบตองจากกล้วยน้ำว้า (สามีแก่ ดีเยี่ยงนี้เอง 555)
ใบตองนิ่มแล้วเอามาตัดเป็นวงกลม (ไม่มีรูปนะคะ) แต่หนูแดงตัดเป็นทรงหยดน้ำ โดยจะใช้ปลายด้านแหลมเป็นทางสอดเวลาที่ห่อค่ะ
ว่าด้วยเรื่องตัวไส้ แต่บอกก่อนว่ารูปไม่มีมาก หนูแดงทำตามสั่งจากลูกค้าเลยมีจำนวนมากแล้วทำคนเดียวเพราะพี่ชายตัดใบตองเสร็จก็ต้องรีบกลับไปทำงาน อิเมียเศร้าสิ ... ทำไปคนเดียว 
ต่อๆ ไส้เค็ม เป็น ไส้ถั่วเผ็ด (หนูแดงเรียกตามใบโพธิ์เรียก) ส่วนผสม ถั่วทองแช่น้ำแล้วนำไปนึ่งสุก น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทรายชนิดไม่ฟอกสี หัวหอมแดงซอย พริกไทดำบด เกลือ น้ำมันพืช (หนูแดงใช้น้ำมันถั่วเหลืองทั่วไปค่ะ)
อัตราส่วนใช้กะเอานะคะ ทำไปชิมรสไปตามที่ชอบเลยค่ะ
วิธีทำไส้ (ตามแบบของหนูแดง) ถั่วทอง หรือถั่วเขียวซีกนำมาล้างแล้วแช่น้ำข้ามคืนก่อนนำไปนึ่งให้สุก แต่หนูแดงเล่นวิธีลัด ใช้ต้มเอาค่ะ ต้มไฟอ่อน หมั่นคนกันเวลาเดือดฟองจะล้นหม้อที่ต้มแล้วก็ไม่ให้ถั่วที่นอนก้นอยู่ไหม้ ใส่น้ำพอประมาณ ที่นำไปต้มเพราะขี้เกียจปั่นค่ะ ต้มเอาแบบที่เปื่อยๆเลย แต่จะเสียเวลากวนนิดนึงเพราะจะแห้งช้ากว่าถั่วนึ่งนะคะ (ไม่ต้องเติมน้ำเพิ่มให้น้ำเจิ่งนะคะ ถั่วที่แช่นี่นิ่มแล้ว ใช้เวลาต้มไม่นานจะสุก เราแค่เคี่ยวให้เปื่อยน้ำงวดลงจนเกือบแห้งเท่านั้นเองค่ะ)
ได้ถั่วต้มแล้ว พักไว้ นำหอมแดงซอยมาเจียวให้หอมกรอบตักขึ้น เหลือน้ำมันไว้ในกระทะ (หนูแดงใช้น้ำมัน 1 ถ้วย หอมแดงซอย 2 ขีดค่ะ)แล้วเอาน้ำตาลปี๊บ เกลือ น้ำตาลทรายชนิดไม่ฟอกสีลงกวนไปในกระทะได้เลย ตามต่อด้วยพริกไทดำบด (หนูแดงใส่เยอะค่ะ ใครไม่ทานเผ็ดใส่แค่พอได้กลิ่นเอาก็ได้) พอส่วนผสมเริ่มข้นก็เอาถั่วต้มใส่เลย กวนให้เข้ากัน ชิมได้เลยค่ะ ถ้าร้อนมากๆจะชิมไม่รู้รส เผื่อถั่วกวนแห้งด้วยนะคะรสอาจจะจัดไป เอาที่ชอบแต่ไม่ต้องจัดมากก็ได้ ขาดเหลืออะไรให้เติมตอนนี้เพราะเวลากวนถั่วจะได้รสชาติเสมอกัน
กวนจนแห้งร่อนจากกระทะเลยค่ะ เสร็จแล้วเติมหอมเจียวที่เราพักไว้ คนให้เข้ากันแล้วดับไฟพักรอเย็น จะได้ตัวไส้เค็มอย่างภาพด้านบนค่ะ
ตัวไส้เย็นแล้ว ปั้นเป็นลูกๆรอไว้ หนูแดงให้เด็กๆทำ ตรงนี้คิดถึงคุณย่ามาก สมัยหนูแดงเด็กๆจะนั่งบนเสื่อข้างๆคุณย่า สมัยลูกนั่งโต๊ะเอาแล้วกัน ไม่ต่างบริบทกันมากนัก
มาถึงตัวเปลือกขนมเทียน บอกก่อนว่า แป้งมี 2 สูตร แต่จะลงเฉพาะสูตรที่หนูแดงใช้เอง อัตราส่วนของน้ำตาลกับเกลือกะเอานะคะ ไม่ได้หวงสูตรเลย แต่อาศัยว่าโตมาคุณย่าให้ทำเองตลอด ใช้หลังมือแตะเอาเสมอค่ะ
ส่วนผสม แป้งข้าวเหนียว 300 กรัม แป้งข้าวจ้าว 100 กรัม เกลือ (กะเอาพอเค็มปะแล่ม) ปะแล่มของหนูแดงประมาณ ครึ่งช้อนชา น้ำตาลปี๊บ หนุแดงใช้มือหยิบ อันนี้ไม่ได้ชั่งจริงๆ กะเอาว่าน่าจะ 100 กรัม น้ำมันพืช (ประมาณ 1 ถ้วย)
ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ใช้หลังมือแตะ แป้งแฉะๆหน่อยนะคะ แต่ต้องไม่ติดหลังมือ ถ้าติดหลังมือเติมแป้งข้าวเหนียวเพิ่ม แต่ถ้าแห้งเกินไป เติมน้ำเพิ่มนะคะ เสร็จแล้วพักแป้งไว้ 2 ชม.ค่ะ (หาผ้าคลุมด้วยนะ)
เวลาประกอบร่าง นำน้ำมันใส่ถาดหรือถ้วยก้นลึกไว้รอเลย ใส่เยอะๆเลยค่ะ แล้วหยิบแป้งมาประมาณเท่าตัวไส้แล้วแผ่ออก(อาจจะแผ่ยากหน่อยนะคะเพราะแป้งจะนิ่มมาก)เอาแป้งมาห่อไส้เสร็จแล้ววางลงในถาดน้ำมัน ตักน้ำมันราดๆบนตัวขนมให้ชุ่มแล้วหันไปทำกรวยใบตองเพื่อห่อขนม ได้แล้วก็ตักขนมมาใส่กรวยติดน้ำมันไปนิดหน่อยไม่เป็นไรค่ะ บางคนอาจจะทาใบตองด้วยน้ำมันแต่หนูแดงไม่ได้ทำแบบนั้น คุณย่าบอกว่าใบตองจะดูดน้ำมัน อาจจะทำให้ห่อยาก แต่ก็ตามถนัดค่ะ เอาขนมใส่กรวยแล้วก็จัดการห่อค่ะ วิธีห่อ หนุแดงไม่ได้ทำเป็นคลิป หาคลิปได้ตาม YOUTUBE นะคะ
เสร็จแล้วใส่ลังถึงเตรียมนึ่งค่ะ
หนูแดงนึ่งครึ่งชั่วโมง เสร็จแล้วยกออกมาปล่อยทิ้งไว้ให้เย็นแล้วค่อยแกะทานได้ ทานตอนอุ่นๆอาจจะติดมือหน่อยก็อร่อยดีค่ะ แต่หนุแดงชอบทานตอนเย็นตัวลงแล้วมากกว่า ที่ทำมีสามสี มีสีขาว สีน้ำตาลอ้อย แล้วก็สีดำ(ใช้แป้งข้าวเหนียวดำ)
อันนี้แกะตอนอุ่นๆ ไม่เป็นทรง แต่เหนียวนุ่มอร่อยดีค่ะ
อันนี้ใส่กระทงเปิด ข้อดีคือไม่ต้องพับยาก แต่ข้อเสียคือ เก็บนานไม่ได้ หน้าขนมจะแห้งๆ ไม่อร่อยค่ะ เหมือนข้อดีของใบตองจะเป็นการรักษาแป้งหรือเปลือกของขนมให้คงความชุ่มชิ้น เหนียวนุ่ม ไม่แห้ง ให้ความหอมของใบตองไปกับตัวขนมด้วยอย่างนั้นเลยค่ะ
ห่อแบบนี้จะดีที่สุดในความรู้สึกส่วนตัวของหนูแดง จริงๆถ้าฝึกได้ฝึกห่อเลยค่ะ ห่อไม่ยากเลย (แอบแอนตี้ประเภทใส่พิมพ์ซิลิโคนนิดหน่อย แต่ถ้าหาใบตองไม่ได้ใส่พิมพ์แบบนั้นก็ไม่ว่ากันค่ะ เอาที่คุณสะดวก ได้กินเหมือนกัน อร่อยเหมือนกันดีที่สุดค่ะ)
บอกแล้วว่าทำเอง กินเองค่ะ ใบโพธิ์ทานขนมเทียนได้ ชอบด้วย
ลาด้วยภาพสวยๆส่งเสริมการขายขนม อยากให้คนไทยหันกลับมานิยมขนมไทย หนูแดงเองก็ชอบทำขนมไทยนะคะ แต่ทำสองอย่างเลยทั้งขนมไทยและเบเกอร์รี่เพราะกลุ่มลูกค้าต่างกัน จริงๆแล้วเสน่ห์ขนมไทยไม่แพ้ขนมชาติอื่นๆเลยค่ะ เจอกันบล็อคหน้านะคะ ขอบคุณค่ะ
| Create Date : 27 กันยายน 2559 |
| Last Update : 27 กันยายน 2559 20:24:44 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 3630 Pageviews. |
 |
|
โดนดุบ่อยเพราะผู้ใหญ่จะกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ซนแบบลิงเรียกพี่เลยล่ะ 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [
น่ากินมาก ๆ ด้วย
บุ๊งไม่เคยลองทำขนมเทียนเลยค่ะ แหะ ๆ