|
|||
บัลลังก์แห่งคิเรบัส : บทที่ 16 บทที่ 16
เมื่อเรื่องวุ่นวายในคิเรบัสได้จบลงแล้ว ภายในแคว้นก็กำลังอยู่ในภาวะเตรียมงานเฉลิมฉลองครั้งใหญ่อีกหนึ่งงานนั่นก็คือพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์องค์ใหม่ของแคว้นซึ่งเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากทีนิส ***************************** ก่อนถึงงานราชาภิเษกจะเริ่มขึ้นในอีกสามวัน ภายในเมืองทาลีนอันเป็นเมืองหลวงของแคว้นคิเรบัสก็เต็มด้วยผู้คนจากต่างแคว้นที่เดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานครั้งสำคัญในการขึ้นครองราชย์ของทีนิส บรรดากษัตริย์และราชนิกูลผู้ครองแคว้นต่างๆ ทั้งที่เป็นแคว้นในปกครองและแคว้นสัมพันธมิตรต่างก็เดินทางมาเพื่อแสดงความยินดีเช่นกัน ภายในปราสาทของผู้ครองแคว้นจึงมีความคึกคักมากเป็นพิเศษ ทีนิสที่ยังอยู่ในฐานะรัชทายาทนั้นก็ต้องคอยต้อนรับผู้มาเยือนจากแคว้นต่างๆ จนแทบจะไม่ได้พักกันเลยทีเดียว แต่ยังไม่ทันที่จะได้รู้สึกเบื่อหน่ายทั้งที่เหนื่อยล้าจากการต้อนรับผู้มาเยือนตลอดทั้งวัน หัวใจของเขาก็ต้องเร่งจังหวะขึ้นเมื่อข้ารับใช้ที่คอยดูแลท้องพระโรงประกาศว่า ราชาผู้ครองแคว้นดาร์ซีและองค์หญิงรัชทายาทเดินทางมาถึงแล้ว ทีนิสแทบจะควบคุมตัวเองให้ยืนนิ่งๆ แทบไม่ไหวเมื่อเห็นร่างสูงระหงที่เดินตามหลังร่างสูงสง่าของโลเอลเข้ามาในท้องพระโรง นางขโมยลมหายใจของเขาไปจนหมดสิ้นด้วยการแต่งกายอย่างงดงามสมกับฐานะรัชทายาท และแน่นอนว่าไม่ใช่มีเพียงแค่ทีนิสเท่านั้นที่ตกตะลึงในความงามของนาง เพราะกีเธอร์ที่ยืนอยู่ข้างกายเขานั้นก็กำลังมองรัชทายาทหญิงของแคว้นดาร์ซีอย่างไม่วางตาเช่นกัน ทีนิสโค้งให้กับโลเอลก่อนจะกล่าวคำทักทาย คิเรบัสขอต้อนรับพ่ะย่ะค่ะ เป็นเกียรติยิ่งนักที่ได้มาเป็นสักขีพยานในงานสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นเช่นนี้ แล้วโลเอลก็ผายมือมาทางไบรโอเนีย นี่คือธิดาของข้า นางชื่อไบรโอเนีย ไบรโอเนียที่เอาแต่ก้มหน้ามองพื้นอย่างสำรวมกิริยานั้นก็ย่อตัวทำความเคารพแก่เขาพร้อมกับกล่าวคำทักทาย เป็นเกียรติที่ได้พบองค์รัชทายาทเพคะ เพราะเรื่องการช่วยเหลือทีนิสนั้นเป็นความลับพวกเขาจึงต้องทำเป็นเหมือนเพิ่งเคยพบกันมาก่อน ทีนิสจับมือของนางที่ยื่นมาให้เพื่อจะจุมพิตตามธรรมเนียม แต่ทว่าเขาเองก็จงใจที่จะประทับริมฝีปากแนบแน่นลงบนหลังมือของนางในขณะที่สายตานั้นก็จับจ้องนิ่งที่นาง แล้วเขาก็เห็นว่าแววตาของนางนั้นวูบไหวอยู่เพียงชั่วครู่ก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาและเหินห่างเหมือนดังไม่เคยพบเจอกันมาก่อน ข้าเองก็รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบท่านเช่นกัน องค์หญิงไบรโอเนีย ไบรโอเนียชักมือกลับแล้วก็บีบมันเข้าหากันแน่นเพื่อระงับความหวั่นไหวที่กำลังก่อตัวขึ้นภายในใจ แล้วนางก็ปั้นยิ้มให้กับเขา หม่อมฉันของแสดงความยินดีกับพระองค์ด้วยนะเพคะ ลำพังข้าคนเดียวคงไม่สามารถทำได้หรอก ต้องขอบคุณผู้มีพระคุณของข้าทุกคนที่คอยช่วยเหลือจนข้าได้กลับมายืนอยู่ในปราสาทแห่งนี้อีกครั้งด้วย เขากล่าวแฝงความนัยพร้อมกับจ้องมองนางอย่างไม่วางตา ซึ่งนั่นก็ทำให้ไบรโอเนียแกล้งหลุบตาลงต่ำเพื่อหลบสายตาของเขาก่อนจะเอ่ยตอบ เป็นโชคดีของพระองค์แล้วเพคะ แต่หม่อมฉันว่าความสำเร็จในการกลับคืนสู่คิเรบัสได้นั้นก็น่าจะเป็นเพราะพระปรีชาอันปราชญ์เปรื่องของพระองค์มากกว่า ทีนิลอบถอนหายใจเมื่อรับรู้ถึงถ้อยคำเสียดสีที่แฝงในคำพูดของนาง แต่ต่อหน้าผู้ครองแคว้นต่างๆ เช่นนี้เขาไม่อาจจะพูดจาอะไรได้อย่างที่คิดเพราะเรื่องการช่วยเหลือจากแคว้นดาร์ซีนั้นจำเป็นจะต้องปกปิดเอาไว้เป็นความลับเพื่อความมั่นคงของทั้งสองแคว้นนั่นเอง และทีนิสก็จำต้องปล่อยให้โลเอลและไบรโอเนียเดินจากไปเมื่อมีเสียงประกาศมาว่าผู้มาเยือนคนใหม่เดินทางมาถึงแล้ว เห็นทีพวกข้าจะต้องขอตัวก่อน แล้วค่อยพบกันในงานเลี้ยงคืนนี้ก็แล้วกันนะองค์รัชทายาท ทีนิสค้อมศีรษะรับก่อนจะมองตรงไปยังไบรโอเนียแล้วเอ่ย หวังว่าหม่อมฉันจะได้สนทนากับพระองค์มากกว่านี้ในงานเลี้ยงนะพ่ะย่ะค่ะ โลเอลหัวเราะหึ ได้สิ ข้ารอที่จะพูดคุยกับท่านในหลายๆ เรื่องเชียวล่ะ ใช่ไหมไบรโอเนีย หม่อมฉันคิดว่าองค์รัชทายาทน่าจะมีเรื่องที่จะสนทนากับเสด็จพ่อมากกว่าหม่อมฉันนะเพคะ แล้วนางก็ย่อตัวให้กับเขา ถ้าจะทรงกรุณา หม่อมฉันต้องขอตัวก่อน แล้วไบรโอเนียก็สอดมือเข้าไปในแขนของโลเอลแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทางหนึ่งเพื่อให้ผู้มาเยือนใหม่ได้เข้ามากล่าวทักทายแก่ทีนิสต่อไป ทีนิสมองร่างระหงที่เดินจากไปแล้วก็ลอบถอนใจเมื่อรับรู้ถึงความหมางเมินทั้งในน้ำเสียงและกิริยาของนางได้ ไม่แปลกใจเลยที่นางจะมีท่าทางแบบนั้นเพราะนางคงยังโกรธเขาอยู่ แต่เขาจะต้องอธิบายให้นางเข้าใจว่าเพราะอะไรเขาจึงต้องปิดบังนางเรื่องแผนการที่ไม่ได้บอกให้นางรู้ซึ่งโอกาสนั้นก็คงจะเป็นงานเลี้ยงรับรองแก่บรรดาผู้ครองแคว้นทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้นั่นเอง ***************************** ทีนิสได้จัดให้แขกผู้มาเยือนนั้นได้พักกันอย่างเป็นสัดส่วนในปีกด้านตะวันออกของปราสาท และงานเลี้ยงรับรองนั้นถูกจัดขึ้นในห้องจัดเลี้ยงที่ถูกประดับประดาไว้อย่างงดงามด้วยโคมไฟและภาพวาดจากจิตรกรชื่อดังของแคว้น ภายในโถงภายนอกห้องจัดเลี้ยงนั้นเหล่าผู้ครองแคว้นและผู้ติดตามต่างก็จับกลุ่มสนทนากันกระจายอยู่โดยรอบ ร่างสูงระหงเดินตามหลังโลเอลเพื่อทักทายและสนทนากับเหล่าผู้ครองแคว้นต่างๆ และบรรดาขุนนางระดับสูงของแคว้นคิเรบัสด้วยความรู้สึกที่ทั้งอึดอัดและไม่คุ้นเคย แม้ว่าเวลาปกติที่ไม่ได้ทำภารกิจไบรโอเนียก็แต่งกายเยี่ยงสตรีสูงศักดิ์ทั่วไปอยู่แล้ว แต่ว่าการที่นางจะต้องแต่งตัวเต็มยศด้วยชุดออกงานราตรีสโมสรเช่นนี้กลับดูแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อต้องกลายเป็นเป้าสายตาของคนในงาน ด้วยฐานะที่นางเพิ่งปรากฏตัวสู่สายตาของวงสังคมชั้นสูงเป็นครั้งแรก แค่เพียงตอนที่นางปรากฏตัวเมื่อตอนกลางวัน ข่าวเรื่องความศิริโฉมงดงามของนางก็แพร่กระจายไปทั่ว พอโลเอลแยกไปยืนพูดคุยกับกษัตริย์ผู้ครองแคว้นอื่นแล้ว ไบรโอเนียต้องแสร้งปั้นหน้ายิ้มทักทายและพูดคุยกับทั้งผู้ครองแคว้นและเจ้าชายจากต่างแคว้นที่เวียนเข้ามาสนทนากับนางตามหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติ หม่อมฉันเพิ่งรู้ว่าแคว้นดาร์ซีมีเจ้าหญิงรัชทายาทที่งดงามราวกับเทพธิดาเช่นนี้ เจ้าชายคาเด็น รัชทายาทของแคว้นบาฮารีหนึ่งในแคว้นในปกครองของคิเรบัสเอ่ยชมนางหลังจากที่ได้ทักทายแนะนำตัวกันแล้ว ขอบพระทัยสำหรับคำชม แต่หม่อมฉันไม่ได้มีความงามในถึงระดับเช่นนั้นหรอกเพคะ นางกล่าวตอบรับคำชมอย่างถ่อมตนพลางลอบถอนหายใจเบาๆ เมื่อเจ้าชายคาเด็นทำสายตาโปรยเสน่ห์ใส่นาง แล้วทำไมตลอดเวลาที่ผ่านถึงไม่ยอมออกงานสมาคมระหว่างแคว้นหรือพ่ะย่ะค่ะ เพราะหม่อมฉันจำได้ว่าแคว้นดาร์ซีนั้นไม่ค่อยมีโอกาสได้มางานแบบนี้สักเท่าไร แถมหม่อมฉันก็เคยได้พบเฉพาะพระบิดาของพระองค์เท่านั้น ก่อนหน้านี้หม่อมฉันสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงนัก ก็เลยไม่ค่อยมีโอกาสติดตามพระบิดาไปที่ไหนไกลๆ ไบรโอเนียแสร้งทำหน้าเศร้ากับโชคชะตาของตัวเอง ทั้งที่สาเหตุแท้จริงนั้นก็เป็นเพราะนางมัวแต่ยุ่งกับงานสายลับที่ต้องคอยไปลักลอบสืบข้อมูลตามภารกิจต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายมาต่างหาก และนางก็หันไปขึงตาใส่เอ็ดการ์เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากราชองครักษ์ประจำตัวของตนที่คอยยืนอารักขาอยู่ ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าจริงๆ แต่หม่อมฉันหวังว่าองค์หญิงจะทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงขึ้นแล้วถึงได้มาร่วมงานนี้ได้ เพคะ พระบิดาของหม่อมฉันให้แพทย์หลวงช่วยดูแลหม่อมฉันอย่างใกล้ชิดจนแข็งแรงขึ้นมาก หรือนี่อาจจะเป็นพรหมลิขิตที่หม่อมฉันได้มาพบเจอกับองค์หญิงในงานนี้ก็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ ไม่พูดเปล่า เจ้าชายคาเด็นยังยกมือของนางมาแตะริมฝีปาก ซึ่งนั่นก็ทำให้ไบรโอเนียรีบส่งสัญญาณให้กับเอ็ดการ์มาพานางออกไปจากการตกอยู่ในวงล้อมของการเกี้ยวพาราสีจากเจ้าชายต่างเมืองเสียที ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ องค์ราชาทรงมีรับสั่งให้หม่อมฉันมาทูลเชิญองค์หญิงให้ไปร่วมสนทนาด้วย เอ็ดการ์กล่าวพร้อมกับโค้งให้กับเหล่าราชนิกูลอย่างนอบน้อม แล้วก็ผายมือเชิญให้ไบรโอเนียเดินเลี่ยงไป และเมื่อหนีออกมาได้โดยทิ้งรอยยิ้มหวานให้เจ้าชายเหล่านั้นเก็บเอาไปเคลิ้มฝันได้แล้ว ไบรโอเนียก็ต้องทำท่าโล่งอกออกมาอย่างไม่ปิดบัง ดูท่าทางจะทรงเพลิดเพลินกับงานนี้พอสมควรนะพ่ะย่ะค่ะ ไบรโอเนียตวัดตาค้อนใส่เอ็ดการ์ เจ้าเห็นว่าข้าเป็นเช่นนั้นหรือ ราชองครักษ์หนุ่มหัวเราะหึ หม่อมฉันก็เห็นองค์หญิงทรงยิ้มแย้มอยู่ได้ตลอดเลยไม่ใช่หรือ ข้าก็แค่ทำตัวเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทผู้งดงามแห่งแคว้นดาร์ซี เสด็จพ่อคงเสียหน้าแน่ถ้าหากว่าข้าไม่ทำตัวดีๆ เข้าไว้ แต่ข้ากำลังเบื่อกับการเกี้ยวพาราสีของพวกเจ้าชายจากแคว้นอื่นก็เท่านั้นเอง แล้วนางก็ปั้นหน้ายิ้มอีกครั้งเมื่อพระราชาจากแคว้นทางตะวันออกเดินเข้ามาสนทนากับนาง เอ็ดการ์โคลงศีรษะแล้วยิ้มด้วยกึ่งขบขันและกึ่งเห็นใจองค์หญิงของตนอย่างเหลือประมาณ แต่ทว่าเขาก็ต้องหันไปทางด้านหนึ่งเมื่อมีการประกาศว่าขอเชิญแขกที่อยู่ในโถงนั้นเข้าไปในห้องรับรองเพื่อร่วมโต๊ะเสวยกับว่าที่กษัตริย์องค์ใหม่ได้แล้ว และเมื่อแขกทุกคนเข้าไปยืนอยู่ตรงเก้าอี้ประจำที่ของตนเองแล้ว นักดนตรีก็บรรเลงเพลงเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าองค์รัชทายาทของคิเรบัสกำลังจะเสด็จมาถึงแล้ว ทีนิสในชุดแต่งกายเต็มยศดูสง่างามสมกับตำแหน่งรัชทายาทแห่งแคว้นคิเรบัสที่เดินออกมาจากประตูบานใหญ่ที่อยู่ตรงทิศเหนือของโต๊ะอาหารกล่าวทักทายทุกคนและเชิญให้ทุกคนนั่งลงได้ และในขณะที่พวกข้ารับใช้กำลังเสิร์ฟทั้งอาหารและไวน์ เหล่าผู้ครองแคว้นในแต่ละคนก็ผลัดกันลุกขึ้นยืนและกล่าวแสดงความยินดีต่อทีนิสทีละคนจนครบ และท้ายที่สุดทีนิสก็ยืนขึ้นและกล่าวขึ้นมาบ้าง หม่อมฉันขอขอบพระทัยผู้ครองแคว้นทุกพระองค์ที่อุตส่าห์เดินทางไกลมาเพื่อร่วมเป็นสักขีพยานในงานสำคัญที่จะเกิดขึ้นในวันอีกสองวันหลังจากนี้ และหม่อมฉันก็หวังว่าหลังจากนี้ไปทุกแคว้นจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและถ้าหากแคว้นใดแคว้นหนึ่งต้องการความช่วยเหลือ คิเรบัสก็ยินดีที่จะช่วยเหลือถ้าหากไม่เกินความสามารถของเรามากเกินไป เขาชูแก้วไวน์ของตัวเองขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มให้กับผู้ร่วมงานทั้งหมด หม่อมฉันหวังว่าอนาคตในภายหน้าทั่วทุกแคว้นคงจะมีสันติภาพซึ่งกันและกัน พอมีนิสพูดจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้นเกรียวกราว ซึ่งเขาก็ยิ้มรับด้วยความรู้สึกพึงพอใจกับปฏิกิริยาตอบรับของผู้นำแคว้นทั้งหลาย แล้วโค้งให้กับทุกคนก่อนที่จะนั่งลงและเริ่มรับประทานอาหารพร้อมกับสนทนากับเหล่าผู้นำแคว้นต่างๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่คงจะมีเพียงองค์หญิงรัชทายาทแห่งแคว้นดาร์ซีเท่านั้นที่เอาแต่นั่งยิ้มเฉยและไม่หันมามองเขาเลยสักนิด ซึ่งสิ่งที่ทีนิสเห็นเช่นนั้นก็ทำให้เขาลอบถอนหายใจพลางรอคอยโอกาสว่าเมื่อไรเขาจะได้พูดคุยกับนางตามลำพังเสียที ***************************** หลังจากที่รับประทานอาหารมื้อค่ำแล้วเหล่าผู้นำแคว้นก็ถูกเชิญออกมาสังสรรค์กันต่อในโถงรับรอง โดยโอกาสที่ทีนิสรอคอยอยู่นั้นดูเหมือนจะไกลห่างออกไปทุกทีเมื่อเขาต้องพูดคุยกับกษัตริย์ผู้ครองแคว้นและตัวแทนของแต่ละแคว้นตามธรรมเนียมเจ้าบ้านที่ดี แต่ทว่าในขณะเดียวกันจิตใจและสายตาของเขากลัวพะวักพะวงอยู่กับรัชทายาทแห่งแคว้นดาร์ซีที่กำลังยืนยิ้มแย้มอยู่ในวงล้อมของเจ้าชายต่างแคว้น ซึ่งนั่นก็ทำให้ใจของเขาร้อนรุ่มจนนึกอยากจะผละจากคู่สนทนาไปลากนางออกมาจากตรงนั้นเสียแต่ทว่าก็ไม่อาจจะทำได้เมื่อดูเหมือนราชาของแคว้นในปกครองของเขาจะมีเรื่องมากมายที่อยากจะพูดคุยกับเขามากกว่าที่คิดเอาไว้ กว่าที่ทีนิสจะปลีกตัวออกมาได้ ไบรโอเนียก็หายลับไปจากสายตาของเขาเสียแล้ว เขาเดินหานางไปทั่วงานอย่างร้อนใจแต่ทว่าก็ไม่พบแม้แต่เงาของนางเลย เขาหงุดหงิดตัวเองนักที่ปล่อยให้นางคลาดสายตาไปได้แล้วเดินเลี่ยงไปสงบสติอารมณ์ตัวเองตรงชานระเบียงที่ปลอดผู้คนเสียแทน แต่แล้วทีนิสก็หยุดยืนอยู่ตรงนั้นเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า ร่างสูงระหงในชุดราตรีแบบเปิดไหล่สีเขียวมรกตสีเดียวกับดวงตาของนางนั้นถูกตัดเย็บอย่างปราณีตด้วยการแซมลูกไม้ที่ปักเป็นลายฉลุระบายเป็นเส้นสายเน้นกรอบทรวดทรงของนางอย่างน่าดู ผมสีน้ำตาลแดงล้อประกายแสงจันทร์เป็นสีแดงเงินของนางถูกเกล้าไว้เป็นมวยตลบขึ้นสูงอวดผิวขาวเนียนละเอียดตรงต้นคอของนางที่ส่งให้รูปหน้าของนางดูงามล้ำยิ่งไปกว่าเดิม และเมื่อได้แสงเงินยวงจากดวงจันทร์มาสาดส่องอาบไล้ร่างนางเช่นนี้แล้วมันก็เหมือนกับเขากำลังมองภาพวาดของเทพธิดาที่งดงามที่สุดที่เท่าจิตรกรจะรังสรรค์ได้ ทำไมถึงมายืนคนเดียวเช่นนี้ล่ะ ไบรโอเนียสะดุ้งเฮือกแล้วก็หันขวับมามองเขา ท่านทำให้ข้าตกใจ ข้ามีเรื่องอยากจะพูดกับเจ้า แต่ข้า... หม่อมฉันรู้สึกเหนื่อย อยากจะไปพักผ่อนแล้ว แล้วนางก็เดินเลี่ยงเขาเพื่อจะกลับเข้าไปในงาน หากทีนิสก็คว้าแขนของนางเอาไว้ได้ทัน เดี๋ยวสิไบรโอเนีย ปล่อยหม่อมฉันเถอะเพคะ เดี๋ยวใครจะมาเห็นเข้าแล้วจะไม่ดี นางบอกเขาแล้วพยายามสะบัดมือให้หลุดออกเหมือนจะรังเกียจในสัมผัสของเขาจนทำให้ทีนิสอดน้อยใจกับการกระทำของนางไม่ได้ เจ้ายังโกรธที่ข้าโกหกเจ้าอยู่หรือ หม่อมฉันมิบังอาจไปโกรธพระองค์หรอกเพคะ แล้วนางก็ตวัดตามองเขา ปล่อยหม่อมฉัน ไม่เช่นนั้นหม่อมฉันจะไม่เกรงพระทัยแล้วนะ ฟังข้าอธิบายสิ่งที่มันเกิดขึ้นทั้งหมดก่อนไม่ได้หรือ ทีนิสอ้อนวอนนาง ข้ารู้ว่าสิ่งที่ข้าทำมันยากเกินที่จะขอร้องให้เจ้าอภัยให้ข้า แต่ขอให้ข้าอธิบายให้เจ้าฟังเสียก่อนเถอะว่าทำไมข้าถึงได้ตัดสินใจทำเช่นนั้น ไบรโอเนียมองดูเขาที่อ้อนวอนนางทั้งคำพูดและสายตาอย่างชั่งใจ แต่แล้วนางก็ถอนใจแล้วก็พยักหน้า ถ้าเช่นนั้นก็ทรงปล่อยมือหม่อมฉันก่อนสิ ทีนิสยิ้มก่อนที่จะปล่อยมือนางให้เป็นอิสระ ขอบใจที่เจ้ายอมรับฟัง มีเรื่องอะไรก็รีบพูดเถอะเพคะ หม่อมฉันอยากกลับไปพักผ่อนที่ห้องแล้ว ทีนิสทำหน้านิ่วกับคำพูดที่ฟังดูเหินห่างของนาง แต่เขาก็ต้องทำใจยอมรับมันเมื่อรู้ว่านางยังคงรู้สึกเช่นไร เขาถอนใจยาวก่อนจะเริ่มพูด ข้ารู้ว่าแผนการที่ข้าคิดเอาไว้นั้นจะทำให้เจ้าโกรธข้ามากที่หลอกเจ้า แต่ว่าข้ามีเหตุจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้น ข้ายอมให้เจ้าโกรธดีกว่าที่จะปล่อยให้เจ้าและพวกของเลโอน่าไปเสี่ยงภัยกับข้า แล้วที่เป็นอยู่ก่อนหน้านี้ยังไม่เสี่ยงพออีกหรือ นางย้อนเขาเสียงหยัน หม่อมฉันช่วยเหลือพระองค์ทุกอย่าง ทั้งสอนการต่อสู้ให้ ทั้งหาคนมาคอยช่วยเหลือ ทำทุกๆ อย่างที่ทรงต้องการ พระองค์เก่งกาจจนถึงขั้นที่เห็นว่าหม่อมฉันไร้ความสามารถในการปกป้องตัวเองตั้งแต่เมื่อไรกัน ข้าไม่ได้คิดจะดูถูกเจ้าหรอกนะไบรโอเนีย เขาพยายามอธิบายให้นางเข้าใจ ถ้าเช่นนั้นแล้วทำไมจึงไม่บอกความจริงให้หม่อมฉันรู้เล่า หรือคิดว่าถ้าหากหม่อมฉันรู้เรื่องแล้วจะทำให้แผนการของฝ่าบาทพังหรืออย่างไร เขาพยักหน้ายอมรับแต่โดยดี นั่นมันเป็นความผิดพลาดของข้าเองที่ไม่ยอมให้เจ้ารู้ ข้าขอยอมรับผิดในข้อนั้น แต่สิ่งที่ข้าตัดสินใจทำลงไปก็เป็นเพราะข้าห่วงเจ้าหรอกนะไบรโอเนีย เจ้าลองคิดกลับดูว่าถ้าหากเจ้าเป็นข้าล่ะ เจ้าจะตัดสินใจจะยอมเอาชีวิตของคนที่เจ้ารักสุดหัวใจไปเสี่ยงอันตรายพร้อมกับเจ้าได้หรือ แล้วเขาก็จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของนาง ข้าสูญเสียคนที่ข้ารักไปหมดและตอนนี้ข้าก็เหลือเพียงแค่เจ้าคนเดียว... ข้าทนไม่ได้หรอกที่จะต้องสูญเสียใครไปอีก แต่ข้าเสียใจที่ท่านทำแบบนั้นนะทีนิส นางบอกเขาหลังจากที่นางเงียบไปนาน ความหมางเมินของนางลดลงไปด้วยการกลับมาใช้คำพูดกับเขาเหมือนอย่างเมื่อก่อน ข้ารู้ว่าเจ้าจะเสียใจ แต่ขอได้โปรดรู้เอาไว้ว่าข้าเองก็รู้สึกไม่ต่างกันเลย แล้วเขาก็เชยปลายคางนางให้เงยขึ้นมาสบตากับเขา ถ้าหากข้าไม่ได้รู้สึกอะไรกับเจ้าข้าก็คงทำอะไรได้ง่ายกว่านี้ นางเบี่ยงหน้าหลบสายตาของเขาแล้วก็ถอนลมหายใจออกมายาวเหยียด ในเมื่อเรื่องทุกอย่างมันจบลงด้วยดีข้าก็ยินดีกับท่านด้วย และหน้าที่ของข้าที่มีต่อท่านก็จบลงเช่นกัน แต่ข้าไม่อยากให้เรื่องของเราสองคนจบลงแค่ตรงนี้ แล้วเขาก็กุมมือของนางเอาไว้ ข้าอยากให้เจ้ามาเป็นราชินีของข้า นางนิ่งงันด้วยความตกใจกับคำพูดของเขาก่อนจะถอยห่าง ท่านพูดว่าอะไรนะ ข้ารักเจ้านะไบรโอเนียและข้าก็รู้ด้วยว่าเจ้าเองก็รักข้า ไบรโอเนียส่ายหน้า ข้าไม่ได้รักท่าน ทีนิสทำหน้านิ่วกับปฏิเสธของนาง เจ้าโกหกหัวใจของเจ้าเองได้อย่างไรกัน เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าตัวเองเป็นเช่นไรตอนที่เอ็ดการ์พาเจ้าไปจากข้า นั่นมันก็เป็นเพราะว่าข้าไม่อยากจะทำให้ภารกิจของข้าล้มเหลวต่างหาก นางแย้งทั้งที่ในใจกรีดร้องบอกตัวเองว่ามันไม่ใช่ความจริง ท่านคิดไปเองฝ่ายเดียวมากกว่า ข้าไม่ได้คิดไปเองฝ่ายเดียวหรอกไบรโอเนีย ดวงตาของเจ้าก็กำลังบอกข้าอยู่ว่าเจ้ากำลังรู้สึกเช่นไรอยู่ แล้วเขาก็จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเพื่อดูว่ามีอะไรกันที่ทำให้นางไม่คิดจะยอมรับความจริงในข้อนี้ นางหลบสายตาของเขาก่อนจะกล่าวเสียงแผ่ว ต่อให้ข้ารักท่านจริงเราก็ไม่อาจจะอยู่ด้วยกันได้หรอกทีนิส ท่านอย่าลืมสิว่าข้าเป็นรัชทายาทเพียงคนเดียวของแคว้นดาร์ซี ถ้าหากข้าต้องมาอยู่กับท่านแล้วใครที่จะสืบทอดราชบัลลังก์ต่อจากเสด็จพ่อ เรื่องนี้ข้าจะคุยกับเสด็จพ่อของเจ้าเอง เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก แล้วเขาก็รั้งร่างนางเข้ามากอด แต่งงานกับข้านะไบรโอเนีย ข้าอยากจะให้เจ้าอยู่เคียงข้างข้านับจากนี้และตลอดไป ไบรโอเนียหลับตาลง ความเข้มแข็งที่นางอุตส่าห์สร้างเอาไว้เพื่อป้องกันความรู้สึกที่แท้จริงของนางนั้นมันพังทลายไปจนหมดสิ้นเพียงเพราะแค่เขาโอบกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขนเช่นนี้ แต่ไม่นานนักก็ผลักเขาออกห่างเมื่อนึกถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นย้ำเตือนในใจของนาง ข้าอยู่กับท่านไม่ได้หรอกทีนิส นางปฏิเสธเขาเสียงพร่าสั่น แต่เจ้าก็รักข้าไม่ใช่หรือ ทีนิสย้อนถามนาง มันไม่ได้ง่ายเช่นนั้นทีนิส ถึงแม้ว่าข้าจะรักท่าน แต่ข้าก็ไม่อาจเห็นแก่ความสุขของตัวเองแล้วทิ้งเสด็จพ่อและแคว้นของข้าไปอยู่กับท่านได้หรอก แล้วนางก็ยิ้มเศร้า ข้าเคยบอกแล้วว่าท่านไม่ใช่หรือว่าไม่มีใครที่จะสุขสมหวังไปหมดเสียทุกอย่าง น้ำตาหยดหนึ่งก็ร่วงลงมาจากดวงตาคู่สวยของนาง หน้าที่ของข้าจบแล้วทีนิส เมื่อถึงเวลาที่ท่านประกาศให้ดาร์ซีเป็นเอกราชเราก็คงไม่มีอะไรที่จะเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว ทีนิสมองนางด้วยใจที่ปวดร้าว ยิ่งได้เห็นน้ำตาของนางแบบนี้เขาก็ยิ่งเจ็บในหัวใจเหมือนกับใครเอามีดมากรีดให้มันเป็นแผลลึก แต่เขาจะไม่ยอมให้โชคชะตาเป็นตัวกำหนดหรอกว่าเขาควรจะต้องทำอะไร หลังจากนี้ไปเขาจะกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตด้วยตัวของเขาเอง ถ้าเช่นนั้นข้าจะไม่ประกาศให้ดาร์ซีเป็นเอกราช ไบรโอเนียเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่อยากจะได้ยิน นี่ท่านคงไม่ได้พูดจริงหรอกใช่ไหม ข้าเคยพูดเล่นหรือ เขาตอบนางด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป ถ้าเจ้าไม่เลือกที่จะอยู่กับข้า ข้าก็จะไม่ยอมให้แคว้นดาร์ซีเป็นเอกราช น้ำตาของนางเหือดแห้งขึ้นมาโดยทันทีก่อนที่ดวงตาสีเขียวสว่างของนางจะเรืองรองไปด้วยไฟโทสะ นี่ท่านคิดจะตระบัดสัตย์ต่อพวกข้าอย่างนั้นหรือ ถ้าเช่นนั้นก็จงยอมเป็นราชินีของข้าสิไบรโอเนีย แล้วข้าจะประกาศให้แคว้นของเจ้าเป็นเอกราช ไบรโอเนียกัดฟันแน่นจนคางของนางสั่นระริก ไม่นึกเลยว่าเพียงแค่เรื่องความรู้สึกส่วนตัวจะทำให้เขากล้าตระบัดสัตย์เช่นนี้ ถ้าท่านคิดว่าจะบังคับข้าอยู่กับท่านด้วยวิธีการแบบนี้ท่านคิดผิดถนัดแล้วล่ะ แล้วนางก็ล้วงเอามีดสั้นที่ซ่อนในกระเป๋ากระโปรงออกมา เขาหรี่ตามองนางพลางแค่นหัวเราะ ข้าเชื่อแล้วล่ะว่าเจ้าสามารถซ่อนอาวุธให้อยู่กับตัวได้ทุกที่จริงๆ ข้าไม่ตลกไปกับท่านด้วยหรอก แล้วนางก็หันปลายมีดไปทางเขา ล้มเลิมความคิดแบบนั้นเสีย! แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้ขู่อะไรเขา กีเธอร์ก็โผล่ออกมาจากไหนไม่รู้พร้อมกับดาบในมือเตรียมพร้อมเข้าโจมตี หากทีนิสก็ยกมือห้ามเอาไว้ ไม่เป็นไรหรอกกีเธอร์ ไม่เป็นไรแน่หรือพ่ะย่ะค่ะ กีเธอร์มองที่ไบรโอเนียอย่างไม่แน่ใจ ข้าบอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรสิ เจ้าไปเถอะ พอทีนิสยืนยันมาเช่นนั้นกีเธอร์ก็จำใจต้องเสียบดาบกลับเข้าฝักแล้วก็ถอยห่างออกไปแต่ก็ยังไม่วายหันกลับมามองเขาอย่างระวัง เจ้าจะทำร้ายข้าก็ได้ถ้าหากเจ้าพอใจที่จะทำเช่นนั้น ใครบอกว่าข้าจะทำร้ายท่าน นางว่าพลางเหยียดยิ้มหยันใส่เขา แล้วทีนิสก็ต้องตกใจเมื่อนางจรดปลายมีดที่ลำคอของนาง ซึ่งเขาก็รีบคว้าคมมีดเอาไว้ได้ทันก่อนที่มันจะบาดเข้าที่ผิวตรงลำคอของนาง เจ้าคิดจะทำอะไรของเจ้ากัน เขาเอ็ดนางในขณะที่ทำหน้านิ่วเมื่อคมมีดนั้นบาดลึกเข้าไปในมือของเขาจนเลือดไหลซึมออกมา ในเมื่อท่านบีบคั้นให้ข้าต้องเสื่อมเสียเกียรติ ข้าก็ขอตายตรงนี้จะดีกว่า ทีนิสมองสายตาของนางที่มองเขาด้วยความโกรธระคนเสียใจแล้วเขาก็ต้องถอนใจออกมายาวเหยียด และยอมปล่อยมือออกจากมือของนาง ถ้าหากเจ้ายืนกรานเช่นนั้น ข้าก็มีข้อเสนอให้กับเจ้าเป็นการแลกเปลี่ยน นางมองเขาอย่างระแวง ท่านจะเสนออะไร ข้าขอท้าประลองกับเจ้า ถ้าหากเจ้าเอาชนะข้าได้ข้าจะยอมทำตามที่เจ้าต้องการทุกอย่างโดยไม่มีเงื่อนไข แต่ถ้าหากว่าเจ้าแพ้ เจ้าจะต้องแต่งงานกับข้าโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ตกลงไหม ข้าจะแน่ใจได้ยังไงว่าท่านจะไม่เล่นตุกติกในการประลอง ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็กำหนดการแข่งขันมาได้เลย หรือจะเอาเอ็ดการ์มาเป็นผู้ตัดสินระหว่างการประลองก็ได้ เมื่อได้ยินข้อเสนอเพิ่มเติมของเขาไบรโอเนียก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้บ้าง แล้วท่านไม่คิดหรือว่าข้าอาจจะโกงการแข่งขันเพื่อเอาชนะท่านก็ได้ เขายิ้ม ข้าเชื่อว่าเจ้าจะไม่ทำเช่นนั้นหรอก เอาเป็นว่าข้าถือว่าเจ้าตกลงนะ นางพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่นางจะต้องคว้าเอาไว้ ถ้าหากท่านคิดจะทำตามที่ท่านว่ามาจริงๆ ข้าก็ตกลง เพราะข้าไม่คิดว่าข้าจะแพ้ท่านหรอก ทีนิสหัวเราะหึก่อนจะยื่นศอกให้นางจับ ถ้าเช่นนั้นก็มากับข้า นางเลิกคิ้วมองเขาด้วยความสงสัยว่าทีนิสคิดจะทำอะไรต่อไป หากเมื่อเขาเร่งเร้านางก็ยอมสอดมือเข้าไปควงแขนเขาแต่โดยดี ************************ พวกเขากลายเป็นจุดสนใจทันทีที่เดินกลับเข้าไปในโถงรับรอง ทีนิสพานางเดินมาจนถึงใจกลางงานแล้วยกมือเป็นสัญญาณบอกให้วงดนตรีที่กำลังบรรเลงเพลงนั้นหยุดลงก่อน แล้วก็ประกาศต่อแขกในงานว่าเขาและไบรโอเนียจะทำการประลองฝีมือกันเพื่อเป็นการกระชับมิตรภาพอันแน่นแฟ้นของคิเรบัสและดาร์ซี ซึ่งนั่นก็เรียกเสียงฮือฮาให้กับแขกที่อยู่ในงานได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะโลเอลที่จ้องเขาเขม็งแม้ยามที่เขาได้ปล่อยให้ไบรโอเนียเดินจากไปแล้ว องค์ชายคิดจะทำอะไรอย่างนั้นหรือ ถึงได้มาท้าประลองกับลูกสาวของข้า ทีนิสยิ้มก่อนจะค้อมศีรษะให้กับโลเอล หม่อมฉันก็แค่อยากจะท้าประลองกับองค์หญิงเพื่อความบันเทิงเท่านั้นแหละพ่ะย่ะค่ะ แต่ข้าไม่คิดเช่นนั้น โลเอลหรี่ตามองเขาก่อนจะถามต่อ ท่านทำข้อตกลงอะไรไว้กับนางใช่ไหม เขายิ้มกับความเฉียบแหลมของโลเอลก่อนจะพยักหน้ารับ เมื่อใดที่การประลองเสร็จสิ้นก็จะทรงทราบเองแหละพ่ะย่ะค่ะ แล้วทีนิสก็โค้งให้กับโลเอลก่อนจะเดินจากไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มผิดกับในหัวใจของเขาที่กำลังหนักอึ้ง เมื่อนึกถึงการประลองในวันพรุ่งนี้ การประลองที่มีหัวใจและแคว้นดาร์ซีเป็นเดิมพันนั้นดูเหมือนจะเป็นแรงจูงใจชั้นเลิศที่ไม่ว่าเขาหรือเธออยากที่จะเอาชนะให้ได้
Be Continued นางเอกจะใจอ่อนกับพระเอกตอนไหนน้อ ฮี่ๆๆๆๆ
++ รักคนอ่านค่ะ ++ |
ตัว(Z)
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] ลมหนาว ฟ้าใส หาดทราย ใบไม้เปลี่ยนสี Group Blog All Blog
Friends Blog
| ||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |