น้องเชาว์เด็กแอสเพอร์เกอร์ตัวโต
Group Blog
 
<<
มกราคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
31 มกราคม 2557
 
All Blogs
 
32-การต่อสู้ ในสนามฝึกสอนระดับมัธยมของผม

  วันที่ไปโรงเรียนวันแรก ตอนนี้ผมบอกเลยว่าตื่นเต้นมากๆ ผมไม่รู้รายละเอียดที่ว่า ผมจะต้องสอนชั้นไหน อะไรอย่างไร และอีกอย่างบ้านผมก็อยู่ไกลจากโรงเรียนมากๆ ทำให้ผมต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อไปโรงเรียนให้ทัน 7 โมงครึ่ง แล้วจากนั้นผมก็รีบไป ก็ทัน ผมก็ต้องไปเจอรองฝ่ายวิชาการ เค้าบอกกับผมว่า ให้ไปหารองอีกคนนึ่ง ซึ่งผมก็เจอเค้า และก็คุยกันจนรู้ว่าจะสอนห้องไหน และพบใคร ผมก็ไปพบครูสอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยม วันนี้ เค้าก็ถามว่าผมจะสอนเลยไหม ผมก็ยังไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย ก็บอกไปว่ายังไม่สอน ขอให้ผมพร้อมเสียก่อน ตอนนี้ผมก็ได้อยู่ในห้องพักครูชั้น 4 ก็สูงเดินก็เหนื่อยอยู่ ครูในห้องพักที่นี่ต่างจากที่ผมคิดไว้มากคือ เค้าแบ่งเป็นตามสายชั้น ไม่แบ่งเป็นวิชา ผมก็งงๆ อยู่ เดินมาอย่างกะเด็กเอ๋อๆ ไม่รู้เรื่อง จากนั้นครูในห้องพักครูเค้าก็ ถามว่า จะลงไปพักห้องสมุดไหม ผมก็ไม่รู้จะอยู่ส่วนไหนของโรงเรียนดี เค้าก็เลย เก็บของโต๊ะที่ว่างโต๊ะนึ่งเข้า และช่วยทำความสะอาดให้ผม ในใจผมคิดว่าครูที่นี่ ทำไมใจดีกับผมอย่างนี้ ผมเป็นแค่นักศึกษาที่เป็นออทิสติกเองนะ ผมจะมีประโยชน์อะไร ผมก็ได้นั่งห้องพักครู เขียนแผนการสอนไปเตรียมพร้อมสำหรับวันต่อไปละ

ที่นี่เด็กก็มีปัญหาไม่น้อยเหมือนกันโดยเฉพาะเด็กมัธยม ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ในใจก้คิดว่ามันยากมากๆเลยละ แต่ผมก็ต้องเตรียมตัวให้ดีสำหรับต่อที่จะสอนวันแรก และแล้วก็มาถึง วันที่ผมได้สอนวันแรก ผมละก็เข้าใจนะว่ายาก วันนี้ผมได้สอน คาบ 4 ตอนบ่าย และก็พอเข้าไปในห้องตอนแรก ก็เห็นนักเรียนอยู่ๆกัน พร้อมหน้า ครั้งแรกที่นักเรียนก็ดูตั้งใจดี แต่ก็ไม่เก่งเท่าไหร่ ผมก็อธิบายและทำสื่อ เด็กๆม.1 ห้อง 2 ก็ตั้งใจดี ผมก็คิดว่า ผมก็จะสอนไม่ได้ซะแล้ว พอไปสักพักนึ่ง เด็กก็เริ่มคุยกัน ผมก็บอกให้เงียบ เด็กๆก็เงียบแปปนึ่ง ผมก็สอนได้สำเร็จ ผมก็เลยสอนให้สนุกมากๆขึ้น นั้นคือวันแรกของการสอนของผม

วันต่อมา ผมก็เริ่มคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในโรงเรียนบ้างแล้ว วันนี้เป็นวันที่3 ที่ผมได้มาทดลองสอน ผมก็ได้เตรียมแผนการสอนมาพร้อมเลย วันนี้ได้สอนคาบตอนบ่าย ช่วงเช้าผมก็นั่งตรวจงานของนักเรียนห้องม. 1/2 ที่ทำในชั่วโมงเมื่อวานนี้ ก็เห็นว่าเด็กห้องนี้ยัง ลืมอะไรหลายอย่างเยอะมากเลย ก็ต้องเตือนกันไป ตอนนี้ขอเล่าย้อนไปนิดนึ่งตรงเหตุการณ์ที่ว่า ก่อนที่จะเข้าห้องครั้งแรกจะมีครูพี่เลี้ยง มาส่งผมที่ห้อง ให้ทำความรู้จักกับนักเรียน ผมก็รู่ไม่ค่อยรู้จักกับนักเรียนเท่าไรหรอก เพียงแต่ก็พยายามกันไป ก็ดีนะ วันนี้ได้สอนห้องม.1/1 เป็นอะไรที่ดีมากๆ ตรงที่ว่า นักเรียนคุยกันน้อย ไม่เหมือนห้อง 2 คุยกันมากกว่า และดื้อมากกว่านี้ ผมก็ทำใจนะ ผมก็สอนไปจนเสร็จ โดยปกติแล้วเวลาผมสอนละ ผมจะให้นักเรียนมีส่วนร่วมหน้าชั้นเรียนเยอะมากเลยละครับ อย่างเช่น ผมก็เรียกเลขที่เด็กนักเรียนในห้องให้ออกมาทำหน้าชั้นเรียน เรียนเรื่อยๆจนเกือบหมดห้อง เด้กๆก็บอกว่าครูเรียกเลขที่นี้สิ เรียกเลขที่นั้นสิ มันก็เป็นอะไรที่สนุกดี และเด็กได้ออกมาทำด้วยละ

หลังจากนั้น ตอนเย็นรองวิชาการก็เรียกพบตัวทุกคนเลย มาคุยกันเรื่อยรายงานต่างๆและหน้าที่ที่ต้องทำในโรงเรียน นอกจากสอนนักเรียน ผมก็ต้องเข้าไปนั่งฟังด้วย ก็คุยกัน ปรากฎว่าเจอเรื่องยุ่งยากอีกแล้ว เรื่องของเวรโรงอาหาร ที่จะต้องให้นักศึกษาไปตักข้าวให้นักเรียนตอนเช้าละ ผมก็นะ ไม่ขัดข้องหรอกถ้าบ้านไม่อยู่ไกล เดินทางที 2 ชั่วโมงครึ่งถึง โรงเรียน รองเค้าบอกว่า ต้องมาตอน 6 โมงครึ่งนะ ผมก็บอกไปว่า บ้านผมอยู่ไกลนะ ไกลมากๆด้วย และจะมาทันได้อย่างไรกัน ผมก็อธิบายเหตุผลไปอย่างนี้ แต่เค้าไม่ฟัง ผมก็เลยต้องยอมเค้า เพราะผมอยู่โรงเรียนเค้านี่นา ผมจะไปทำอะไรเค้าได้ละ ผมเป็นแค่นักศึกษาฝึกสอนเอง พอคุยกันเสร็จ ผมก็เครียดมากๆ เลยจะทำไงดีละ ผมก็เลยโทรหาครูที่สอนวิชาทดลองสอน ถามครูเค้าดูว่าจะทำอย่างไร ครูเค้าก็บอกว่าให้อดทนไว้ ทำตามที่เค้าบอกนั่นแหละ ผมก็เลยต้องทำใจ และทำตามที่เค้าบอกตามนี้

วันศุกร์ เป็นวันที่ผมจะต้องมราตักข้าวให้นักเรียน ผมตื่นตอน ตี4 เพื่อไปโรงเรียน อยากจะบอกว่า ในซอยที่ผมอยู่ไม่มีรถเลย ก็นะ ก็ต้องพึ่งรถแท็กซื่ ไปที่อู่รถเมล์ ถึงประมาณ ตี 5 และก็นั่งรถเมล์ไปโรงเรียน ก็ทัน 6 โมงพอดี เหลือเวลานิดหน่อยก็ได้ทำงาจนของตัวเอง เตรียมพร้อมสอนคาบ 1 ที่ห้อง ม.1/1 เลยละ ผมก็ได้ข้าวต้ม ต้องอธิบายก่อนว่า ในโรงเรียนนี้จะมีอาหารตอนเช้าฟรีแจกผู้ปกครอง และนักเรียน อาหารที่มีก็มี โจ๊ก ข้าวต้มหมู กุ้ง  และมะกะโรนีที่เป็นซุบ ผมได้ตักข้าวต้ม ก็ตักไปเรื่อยๆ ก็สนุกดี ผมเป็นเด็กออทิสติก ก็ดูถ้าจะเอ๋อนิดๆเวลาที่เด็กมาทักทายผม ผมก็ต้องทักทายกลับก็เป็นอะไรที่โอเคนะ ผมก็ตักไปเรื่อยๆ จนข้าวต้มหมดหม้อ ผมก็ไปเตรียมตัวเข้าแถวกับนักเรียนตอนเช้า โดยปกติแล้ว ครูเค้าจะยืนตรงไหนก็ได้ แต่ตามมารยาทก็ควรมาเข้าแถวกับนักเรียนด้วยกัน ก็นะ ผมก็ต้องทำละครับ

ต่อจากนั้น คาบแรกผมก็ได้สอนนักเรียน ห้อง ม.1/1 ผมก็อธิบายเรื่องของกราฟในระนาบจำนวน อยากจะบอกว่า ผมอธิบายไม่ค่อยเก่งหรอก และผมเป็นคนที่ชอบสอนให้เด็กพัฒนาทักษะกระบวนการคิด เด็กก็เลยงงๆ ไม่เข้าใจ แต่ผมจะไม่ทิ้งนักเรียน นักเรียนสามารถถามผมได้ทุกเมื่อเลย ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้นักเรียนชอบผมก็เป็นได้นะ ผมก็สอนเรื่อยๆ จนเสร็จก็สั่งงานนักเรียน นักเรียนทำไม่เสร็จ ผมก็ให้เวลานักเรียนทำเรื่อยๆ มาส่งตอนพักเที่ยงได้ อะไรอย่างนี้ แต่ก็อย่างว่าแหละเด็กม.ต้น มักจะไม่ค่อยส่งงานกัน ทำให้ผมต้องตามงานนักเรียนอยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่น ตอนพักเที่ยง ผมก็ตามงานนักเรียนที่ห้องเรียนทุกวันเลย ถามว่า ใครยังไม่ส่งงานครูบ้าง ก็จะมีคนนั่งทำงานของผมอยู่เรื่อย จนเสร็จ และก็เห็นการเล่นกันของนักเรียนในห้อง อย่างเช่นเล่นการ์ดเกมกัน ในใจผมก็คิดบวกกับอาการของผมด้วยแล้ว แน่นอนว่าผมที่มีวุติภาวะที่ยังเป็นเด็กอยู่ ก็ต้องลงไปเล่นกับนักเรียนอยู่แล้ว ทั้งก็รู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมครูไปเล่นการ์ดเกมกับนักเรียน มีในโลกที่ไหนเค้าทำกัน ก็ใช่นะ แต่ผมก็ทำ แต่ก็ไม่ให้ใครเห็ฯไปหาที่แอบเล่น ไม่ให้ใครรู้ อาทิตย์นี้ผมก็เป็นประมาณนี้แหละครับ

เวลาก็ผ่านไป เผอลแปปเดียวก็ผ่านการทดลองสอนมาครึ่งทางแล้วละ ในสัปดาห์ที่2 นี้ ผมก็ได้ทำการสอนหลายห้อง แต่มีเรื่องที่น่าสนใจคือ ในช่วงตอนพักกลางวัน ผมเจอกับห้องการศึกษาพิเศษ หรือห้องเด็กพิเศษนั้นแหละ แน่นอนว่าครูที่ห้องนั้นเค้ารู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวผมด้วย เค้าเรียกผมไปคุยที่ห้องเค้า เค้าก็เริ่มซักผมใหญ่เลยว่าผมเรียนอะไร เป็นอย่างไรบ้าง อาการเด็กพิเศษอย่างผมเป็นอย่างไรบ้าง ผมก็ตอบตามที่ผมเป็นนั่นแหละ ก็ตอบไปเรื่อย จนเริ่มสนิทกับห้องการศึกษาพิเศษมากๆขึ้น ทุกพักเที่ยงที่เหลือเวลาที่อยู่ในโรงเรียน ผมก็ได้ไปหาเด็กนักเรัยนที่ห้องการศึกษาพิเศษทุกวันเลย มันเป็นอะไรที่ทำให้ผมมีเพื่อน รู้สึกว่าไม่โดดเดี่ยวเวลาที่มาอยู่โรงเรียนนี้ ตลอดเวลาที่ผมอยู่โรงเรียนนี้ ผมไม่มีเพื่อนที่คุยได้เลย ถึงแม้ว่าครูจะใจดีก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมจะไม่เหงา ผมเหงาและกลัวมากๆเลยกับการอยู่คนเดียว ก็นะ ผมก็ได้คุยกับครูที่ห้องนี้เรื่อยๆ มันสนุกมากๆเลยละครับ จากนั้น ผมก็ได้ไปสอนนักเรียน ห้อง 1 และ 2 สลับกัน

นักเรียนในห้อง ม.1/1 1/2 เป็นอะไรที่คุยกันเสียงดังมากๆเลย นักเรียนไม่ค่อยนั่งกันเลยทีเดียวละ ผมก็ต้องปราบอยู่เรื่อยๆไป จนกระทั้ง เด็กนักเรียนห้อง 2 เริ่มสนิทกับผมมากขึ้น นักเรียนก็ช่วยปราบเพื่อนให้ ทำให้ผมก็เหนื่อยน้อยลง ตลอดเวลาผมก็พยามทำสื่อการเรียน ลงทุนเพื่อนักเรียนทุกคน ในได้รับการเรียนที่ดีที่สุด ผมบอกตามตรงว่าผมเป็นเด็กกลุ่มออทิสติก แบบแอสเพอร์เกอร์ ผมก็มีเครียด มีหงุดหงุดง่าย ในใจผมกลัวทำไม่ได้ กลัวมากๆเลยละครับ แต่ก็ต้องพยายามอย่างสุดความสามารถละนะตอนนี้ และแล้วผมก็เห็นผลความพยายามๆ เด็กเริ่มติดผมแล้วละ เริ่มมองเห็นความสำคัญของครูอย่างผมแล้วละ ผมซาบซึ่งมากๆ ที่นักเรียนเห็ฯความสำคัญของผม ก็นะมาถึงสองวันสุดท้าย ผมให้นักเรียนทำกิจกรรมที่ผมเตรียมไว้ให้ เห็นการทำงานความแตกต่างระหว่าง ห้อง 1 และ 2 โดยห้อง 1 จะทำงานกลุ่มได้ไม่ดีเท่า ห้อง 2 ผมก็เข้าใจและก็ สุดท้ายให้นักเรียนเขียนความรู้สึก ว่าผมสอนเป็นไงบ้าง ก็ได้รับมาว่า ผมสอนเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง สิ่งสำคัญคือ นักเรียนมาขอโทษผม ที่เสียงดัง ไม่ยอมฟังผม ทำให้ผมแทบร้องไห้เลยละ






Create Date : 31 มกราคม 2557
Last Update : 31 มกราคม 2557 20:16:18 น. 3 comments
Counter : 2047 Pageviews.

 
สู้ต่อไปนะเชาว์ ๆ


โดย: cyberlifenlearn วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:17:47:44 น.  

 
ไปค่ายมีรึค่ะ เหนื่อยแต่ก็สนุกด้วยเน๊อะ น้องซีคงอีกนานกว่าจะได้ไปค่ายกับเค้า


โดย: มี๊เก๋&ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:10:53:49 น.  

 
สู้ๆนะ เป็นกำลังใจให้


โดย: อีฟ (สมาชิกหมายเลข 1027182 ) วันที่: 16 มีนาคม 2557 เวลา:14:11:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้องเชาว์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 71 คน [?]




Friends' blogs
[Add น้องเชาว์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.