|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | |
|
|
|
|
|
|
|
นกกะรางแก้มแดง
นกกะรางแก้มแดง Liocichla phoenicea (Red-faced Liocichla) มีความยาวจากปลายปากจรดปลายหางประมาณ20.5-23.5เซ็นติเมตร มีจุดเด่นที่ขนคลุมหน้า แก้มและคอสีแดงสด ขนคลุมลำตัวด้านบนสีน้ำตาลแกมเทา ขนคลุมลำตัวด้านล่างสีออกเขียว ขนปีกบินสีดำแกมแดงและเหลือง หางดำปลายหางสีน้ำตาลแกมเหลือง นกตัวผู้และตัวเมียคล้ายคลึงกัน
นกกะรางกลุ่ม Liocichlaนี้มีอยู่ทั้งหมด 4 ชนิด คือ Grey-faced Liocichla (เฉพาะถิ่นมณฑลเสฉวนตอนใต้), Steeres Liocichla(เฉพาะถิ่นไต้หวัน) , Red-faced Liocichla และ Bugun Liocichla(พบในประเทศอินเดีย) ในทั้ง 4 ชนิดนี้มีสองชนิดที่อยู่ในข่ายถูกคุกคามเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์(Vunerable) คือ ชนิดแรกและชนิดสุดท้าย
อาหารของนกชนิดนี้และนกกะรางอื่นๆคือแมลงและลูกไม้ในป่า
นกกะรางแก้มแดงมีการกระจายพันธุ์ในประเทศบังคลาเทศ ภูฏาน อินเดีย จีน พม่า ไทย ลาวและเวียตนาม โดยพบตามป่าเขตร้อนและใกล้เขตร้อนบนเขา สำหรับประเทศไทยเป็นนกประจำถิ่นที่พบไม่บ่อยตามป่าดิบ ชายป่าที่ความสูง 1800เมตรจากระดับน้ำทะเลขึ้นไป
ภาพในบล็อกถ่ายจากจุดสกัดดอยฟ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่ เดือนมกราคม 2553
ข้อมูลจาก :
//en.wikipedia.org
หนังสือคู่มือนกหมอบุญส่ง เลขะกุล นกเมืองไทย โดยคณะบุคคลนายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล พ.ศ.2550
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2553 19:53:54 น. |
|
3 comments
|
Counter : 6688 Pageviews. |
|
|
|
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:14:10 น. |
|
|
|
โดย: tummydeday วันที่: 27 เมษายน 2553 เวลา:22:27:48 น. |
|
|
|
โดย: nook (nookkea ) วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:47:28 น. |
|
|
|
|
|
|
|
แก้มแดง สวยมากเลยค่ะ