กรมสรรพากร เตรียมเสนอแนวทางเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยให้นำค่าใช้จ่ายจาก 60,000 บาทต่อปี เป็น 120,000 บาท และให้หักค่าใช้จ่าย สำหรับผู้ที่มีบุตรมากกว่า 3 คน เพื่อสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่มีบุตร คาดว่าจะมีผลในปี 2560
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เตรียมเสนอแนวทางการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยเตรียมเพิ่มลดหย่อนค่าใช้จ่ายจาก 60,000 บาทต่อปี เป็น 120,000 บาท ทั้งแบบเหมาจ่ายและนำใบเสร็จจากร้านขายสินค้ามาแสดง เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน จากเดิมเฉลี่ยค่าใช้จ่าย 5,000 บาทต่อปี และส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่มีบุตร โดยหากมีบุตรมากกว่า 3 คน สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้ เพื่อให้ช่วยให้ประชากรของไทยไม่ลดลงจาก 70 ล้านคน โดยคาดว่าจะพิจารณาภายในปี 2559 เพื่อนำออกมาบังคับใช้ปีภาษี 2560 และยืนยันว่าการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมจะลดภาระภาษีของประชาชนให้น้อยลงกว่าเดิม
นอกจากนี้ จะผลักดันให้ผู้ประกอบการจัดทำบัญชีแบบเล่มเดียว หลังคณะรัฐมนตรี ให้ภาษีเงินได้นิติบุคคล เหลือร้อยละ 20 แบบถาวร และ เอสเอ็มอี ลดเหลือร้อยละ 10 ทำให้รายได้รัฐหายไป 10,000 ล้านบาท และหากรับนักศึกษาเข้าร่วมทำบัญชีก็สามารถนำค่าใช้จ่ายหักลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่า
สำหรับแผนงานในปี 2559 กรมสรรพากรจะเน้นนโยบาย E-Payment เพื่อดึงภาคเอกชนเข้าสู่ระบบภาษี ให้ประชาชนใช้จ่ายผ่านบัตรอิเล็คทรอนิกส์ ซึ่งประเทศสวีเดนนำมาใช้ และป้องกันปัญหาคอรัปชั่น รวมทั้งระบบยังช่วยประเมินความเสี่ยงของผู้เสียภาษี ที่เข้าข่ายต้องจ่ายภาษีเพิ่ม และช่วยลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่า ช่วยให้รัฐบาลสามารถเก็บภาษีทางเงินได้นิติบุคคลได้มากขึ้นในทางอ้อมถึง 80,000-100,000 ล้านบาท