ครูเวรที่อยู่ในเหตุเพลิงไหม้หอพักนักเรียน ที่ จ.เชียงราย เผยนาทีชีวิตก่อนหมดสติไป ระบุเสียใจมาก น้องสาวของตนก็เสียชีวิต

วันที่ 24 พ.ค.59 น.ส.สุชาดา แซ่มั่ว อายุ 22 ปี ตำแหน่งครูพิเศษ ร.ร.พิทักษ์เกียรติวิทยา อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งเป็นครูเวรที่นอนเฝ้าเด็กนักเรียนในคืนเกิดเหตุ และได้รับบาดเจ็บจนกระดูกหลังหัก ต้องใช้ไม้เท้าเดินไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ โดยระบุว่า คืนเกิดเหตุได้นอนพักอยู่กับเด็กอยู่ในห้องตามปกติ และเด็กเริ่มทยอยเข้านอน แต่ปรากฏว่าได้มีเด็กหญิงคนหนึ่งไปพบเห็นว่าเกิดไฟไหม้ จึงได้ตะโกนเรียกคนอื่นๆ และแจ้งให้ตนทราบ

ตนจึงไปตรวจดูพบมีกลุ่มควันไฟคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ และมีประกายไฟจากชั้นล่างตรงบันได ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก จนตนก็ตั้งตัวไม่ทัน ขณะที่เรื่องประตูที่มีการระบุว่าถูกล็อคจากข้างนอก ตนไม่ทราบเพราะเป็นหน้าที่ของแม่บ้าน แต่ปกติจะล็อคข้างใน

"พอเด็กมาเรียก เปิดประตูออกมาควันก็เต็มห้อง หลอดไฟเพดานตกหมดแล้ว ไม่รู้ว่ามาจากจุดไหน แต่รู้ว่ามาจากชั้นล่าง ตอนนั้นก็เลยตะโกนเรียกให้คนมาช่วย ซึ่งเขาอยู่ข้างๆบ้าน สักพักเขาก็วิ่งมาช่วย ส่วนตัวเองพอจะขึ้นหน้าต่างก็สลบตกลงมากระดูกหัก ก็เลยไม่ได้กลับเข้าไปช่วยเด็ก ฟื้นขึ้นมาอีกทีก็ไฟไหม้หลังคาหมดแล้ว เสียใจมาก เพราะน้องสาวก็เสียชีวิตด้วย" น.ส.สุชาดา กล่าว

ส่วนความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ทุกฝ่ายกำลังทำงาน เพื่อคลี่คลายคดีกันอย่างเข้มข้น ทำให้เริ่มได้เค้าของสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าวแล้ว และทราบถึงจุดที่เป็นต้นเพลิงที่ชั้นแรกของตัวบ้าน อย่างไรก็ตาม คงต้องรอคำตอบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร จากหน่วยงานพิสูจน์หลักฐานก่อน จึงจะสามารถสรุปผลที่ชัดเจนได้

ด้าน นายวรวรรณ วงศ์คำ หัวหน้าแผนกก่อสร้างและปฏิบัติการ รักษาการแทนผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเวียงป่าเป้า พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการด้านกระแสไฟฟ้า เดินทางไปตรวจดูที่เกิดเหตุ ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้

ซึ่งเจ้าหน้าที่ ระบุว่า กรณีมีกระแสข่าวว่าหลอดไฟที่อยู่ชั้นล่างของตัวบ้านทำให้เกิดประกายไฟ และลุกไหม้วัตถุจนเป็นเหตุให้ไฟลุกลามนั้น เป็นไปได้น้อยมาก เพราะหลอดไฟแทบไม่มีทางแตกเพราะความร้อนได้เอง แต่สิ่งที่อาจจะเกิดความร้อนกะเทาะออกมา คือรางหลอดด้านซ้ายและขวาที่เป็นฉนวนของรางโลหะ แต่ก็ถือว่ามีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก