ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
วิจารณ์หนัง BIG GAME: ว่าด้วยเรื่องพื้นที่และอำนาจ

เป็นผลงานของผู้กำกับ จาลมารี เฮเลนเดอร์ ที่โด่งดังจากเรื่อง Rare Exports ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของโอสคาริ(ออนนิ ทอมมิลล่า) เด็กหนุ่มขี้อายวัย 13 ปี กำลังพิสูจน์ตัวเองว่าเขาจะสามารถเป็นชายชาตรีอย่างองอาจตามแบบประเพณีของบรรพบุรุษที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น  เขาต้องเอาตัวรอดจากการใช้ชีวิตหนึ่งวันหนึ่งคืนในป่าลึกเพียงลำพัง โดยมีอาวุธติดตัวเป็นคันธนูและลูกศรใช้ในการล่าสัตว์ป่า เพื่อพิสูจน์ความเป็นชายชาตรี

ณ กลางป่าลึกที่โดดเดี่ยวและน่ากลัว  โอสคาริได้ยินเสียงดังกึกก้องสนั่นไปทั่วป่า หลังจากนั้นเขาได้พบกับแคปซูลนิรภัยที่ดีดตัวออกมาจากเครื่องบิน แอร์ ฟอส วัน และชายที่ติดอยู่ในนั้นคือประธานาธิบดี(แซมมวล แอล แจ็คสัน) คนสำคัญของสหรัฐอเมริกานั่นเอง โอสคาริรับรู้เรื่องราวว่าประธานาธิบดีกำลังถูกลอบสังหารจากบุคคลที่ไม่หวังดี แม้เขาจะไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่อยากให้เขาตาย แต่สิ่งเดียวที่เขาต้องทำในเวลานี้คือการพึ่งพาเด็กชายวัย 13 ปี ในการจับมือกันเพื่อเอาตัวรอด

ถ้ามองข้ามเรื่องราวของฉากวินาศกรรมระเบิดภูเขาเผากระท่อมอย่างบ้าคลั่งแล้ว อันที่จริงตัวหนังเรื่องนี้มันบอกเล่าเรื่องราวของ “อำนาจ” ของผู้คนจากคนละซีกโลก คนหนึ่งเป็นถึงชายที่ว่ากันว่ามีอำนาจมากที่สุดคนหนึ่งในโลก ในขณะที่อีกคนเป็นเด็กน้อยในป่าที่น่าจะมีอำนาจน้อยที่สุดในโลกเช่นกัน แต่ทั้งสองคนกลับต้องมาจับมือกันเพื่อเอาชนะคนอีกกลุ่มที่หวังจะปล้นอำนาจจากประธานาธิบดี 

อำนาจของประธานาธิบดีกลายเป็นสิ่งไร้ค่าไปโดยปริยาย เมื่อเขาไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่ของตัวเอง เมื่อเขามาอยู่ในป่าของโอสคาริแล้ว เขาก็ต้องน้อมรับการ “นำทาง” ของเด็กชาย หรือทำตามวิถีของโอสคาริ นั่นคือการเดินทางไปล่าสัตว์เพื่อพิสูจน์ความเป็นชายนั่นเอง แม้ตอนแรกทั้งสองจะต้องใช้เวลาในการปรับตัว แต่เมื่อทั้งคู่เริ่มไว้ใจซึ่งกันและกัน ต่างก็ยอมที่จะเปิดใจถึงขั้นที่ว่าประธานาธิบดียอมเล่า “ความลับ” ที่ไม่มีใครในโลกล่วงรู้มาก่อนให้กับโอสคาริฟังว่าจริงๆแล้วชายที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกอย่างเขาก็มีเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้าไม่ต่างจากมนุษย์ทั่วไปอยู่ดี 

อันที่จริงแนวคิดเรื่องการล่าสัตว์นั้นก็เป็นการบ่งบอกถึงเรื่องอำนาจทางอ้อมอยู่ดี การล่าสัตว์เป็นการบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งที่เขาอยากจะเป็น เพราะเมื่อพ่อเขาอายุ 13 พ่อของเขาล้มหมีในป่าได้ เด็กชายจึง อยากจะเจริญรอยตามและพาประธานาธิบดีเข้าป่าไปด้วยเพื่อให้มีใครสักคนได้เห็นและรับรู้ถึงความสำเร็จของเขา แม้ว่าสิ่งที่เขาได้พบนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจอยู่ไม่น้อย เมื่อความรักของพ่อโอสคาริกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เขามองย้อนกลับมาที่ตัวเองแล้วพบว่าเขายัง “ไม่พร้อม” 

แต่สถานการณ์จริงเมื่อประธานาธิบดีและโอสคาริต้องก้าวผ่านความไม่พร้อมไปด้วยกันเพื่อเอาชีวิตให้รอดจากศัตรู แต่ที่เหนือชั้นไปกว่านั้นก็คือ หนังเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้สองตัวเอกรู้ว่า “ผู้ร้ายตัวจริง” นั้นหาใช่คนที่พวกเขาประจันหน้าอยู่ แต่ยังมีคนอีกกลุ่มที่ชักใยอยู่เบื้องหลังและรอจังหวะที่จะฉกอำนาจจากประธานาธิบดีมาอีกครั้ง....... เมื่อสบโอกาส 

@พริตตี้ปลาสลิด

มอบให้ 4 คะแนนจาก 5 คะแนน 


ที่มา  //movie.sanook.com/49737/



Create Date : 23 เมษายน 2558
Last Update : 23 เมษายน 2558 7:58:11 น. 0 comments
Counter : 1533 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.