นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

(21 ก.ย.58) สืบเนื่องจากที่โลกโซเซี่ยลได้เปิดประเด็นซึ่งได้แชร์ข้อความในเฟซบุ๊ก ถึงเรื่องผู้ทำหน้าที่กู้ภัย หน่วยขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร โอดน้อยใจที่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 และปีที่ 6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาล ต.ขมิ้น จำนวน 7 คน ที่มาเป็นอาสาด้านกู้ชีพกู้ภัย ถูกทางโรงเรียนสั่งห้ามไปเป็นจิตอาสาทำหน้าที่กู้ภัย กับหน่วยกู้ภัยขมิ้นซึ่งเป็นหน่วยงานด้านกู้ชีพกู้ภัยช่วยกิจการตำรวจ และเป็นหน่วยช่วยเหลือด้านระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินเบื้องต้น ซึ่งอยู่ในการควบคุมโรงพยาบาลศูนย์สกลนคร

โดยทางโรงเรียนอ้างว่า เด็กเหล่านี้ถูกร้องเรียนมาว่า มีการไปมั่วสุมในตู้ยามตำรวจ สภ.ขมิ้น ถนนสกลนคร-อุดรธานี และมีการขาดเรียนเป็นประจำทำให้เสียการเรียน และกลับบ้านเกินเวลา จึงมีการออกคำสั่งห้ามเมื่อ 3 วันก่อน จนเป็นที่มาของการเกิดการดราม่าบนโลกโซเซี่ยล ว่าเรื่องนี้มีข้อเท็จจริงอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ละคนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงความเหมาะสมของคำสั่งดังกล่าว

จนล่าสุดทางคณะครูและ ผู้บริหารของโรงเรียนดังกล่าว ร่วมกับ จนท.ตำรวจ สภ.ขมิ้น จนท.ชุดกู้ภัยขมิ้น ผู้ปกครองของเด็กที่ถูกออกคำสั่งห้ามให้เป็นอาสากู้ชีพกู้ภัย ได้ประชุมกันเพื่อหาทางออกกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะทาง จนท.ตำรวจ สภ.ขมิ้น เองก็เสียหายจากเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเหตุใดชุดกู้ภัยขมิ้นถึงปล่อยให้มีการมั่วสุมกันอยู่ข้างตู้ยาม สภ.ขมิ้น ซึ่งเป็นจุดสแตนบายของชุดกู้ภัยขมิ้น

โดยตำรวจก็ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นข้อเท็จจริงเพราะ ทุกๆ วัน ทางชุดกู้ภัยขมิ้นจะมีการมาสแตนบายอยู่ในจุดดังกล่าว โดยมีผู้ใหญ่ของชุดเป็นผู้กำกับอยู่ในความดูแลเป็นระเบียบเรียบร้อยและตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ชุดกู้ภัยขมิ้นได้ปฏิบัติงานด้วยจิตอาสา ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ผู้ประสบภัยทุกรูปแบบ อย่างไม่มีบกพร่อง

ส่วนเด็กๆ ที่เป็นอาสาเข้ามาช่วยในชุดกู้ภัยขมิ้น ทางตำรวจเผยว่า ไม่ได้มีนิสัยเกเรแต่อย่างใด กลับมีความมุ่งมั่นในการเสียสละเวลาจากการเรียน มาช่วยงานระหว่าง 18.00-21.00 น. ก็จะแยกย้ายกันกลับและเชื่อว่าออกจากจุดนี้ไป ทุกคนกลับบ้านไปหาครอบครัวและไม่น่าจะเถลไถลไปไหนเพราะเยาวชนเหล่านี้ จนท.ตำรวจทุกคนก็จำกันได้หมด คงไม่กล้าไปเกเรหรือทำสิ่งผิดกฏหมายอย่างแน่นอน

ขณะที่ด้านผู้ปกครองก็ยืนยันว่าไม่ทราบว่า ใครเป็นคนไปร้องเรียนกับทางโรงเรียนถึงเรื่องดังกล่าว เพราะปกติทางผู้ปกครองก็ทราบดีอยู่แล้ว ว่าลูกหลานของตนไปทำอะไรที่ไหน ก็ทราบดีอยู่แล้วว่าไปช่วยงานอาสากับชุดกู้ภัยขมิ้น ก็เห็นดีด้วยไม่เห็นว่าจะเถลไถลที่ไหนถึงเวลาก็กลับ

อีกทั้งก็ไม่ได้เสียการเรียน เพราะทุกคนที่ไปช่วยนอกจากจะเป็นจิตอาสาแล้ว ยังเป็นการเรียนด้านพื้นฐานในสายการเรียนที่สูงขึ้นไป บางคนใฝ่ฝันอยากเป็นหมอเป็นพยาบาล ก็ถือได้ว่ามาเรียนรู้ขั้นพื้นฐานกับผู้ใหญ่ที่เข้าพาทำงาน ในด้านงานบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน

ทางผู้ปกครองกล่าวอีกว่า จากการชี้แจงแล้วทางเรียนจึงเข้าใจว่าสำหรับเรื่องดังกล่าว ครูผู้บริหารอาจมีความเป็นห่วงเป็นใย ของทางนักเรียนในโรงเรียนหวั่นเสียการเรียน อีกทั้งการร้องเรียนเข้ามา ทางผู้ปกครองคนอื่น อาจได้ยินเขาเล่าหรือว่ามาโดยยังไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง อีกทั้งทางโรงเรียนก็ได้รับการรับรอง จากสถานีตำรวจภูธรขมิ้นยืนยันว่าไม่ได้เป็นตามที่มีการกล่าวอ้าง เพื่อออกคำสั่งห้ามเด็กนักเรียน เมื่อได้รับทราบและเข้าใจแล้ว ทางโรงเรียนและคณะครูจึงเห็นควรยกเลิกคำสั่งดังกล่าว เพื่อให้เกิดความสบายใจต่อทุกฝ่ายรวมถึงเด็กนักเรียนที่ไปช่วยชุดกู้ภัยขมิ้นด้วย และวอนให้สังคมได้เข้าใจซึ่งทุกฝ่ายเห็นสมควรยุติในเรื่องดังกล่าว

ด้าน นายอำนวยผล ไทยจู หัวหน้าชุดกู้ภัยขมิ้น นามเรียนกขาน กู้ภัยขมิ้น 01 กล่าวว่า ในตอนแรกที่ทราบข่าวก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้หน่วยกู้ภัยขมิ้นของตนจะเป็นเพียงแค่หน่วยกู้ภัยเล็กๆ แต่ทำงานในด้านนี้มานานแล้ว 14 ปี ทำงานด้านกู้ชีพกู้ภัยช่วยเหลืองานสังคม ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต จนนับไม่ถ้วน ว่าออกเหตุไม่กี่ครั้ง ช่วยคนมากี่คน

เมื่อก่อนจะมีเพื่อนสมาชิกในรุ่นตนช่วยกันทำกันหลายคน แต่ก็หายจากกันไปตามเวลา จนถึงวันนี้เหลือผู้ใหญ่ในชุด จำนวน 3 คน รวมถึงตน และมีเยาวชนจากโรงเรียนในพื้นที่มาช่วยกันอีก 7 คน ทุกคนที่ตนรับเข้ามาล้วนแล้วมีการคัดกรองเป็นอย่างดี โดยมีกฏเกณฑ์ คือผู้ปกครองต้องอนุญาต ไม่เสียการเรียน และทุกคนเมื่อเข้ามาแล้วจะต้องมีจิตใจที่จะเสียสละ ไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฏหมายทุกชนิด

ไม่เอาหน่วยงานไปแอบอ้างหรือแสวงหาผลประโยชน์ ที่สำคัญ ทุกคนจะต้องมีความรู้ทักษะความสามารถ ต้องเข้ารับการอบรมการเป็นผู้ช่วยในงานด้านการบริการการแพทย์ฉุกเฉิน จากโรงพยาบาลศูนย์สกลนคร และมีการอบรมทบทวนทุกเดือน ให้มีความพร้อมเตรียมออกให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทางถนนหรือผู้ประสบภัยต่างๆ

อย่างไรก็ตาม นายอำนวยผล กล่าวว่า เรื่องว่าเราไปมั่วสุมซึ่งทาง ตำรวจเองก็ให้การยืนยันแล้วว่าไม่เป็นข้อเท็จจริง เราจะไปมั่วสุมได้อย่างไรข้างตู้ยาม ทั้งที่มี จนท.ตำรวจเข้าเวรอูย่ตลอดเวลา และที่ผ่านมาไม่เคยทำเรื่องดังกล่าวแม้แต่ครั่งเดียว ส่วนเรื่องการเรียน กลับดีด้วยซ้ำในระหว่างรอการออกช่วยเหลือประชาชน ทุกคนที่มาก็นำการบ้านมาทำในระหว่างปฏิบัติงานด้วย บางคนฝันเป็นแพทย์ พยาบาล บุรุษพยาบาล เขาก็มาเก็บเกี่ยววิชาพื้นฐานจากตรงนี้ไปเพื่อไปเรียนต่อในสิ่งที่ใฝ่ฝันในอนาคคต

จากเรื่องที่เกิดขึ้น ในเมื่อมีการพูดคุยกันด้วยดี ทางเราก็ไม่ได้ติดใจใดๆ และอยากให้สังคมเข้าใจว่า งานจิตอาสา จิตกุศล คนที่จะมาทำ ต้องคิดดี ทำดี เป็นพื้นฐานอยู่แล้วถ้าจะมีก็ส่วนน้อยทำนั้น 0.1 เปอร์เซ็นต์ที่จะเป็น คนที่ทำ กู้ภัย กู้ชีพ ทุกหน่วย ทั่วประเทศมีเจตนาดี ส่วนที่ไม่ดีก็ตรวจสอบแก้ไขอย่าเหมารวม เพราะจะไปบั่นทอนกำลังใจคนที่ทำดี

อย่างเด็กๆ เหล่านี้ที่อยู่ในความดูแลของตนเราล้วนอยากเห็นเขาเป็นคนดี ถ้าเรารู้จักปลูกฝังแต่เด็ก เขาเหล่านี้ก็จะเป็นกำลังของชาติในอนาคต และขอขอบคุณเพื่อนๆ ชาวกู้ชีพ กู้ภัย ทำงานจิตอาสาทั่วประเทศที่ได้แสดงความเป็นห่วงเข้ามา ซึ่งทุกอย่างจบลงด้วยดีแล้ว และทุกฝ่ายต่างเข้าใจกัน

//news.sanook.com/1869474/