“ไฮ คันทรี่” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถกระบะขนาดใหญ่รุ่นท็อปไลน์ของเชฟโรเลตที่จัดจำหน่ายในอเมริกา ออกแบบสำหรับตลาดระดับบนเพื่อมอบไลฟ์สไตล์การขับขี่ในเมืองใหญ่และยังคงรองรับการใช้งานนอกเมือง

รูปลักษณ์ภายนอกของรุ่นไฮ คันทรี่ ตกแต่งด้วยโคมไฟหน้าสีเข้มเข้ม กระจังหน้าสีเทาอ่อนสลับดำ รวมถึงแผงกันชนเสริม และเสาหลังคากลางด้วยวัสดุพื้นผิวมันเงา

พร้อมกันนี้ยังคงความสวยงามสะดุดตาด้วยการติดตั้งราวหลังคาแนวขวาง โครงเหล็กแบบสปอร์ต ลายโครเมียมด้านข้างตัวรถและกระจกมองข้าง ที่เปิดฝากระบะท้ายสีดำโครเมียม และล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว ที่ยกระดับไฮ คันทรี่ ให้มีความสง่างามมากยิ่งขึ้นและเน้นย้ำความเป็นรถระดับพรีเมียมสำหรับคนเมืองอย่างชัดเจน

ภายในห้องโดยสารของไฮ คันทรี่ ยังได้รับการตกแต่งใหม่ให้มีความหรูหรามากยิ่งขึ้น ด้วยเบาะที่นั่งคนขับเป็นแบบปรับไฟฟ้าหกทิศทาง หุ้มด้วยหนังเกรดพรีเมียมสี Brown Stone ขณะที่บนแผงแดชบอร์ด คอนโซล และพวงมาลัย ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา

ไฮ คันทรี่ยังมาพร้อมระบบสมาร์ทมีเดียเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน เพลง ภาพถ่าย วีดีโอ และระบบนำทาง เมื่อเชื่อมต่อแล้วจะมีการแสดงผลที่เมนู ได้แก่ เพลง รูปภาพและวิดีโอ โทรศัพท์ สมาร์ทโฟน และการติดตั้งขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีน ผู้ใช้สามารถเข้าถึงรายการส่วนตัวและใช้โทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรีรวมถึงฟังก์ชั่นอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย

มาพร้อมกล้องมองหลังที่จะทำงานเมื่อเข้าเกียร์ถอยจอด พร้อมเส้นกะระยะที่แสดงให้เห็นถึงพื้นที่ด้านท้ายรถโดยภาพบนหน้าจอจะเปลี่ยนทิศทางไปตามการหมุนของพวงมาลัย

ติดตั้งเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ เจนเนอเรชั่นที่สอง ความจุ 2.8 ลิตร ให้กำลัง 200 แรงม้า (147 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที เทียบเท่าเครื่องยนต์ใหญ่กว่า รวมถึงผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4

สำหรับความปลอดภัย ไฮ คันทรี่ มาพร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน ระบบกระจายแรงเบรกอิเลคทรอนิคส์ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน

ไฮ คันทรี่ ยังมีค่าบำรุงรักษาที่ประหยัดโดยกำหนดการเข้าตรวจเช็คสภาพรถอยู่ที่ทุก 15,000 กม. ซึ่งมีระยะเวลาการกำหนดเข้าตรวจเช็คสภาพนานกว่าคู่แข่งที่กำหนดการตรวจเช็คไว้ที่ทุก 10,000 กม.

เชฟโรเลต โคโลราโด ไฮ คันทรี่ เตรียมเปิดตัวสู่ตลาดในเดือนมีนาคมนี้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2558

มี 2 รุ่นให้เลือก คือ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 969,000 บาท และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคา 1,029,000 บาท

Create Date : 18 มีนาคม 2558
Last Update : 18 มีนาคม 2558 8:26:01 น.		0 comments
Counter : 2465 Pageviews.
Share Tweet