สามวิญญาณ
เรื่องผีจากคอลัมภ์ขนหัวลุก หนังสือพิมพ์ข่าวสด "เอม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากปีศาจมหัศจรรย์
บ้านของปุ้มเพื่อนดิฉันอยู่ย่านบางพลัด ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ เป็นบ้านใหญ่โตสวยงามมาก เนื้อที่กว้างขวางเกือบหนึ่งไร่ มีต้นไม้ใหญ่น้อยช่วยกรองควันพิษจากถนนดีด้วย บรรยากาศในบ้านปุ้มดูร่มรื่น น่าอบอุ่นเหลือเกิน ตัวบ้านหรือคฤหาสน์สร้างมาไม่ต่ำกว่า 40 ปี ครอบครัวเธอเป็นตระกูลเก่าแก่และทรงเกียรติเป็นที่รู้จักกันดี บ้านนี้มีอาณาบริเวณพอที่จะให้ลูกหลานได้อยู่ร่วมกันหลายครอบครัว
ดิฉันกับปุ้มสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียน จนอายุสามสิบกว่าแล้วค่ะ ดิฉันมีลูกสามคนแล้ว แต่ปุ้มยังครองโสดอยู่ได้อย่างสบายใจ ถือคติ "ถึงจะนั่งคานก็ไม่หนักกบาลหัวใคร"
ฟังแล้วมีความสุขจริงๆ นะคะ ถือว่าปุ้มเป็นคนมีบุญและชื่นชมครอบครัวเธอมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดิฉันมีความรู้สึกที่ดีเหลือเกินทุกๆ ครั้งที่เดินเข้าไปในเขตรั้วของบ้านปุ้ม...อย่าว่าแต่มนุษย์เลย แม้นก กระรอก ผีเสื้อและแมลงต่างๆ ก็ดูจะรักบ้านนี้ค่ะ
แต่แล้วเมื่อเกือบสิบปีก่อนทุกอย่างก็กลับตาลปัตร เพราะความตายที่แสนจะน่าสยดสยองที่สุด เท่าที่เคยได้ยินได้ฟังมา!
เช้าวันเกิดเหตุ ป้าสงวนแม่ครัวจัดข้าวของคาวหวานใส่ถาดเงินใบใหญ่ เดินลงมาแต่แสงอรุณเบิกฟ้า...นี่คือกิจวัตรประจำวันที่คุณป้าอร่ามศรี แม่ของปุ้มต้องลงมานิมนต์พระเพื่อใส่บาตรด้วยตัวท่านเอง...แล้วคุณป้ากับแม่ครัวก็เตรียมตัวเก็บโต๊ะเก็บถาด กำลังจะขึ้นบ้าน
ขณะนั้นมีชายหนุ่มอายุราว 25 เดินเลียบแนวรั้ว แต่งตัวเรียบร้อย ท่าทางคงจะไปทำงาน จังหวะที่คุณป้าอร่ามศรีสบตากับหนุ่มหน้าคมผมหยักศกนั้น ท่านก็รู้สึกเหมือนโลกถล่ม ทุกอย่างขาวจ้า สะเทือนเลื่อนลั่น เสียงกึกก้องกัมปนาทบัดดล!
ร่างของคุณป้าคล้ายถูกมือยักษ์จับเหวี่ยงลอยขึ้นไปในอากาศ แล้วหล่นตุ้บลงมากองอยู่บนสนามหญ้า พอตั้งสติได้ คุณป้าก็มองเห็นความเสียหายชนิดวินาศสันตะโร รถบรรทุกหกล้อคันมหึมาพุ่งเข้าชนรั้วพังเป็นแถบ มันแล่นทะลุเข้ามาในสนาม ท่ามกลางฝุ่นปูนที่ลอยฟุ้งราวกับหมอกควัน รถคันนั้นมันคร่าชีวิตมนุษย์ที่น่าสงสารไปถึง 3 คนในเวลาเพียงเสี้ยววินาที!
ศพแรกคือชายหนุ่มหน้าตาคมคาย บัดนี้กะโหลกส่วนหนึ่งแตกหลุดจากศีรษะ ทำให้ใบหน้าแยกออกไปสองส่วน หน้าอกยุบจนแทบแบน เห็นซี่โครงขาวพุ่งชี้แหลมออกมา
ศพที่สองคือป้าสงวน ร่างแกถูกล้อยักษ์ทับกลางหลังพอดี ตาค้าง ปากอ้า เลือดพุ่งทะลักเหมือนท่อประปาแตกไม่มีผิด
ศพที่สามคือคนขับรถบรรทุก ถูกแรงกระแทกอัดติดอยู่กับพวงมาลัย...ลิ้นแลบออกมายาวเกือบถึงหน้าอก เลือดไหลเป็นธารน้ำตกเลยค่ะ!
แต่ที่น่ามหัศจรรย์ก็คือ นอกจากขวัญเสียแล้ว คุณป้าอร่ามศรีเกือบไม่มีรอยช้ำหรือรอยถลอกแม้แต่น้อย เชื่อกันว่ามีผีบ้านผีเรือน หรือเจ้าที่เจ้าทางมาช่วยปกป้อง
นับจากนั้น ทุกคนในบ้านล้วนหวาดผวา กลัวผีขนาดหนักไปตามๆ กัน ความอบอุ่นกลายเป็นความเย็นยะเยือก นกหนู หมาแมว และแมลงที่ส่งเสียงเสนาะหูอย่างร่าเริงมาหลายสิบปี กลับเงียบสงบราวกับพวกมันอพยพย้ายหนีไปหมดแล้ว
คุณป้าอร่ามศรีไม่สบายใจเลย ท่านทุกข์มากจริงๆ ค่ะ...
คุณป้าเคยโทรศัพท์มาปรึกษาคุณแม่ดิฉัน เราพยายามช่วยหาทางแก้ไขต่างๆ เท่าที่จะนึกได้ คุณป้าทำบุญบ้าน ทำบุญให้ผู้ตาย จัดพิธีพราหมณ์ บวงสรวงเจ้าที่เจ้าทางและศาลพระภูมิ กระนั้นเหล่าลูกหลานและบริวารในบ้านก็ยังหวาดกลัว ต่างขวัญผวากันมาตลอด
คนรับใช้ลาออกไปหลายคน ลูกเล็กเด็กแดงร้องไห้งอแงโดยไม่มีสาเหตุ...บางคนบอกว่าทารกนั้นเห็นวิญญาณ!
คุณแม่ดิฉันพอจะมีความรู้เรื่องพลังจิตอยู่บ้าง แม่บอกว่าอาจจะเป็นกระแสคลื่นของความตายรุนแรงยังแผ่ซ่านอยู่ในบรรยากาศ วิญญาณของเขาทั้งสามน่ะคงไม่อยู่แล้วละ แต่การที่ชาวบ้านใกล้เคียงกับคนในบ้านได้ยินเสียงร้องและเห็นภาพหลอนนั้น อาจเป็นเหมือนคลื่นที่ถูกบันทึกเหตุการณ์ไว้
แล้วเราจะสลายมันอย่างไรล่ะ? เพราะยิ่งมีคนกลัวมาก ผีก็ยิ่งดุมาก!
คำแนะนำก็คือ เมื่อคุณป้าได้ทำบุญ สวดมนต์ และประกอบพิธีมงคลทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้ว เราก็จัดเตรียมงานเลี้ยงสนุกสนาน มีงานให้มากที่สุดเช่นวันเกิดลูกหลาน งานปีใหม่ ติดไฟสว่างไสว มีเพลงให้เด็กๆ เต้นรำกันเต็มที่
พวกไม้ยืนต้นใหญ่ๆ ย้ายไปให้หมด แล้วขุดสระตื้นๆ เป็นสระบัว มีน้ำพุให้นกมากินน้ำ บัวชูช่อสลอน โปร่งและสดใส กลางคืนมีไฟรั้วให้สว่างขับไล่ความเปล่าเปลี่ยว
ปรากฏว่าได้ผลเกินคาดค่ะ! แม้ความสยองจะยังค้างคาอยู่ในความทรงจำ แต่ความอึมครึมน่ากลัวแบบผีสิงก็ถูกขจัดไป แทนที่ด้วยความร่าเริง นกมากินน้ำพุ ปลาที่ว่ายในสระบัวก็ดูมีชีวิตชีวายิ่งนัก...ดิฉันไปหาปุ้มโดยไม่ต้องขนหัวลุกเหมือนตอนเกิดเหตุใหม่ๆ แล้วค่ะ
Create Date : 08 ธันวาคม 2557 |
Last Update : 8 ธันวาคม 2557 8:21:53 น. |
|
0 comments
|
Counter : 783 Pageviews. |
|
|
|
| |